เปิดประสบการณ์ครั้งแรก AKITA JAPAN (17 จุดน่าลอง)

บอกเลยว่าญี่ปุ่นครั้งนี้พิเศษกว่า ครั้งก่อนๆ เพราะเราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ (เรียกว่าใหม่มากในการไปเที่ยวครั้งนี้55+) ทริปนี้เราไปกันที่จังหวัด “อาคิตะ(AKITA)” เมืองนี้เป็นเมืองต่างจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวโซนธรรมชาติหลายที่ มีออนเซ็นที่มีชื่อเสียง เทศกาลหิมะ และน้องหมาอาคิตะสุดน่ารัก ยิ่งถ้าเราไปย่านชนบทของอาคิตะแล้ว บอกเลยว่าโคตรชิล บรรยากาศดี ผู้คนน่ารักมากๆ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแหล่งช้อปปิ้งอย่างย่านที่มีชื่อเสียง แต่ที่นี่มีเสน่ห์มากๆ ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เราทำหลายอย่าง มีอาหารพื้นเมืองอย่างเมนูที่ทำจากเนื้อหมี หรือไก่ของญี่ปุ่นให้เราได้เปิดประสบการณ์ลองชิม ได้เรียนรู้วิธีทำด้วย และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ คือเราได้ไปกินไปนอนใช้ชีวิตแบบเค้าเลย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของทริปอาคิตะอยากรู้ว่าเราไปเปิดประสบกาณ์ที่ไหนบ้าง ไปตามดู ตามอ่านกันได้เลย 🙂

1. Kakunodate สถานีรถไฟ

………………………………………………
สถานีรถไฟเล็กๆ ในเมือง Kakunodate ที่สถานีนี้มีรถไฟชินกังเซ็นวิ่งมาจอดที่สถานี Kakunodate เลย โดยสามารถเดินทางจากโตเกียวมาได้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเดินทางมาเที่ยวที่เมือง Kakunodate จังหวัด Akita
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/R2n5qFPAyf72

2. Kimono Kinuya ร้านเช่ากิโมโน
………………………………………………
มาญี่ปุ่น ต้องลองการเช่าชุดกิโมโนใส่แล้วเดินเที่ยวซักครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เช่าใส่เดินเที่ยวแบบจริงจัง55+ แถมพิเศษสุดคือ ใส่เดินเที่ยวถ่ายรูปท่ามกลางหิมะเลย เย็นยะเยือก แต่ก็ได้อีกอารมณ์หนึ่ง (แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำเป็นช่วงอากาศเย็นๆ แต่ไม่ต้องถึงกับมีหิมะตกจะดีมาก) สำหรับใครที่มาเที่ยวที่จังหวัดอาคิตะ(Akita) ก็สามรถเช่าชุดกิโมโนใส่เดินเที่ยวได้เหมือนกัน และที่เที่ยวของเมืองคาคุโนะดาเตะ ก็มีร้านเช่าชุด อย่างร้าน “Kimono Kinuya” อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟคาคุโนดาเตะ แต่งตัวเสร็จก็ไปเดินเที่ยว ถ่ายรูปได้ที่บริเวณหมู่บ้านซามุไรคาคุโนดาเตะ และพิพิธภัณฑ์อิโอะยากิ ซามูไร มาโนะ ได้เลย

ปล. การเดินทางสามารถนั่งรถไฟสาย Akita Shinkansen มาลงที่สถานี Kakunodate ได้เลย
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kimono-kinuya.com
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/gF8JztkEJ6k
+ ค่าเช่าชุด : ค่าเช่าชุดกิโมโน 4,000 เยน และบริการทำผม 500 เยน (ไม่รวมภาษี)
+ เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น.
+ เบอร์ติดต่อ : 0120-381-529 (กรุณาโทรจอง)
*ในฤดูร้อนมีบริการให้เช่าชุดยูกาตะ
*มีบริการรับส่งถึงบริเวณบ้านพักซามูไรฟรี

3. Aoyagi Samurai Manor Museum พิพิธภัณฑ์ซามูไร
………………………………………………
ใครมาเมืองคาคุโนดาเตะ ก็ต้องมาเที่ยวย่านหมู่บ้านซามูไรและพิพิธภัณฑ์อิโอะยากิ ซามูไร มาโนะ เมืองคาคุโนะดาเตะ เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดอาคิตะ เป็นย่านที่อยู่อาศัยของซามูไรสมัยโบราณ และยังคงสภาพบ้านเรือนแบบโบราณให้เราได้เห็นอยู่ อย่างพิพิธภัณฑ์อิโอะยากิ ซามูไร มาโนะ (Aoyagi Samurai Manor Museum) ที่มีอายุกว่า 400 ปี ซึ่งจะเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ภายในก็จะมีห้องครัว ห้องรับแขก ห้องเก็บอาวุธ และห้องอื่นๆ ให้เราได้เดินชม แต่ละห้องสร้างเพื่อการใช้งานจริงๆ อย่างทางเข้าก็จะมีเพดานไม่สูง เพื่อป้องกันศัตรูเข้ามารอบทำร้ายโดนจะไม่สามารถยกดาบฟันได้ (อันนี้เป็นไอเดียที่เราคิดไม่ถึง55+) และนอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็จะมีย่านร้านค้า ร้านของฝาก ให้เราได้เสียตังค์ช้อปปิ้งกัน สำหรับไฮไลท์ของเมืองนี้คือ ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิประมาณเดือนเมษายน เราก็จะเจอกับซากุระบานสะพรั่งสวยมากๆ (อันนี้ดูข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต55+ แต่ก็อยากไปช่วงนี้มากก)
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.samuraiworld.com/english/index.html
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/Fh7Z9YdJJ4G2
+ ที่ตั้ง : Omotemachishimocho-3 Kakunodatemachi, Semboku, Akita Prefecture 014-0331 ญี่ปุ่น
+ ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ : 500 เยน
+ เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น.

4. Ryotei Inaha ร้านอาหารพื้นเมือง
………………………………………………
ร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์อิโอะยากิ ซามูไร มาโนะ เดินเล่นถ่ายรูปมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็แวะกินข้าวมาพอดี ร้าน Ryotei Inaha เป็นร้านอาหารพื้นเมืองร้านหนึ่ง ที่ใครมาเที่ยวเมืองคาคุโนดาเตะก็มาลองชิมกันได้ นอกจากร้านจะน่ารักมีความเป็นญี่ปุ่นแล้ว(ก็ที่นี่คือญี่ปุ่น55+) ยังมีอาหารพื้นเมืองให้เราได้ชิมกันด้วย อย่างคิริทัมโปะ Kiritanpo หรือ ทัมโปะ เป็นเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดอาคิตะเลย ทำจากข้าวบดแล้วมาพันไม้ นำไปย่างไหม้ ทาด้วยซอสมิโสะ นอกจากเมนูนี้แล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ อีกที่เราอาจจะไม่เคยกินที่ไหนอย่างแอปเปิ้ลชุปแป้งทอด (อร่อยไปอีกแบบ)
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/usJHsqZwUcz

5. Tsuru No Yu Onsen ออนเซนและที่พักแบบเรียวกังที่เก่าแก่ที่สุด
………………………………………………
มาอาคิตะ ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาแช่ออนเซ็น ที่นิวโตะออนเซน(Nyuto Onsen) จะมีออนเซนทั้งหมด 7 แห่ง และที่ Tsuru No Yu Onsen หรือที่พักเรียวกังของเรา เป็นออนเซนที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 400 ปีมาแล้ว มีออนเซนน้ำนมกลางแจ้งขนาดใหญ่ สีของน้ำจะมีสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม (ไปตอนฤดูหนาวหิมะตก เรียกว่าแช่ออนเซนท้าลมหนาวกันเลย) ที่นี่มีโซนห้องพักแบบเรียวกัง ห้องน้ำรวม มีบ่อออนเซนกลางแจ้งแบบบ่อรวมชายหญิง แยกชายหญิง และห้องส่วนตัว มีโซนร้านค้า ของที่ระลึก (แอบบอกว่าที่นี่มีเบียร์พื้นเมืองขายด้วย) มีโซนห้องอาหาร อาหารก็จะเป็นอาหารพื้นเมืองอย่างคิริทัมโปะ และปลาอิวานะย่าง บอกเลยว่าใครมาที่นี่ต้องประทับใจทั้งอาหาร บรรยากาศ และความสวย ความอันซีนของที่พัก ยิ่งไปตอนหิมะปกคลุมขาวไปหมด มองไปจะเห็นไอขาวๆ พุ่งขึ้นมาจากบ่อออนเซน เห็นแล้วฟินมากๆ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่สุด 🙂
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.tsurunoyu.com/english.html
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/RXffge7qJeD2
+ เบอร์ติดต่อ : +81 187-46-2139
+ ราคาห้องพักเริ่มต้น : 8,550 เยน (15,900 เยนรวมภาษี)
*ห้องพักคิวจองยาวมาก เพราะเป็นที่ได้รับความนิยม แต่ถ้าไม่ค้างคืนเราสามารถเข้าไปแช่ออนเซ็นได้ช่วงเวลาประมาณ 10:00 – 15:00 น.

6. Tazawa ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น
………………………………………………
ทะเลสาบ Tazawa ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่นนนน และลึกเป็นอันดับที่ 17 ของโลก ความลึกประมาณ 423.4 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 25.8 ตารางกิโลเมตร สีของทะเลสาบจะมีสีน้ำเงิน และนอกจากความสวยงามของทะเลสาบแล้ว ที่นี่ยังมีเรื่องเล่า “ตำนานทัสสึโกะ” เป็นหญิงสาวที่มาขอพรให้มีความงามเป็นอมตะ โดยที่เทพเจ้าให้ดื่มน้ำพุร้อนที่ไหลมาจากตอนเหนือ เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นมังกรอยู่ที่ทะเลสาบ Tazawa และต่อมาก็มีชายหนุ่มฮาจิโร ที่เป็นมังกรเหมือนกัน ได้มาพบรักกันและทั้งสองก็ครองรักกันที่ทะเลสาบ Tazawa ความรักของทั้งสองอบอุ่นมาก จนทำให้ทะเลสาบที่นี่ไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว (เรื่องเล่าละเอียดลองหาอ่านเพิ่มเติมได้นะครับ) ใครไปที่ทะเลสาบก็จะเห็นรูปปั้นผู้หญิงสีทองตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เป็นอีกจุดไฮไลท์ที่ใครมาอาคิตะและต้องมาถ่ายรูปเช็คอิน
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/6YL9RuyoJ4N2

7. Snow Monsters ปีศาจน้ำแข็ง
………………………………………………
สโนว์มอนเตอร์(Snow Monsters) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของจังหวัดอาคิตะเลยก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวช่วงฤดูหนาวบอกเลยว่าห้ามพลาดอีกแล้ว สโนว์มอนเตอร์จะอยู่บนยอดเขา Moriyoshi เราต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปจากจุดจอดรถ บริเวณ Ani Ski Area​ ขึ้นไปประมาณ 20 นาที ระหว่างทางเราก็จะเห็นวิวที่มีหิมะเกาะต้นไม้ บอกเลยว่าสวยมากๆ สโนว์มอนเตอร์ หรือภาษาญี่ปุ่น จุเฮียว Juhyo เป็นต้นไม้ อาโอโมริ โทโดมัสสึ ที่มีหิมะเกาะทั้งต้น จนกลายเป็นรูปล่างต่างๆ เป็นการสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้สวยงามมากๆ ตรงจุดขึ้นกระเช้าเราอาจจะได้เจอน้องหมาอาคิตะอีกด้วย
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://aniski.jp/englishpanf.pdf
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/vW6LRbrykXH2
+ การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Nairiku Jukan ลงที่สถานี Aniai และต่อรถแท็กซี่ไปที่ลานสกี Ani Ski Area
+ ค่าบริการกระเช้าไป-กลับ : ผู้ใหญ่ ราคา 1,800 เยน และ เด็ก ราคา 800 เยน
+ เวลาเปิด-ปิด : 8:30 – 16:00 น.
+ ระยะเวลาเข้าชม : ประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม

8. Uttou Onsen ร้านอาหารพื้นบ้านแบบจังโกะ (เมนูเนื้อหมี)
………………………………………………
อาหารพื้นบ้านแบบจังโกะ จังโกะ เป็นภาษาท้องถิ่นของจังหวัดอาคิตะ เป็นการปรุงอาหารด้วยวิถีท้องถิ่น คือนำเอาวัตถุดิบที่สามารถหาจากบริเวณนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ในป่า หรือแม่น้ำ วัตถุดิบที่ได้จากป่า(แต่ละฤดูกาลก็จะมีไม่เหมือนกัน) ไม่ว่าจะเป็น ผัก เห็ด ปลาอิวานะไก่ญี่ปุ่นฮิไนจิโดริ และที่ไฮไลท์ คือ เนื้อหมี หมีจริงๆ หมีตัวดำๆ ถ้ามาร้านนี้เราจะได้มีโอกาสชิมเนื้อหมี (บอกเลยว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต) แต่อย่าพึ่งตกใจว่ากลัวหมีจะหมดหรือสูญพันธุ์ การล่าจะมีหลักเกณฑ์และระบบควบคุม ทั้งหมดเป็นวิถีชิวิตแบบสมัยก่อนที่จะต้องออกไปล่าสัตว์ เก็บพืชผัก ของป่าเพื่อมาทำเป็นอาหาร ใครมาเที่ยวและอยากมาเรียนรู้ มาชิมอาหารแบบดั้งเดิม ก็สามารถมาลองกันได้นะครับ
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.mataginosato.com
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/QQDG6EyRPXn
+ ราคาอาหาร : 1 เซ็ท ราคาประมาณ 4320 เยน (รวมภาษี) ต้องจองล่วงหน้าประมาณ 5 วัน

9. Yuze Hotel โรงแรมวิวดี
………………………………………………
Yuze Hotel โรงแรมวิวดี ติดภูเขา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เรียกว่าถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติเลย ที่นี่มีออนเซ็นแบบแช่แล้วดูวิวแม่น้ำเลย มีทั้งออนเซ็นแบบรวมและส่วนตัว ที่นี่ก็จะมีที่พักแบบเรียวกัง และเป็นเตียงธรรมดา การตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะเป็นไม้ดูแล้วอบอุ่น บริเวณล็อบบี้ มีโซนที่นั่ง เตาผิงไฟด้วย สำหรับอาหารก็มีเมนูพื้นเมืองให้เราได้ชิมกันอีกแล้ว ทั้งเนื้อม้า เนื้อกวาง ปลา ไก่ญี่ปุ่น ห้องอาหารก็วิวดี กินอาหารเช้าไปชมวิว ดูหิมะกำลังตกอย่างฟิน (แอบเห็นภาพโปสเตอร์ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยมากๆ)
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/aTL6DfaytPC2
+ ราคาห้องพักเริ่มต้น : 10,926 เยน

10. Kosaka ใส่ชุดราตรีเดินเที่ยว ถ่ายรูป สำนักงานเหมืองแร่
………………………………………………
ที่จังหวัดอาคิตะ มีสำนักงานเหมืองแร่ Kosaka เป็นเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรีองอันดับหนึ่งของประเทศเลย ต่อมาที่นี่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุด ใครที่มาเที่ยวที่นี่สามารถเช่าชุดราตรี มีให้เลือกกว่า 100 ชุด ใส่เดินถ่ายรูปกับตึกสไตล์เรอเนสซองซ์เลย ให้ความรู้สึกหรูหรามากๆ ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากดีไซน์สวยหรูของตึกแล้ว บริเวณบันไดเวียงตรงโถงด้านหน้าก็เป็นอีกจุดที่น่าถ่ายรูป
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.town.kosaka.akita.jp/kozan
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/efqwtad6QGk

11. Youki na Kasan ลองเมนูขึ้นชื่อ Kiri Tanpo
………………………………………………
เรื่องกินเป็นเรื่องหลักของทริปเลย55+ เข้าเรื่องเลย จังหวัดอาคิตะมีอาหารพื้นเมืองที่ใครมาที่นี่แล้วไม่ควรพลาด นั่นก็คือ Kiri Tanpo นอกจากเราจะกินเป็นแล้ว เราต้องทำเป็นด้วย เราจะได้เรียนรู้วิธีการทำจากป้าๆ ที่น่ารัก ก่อนทำก็จะมีกิจกรรมให้เล่นวอร์มร่างกายกันก่อน จากนั้นเราก็เริ่มทำจากการเอาข้าวมาบดให้ละเอียด นำมาพันไม้ แล้วเอาไปย่างด้วยเตาพิเศษที่มีการคิดค้นขึ้น ใช้เวลาไม่นานมาก พอข้าวสีออกเหลืองๆ ก็สามารถเอามาทากับซอสมิโซะหรือโชยุ ก็สามารถกินได้ แต่ถ้าจะให้ครบสูตร เป็นเมนู Kiri Tanpo แบบอาคิตะ เราจะนำข้าวมาตัดเป็นชิ้นๆ พอประมาณ ใส่ลงไปในหม้อน้ำซุปไก่บ้านญี่ปุ่น ใส่เห็ด ใส่ผัก รอจนสุก จากนั้นก็จัดได้เลย ดูจากภาพแล้วอาจจะดูจืดไม่ไมีรสชาตินะ แต่บอกเลยว่าความเข้มข้นของซุปไก่บ้าน ผัก และข้าวที่เราเอาไปย่าง กินร้อนๆ ท่ามกลางหิมะเย็นๆ นี่โคตรจะฟินเลย (มันอร่อยตรงที่เราได้ลองทำเองตั้งแต่บดข้าว ย่างข้าวเลย55+)
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://kiritanpo.org/company/kaasan
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/YgbqXnH9Fd42
+ เวลาเปิดทำการ : 9:00–17:00 น.

12. Akitainu Hozonkai พิพิธภัณธ์สุนัขอาคิตะแห่งโอดาเตะ
………………………………………………
มาจังหวัดอาคิตะ แล้วไม่เจอน้องหมาสายพันธุ์อาคิตะแล้วถือว่ามาไม่ถึงนะ55+ ถ้าใครมาเดินเที่ยวแล้วไม่เจอน้องหมาเลย แนะนำว่าให้มุ่งตรงมาที่พิพิธภัณธ์สุนัขอาคิตะแห่งโอดาเตะเลย เจอแน่ ที่นี่นอกจากจะมีน้องหมาให้เราได้เจอแล้ว ยังรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับน้องหมาอาคิตะไว้ตั้งแต่อดีตมาจดถึงปัจจุบัน น้องหมาพันธุ์นี้ถือว่าเป็นน้องหมาที่ซื่อสัตย์อีกสายพันธุ์หนึ่งเลย คล้ายๆ กับบางแก้วบ้านเรา คือ จะดุแต่จะเชื่อฟังและซื่อสัตย์กับเจ้าของคนเดียว แต่ก็มีบางตัวไม่ดุเราสามารถเล่นกับน้องได้ แต่จะให้ดีสอบถามเจ้าของก่อนนะครับ และอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนน่าจะเคยได้ยิน หรือได้ดูหนังเรื่อง ฮาจิโกะ ที่ไปเฝ้ารอเจ้านายที่หน้าสถานีชิบุยะทุกวัน จนเจ้าของเสียชีวิต น้องหมาก็ยังไปรอทุกวัน เจ้าฮาจิโกะ ก็คือสายพันธุ์อาคิตะ บอกเลยใครที่ชอบน้องหมาควรมาเที่ยวจังหวัดนี้ เพราะน้องน่ารักมากกก
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.akitainu-hozonkai.com/?lang=en
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/efqwtad6QGk
+ เวลาเปิด-ปิด : 9:00 – 16:00 น.
+ ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน , เด็ก 100 เยน

13. Odate-Mage Wappa ไปทำกล่องข้าวไม้สไตล์ญี่ปุ่น
………………………………………………
อะไรๆ ของอะไรที่ญี่ปุ่นก็จะน่ารักไปหมด รวมไปถึงกล่องข้าวไม้ Mage Wappa ที่เราไปเรียนรู้วิธีการทำมา กล่องข้าวไม้นี้ทำจากไม้ซีดาร์มาทำให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วมาโค้งง้อเป็นรูปทรงกล่องข้าว แล้วจะมีการใช้เปลือกของต้นซากุระมาเย็บประกอบเข้าเป็นกล่องข้าว ที่มีทั้งความสวยงามของลายไม้ และกลิ่นหอมของเนื้อไม้ ผสมผสานได้อย่างลงตัวมากๆ จากที่เราเห็นแค่กล่องข้าวก็ชอบแล้ว แต่พอได้มาลองทำเอง มาเรียนรู้ถึงเรื่องราวของกล่องข้าว ทำให้เราอยากได้และเห็นคุณค่ามันมากขึ้น และนอกจากที่เรามาลองทำกล่องข้าวกันแล้ว ยังอยากช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่นี่ก็มีร้านค้า มีของให้เลือกช็อปปิ้งเพียบบบ ใครอยากมาลองทำบ้าง มากันได้ที่โรงงานผลิต Odate-Mage Wappa
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://odate-magewappa.com/workshop.html

14. Ichi-Rin Farm Stay นอนฟาร์มสเตย์ญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต
………………………………………………
เป็นครั้งแรกอีกแล้ววว ที่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับการมาเที่ยวญี่ปุ่น กับการได้ไปนอนที่บ้านคนญี่ปุ่นจริงๆ ไปกินนอนอยู่กับเค้าเลย ได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นจริงๆ และสำหรับบ้านที่เราไปนอน เจ้าของบ้านมีสวนผลไม้ หนึ่งในนั้นคือแอปเปิ้ล ถ้าเราไปช่วงที่มีลูก เราจะได้ไปเรียนรู้วิธีการทำการเกษตร แล้วยังได้ไปเก็บแอปเปิ้ลสดๆ กับลุงๆ ป้าๆ ที่สวนเลย แต่ช่วงที่เราไปหิมะตกมากๆ ในรอบปี คือแบบว่าหนาวติดลบเลย ได้แค่กินและนอนยาวไป55+ ใครที่มานอนที่ไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารพูดคุยกับลุงป้าเจ้าของบ้านยังไง ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่รู้เรื่อง เพราะลุงป้าก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่ลุงป้ามีตัวช่วยคือแท็บเล็ตแปลภาษาที่จะทำให้เรารู้เรื่องมากขึ้น บอกเลยว่าเป็นการพูดคุยกันสนุกมาก เพราะเราจะงัดเอาสกิลความรู้ทั้งหมดที่เรียนมา รวมถึงภาษากายเข้ามาช่วย 55+ ส่วนอาหารเช้า – เย็น เราจะกินอาหารร่วมกับลุงป้าเลย กินอาหารแบบชาวบ้านเค้ากินกัน บอกเลยว่าดูธรรมดาๆ แต่อร่อยสุด ใครหลงรักญี่ปุ่นแบบเรา อยากให้มาลองนอนฟาร์มสเตย์ซักครั้ง รับรองว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่น่าจดจำมากๆ 🙂
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://stayjapan.com/area/akita/odate/pr/277
+ ค่าที่พัก : ประมาณ 12 , 500 เยน ต่อคนต่อคืน

15. Kodama Jozo ชมการทำสาเกและมิโซะ
………………………………………………
มาอาคิตะทั้งทีต้องไปให้สุด ญี่ปุ่นกับสาเกและมิโซะ เป็นของที่คู่กันมายาวนาน เราได้ไปชมทั้งโรงงานที่ผลิตสาเก และวิธีการผลิตมิโซะด้วย โรงงานนี้มีความเก่าแก่กว่า 140 ปีเลย ระหว่างเดินไปชมแต่ละสถานที่ก็จะมีคนคอยอธิบายและเล่าความเป็นมาของสาเกและมิโซะตลอด จนเราเดินครบทุกจุด มีคนที่สนใจเข้าชมเยอะเหมือนกัน และนอกจากการชมโรงงานแล้ว ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ให้เราชิม และเลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.kodamajozo.co.jp
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/jQzmEXmjBd52

16. SATO YOSUKE AKITA EKIMAETEN ร้านราเมงเส้นเหนียวนุ่ม
………………………………………………
ที่อาคิตะก็มีร้านราเมงรสเด็ดๆ เส้นเหนียวนุ่มอยู่หลายร้านเหมือนกัน สำหรับร้านที่เราไป มีความพิเศษก็คือ จะมีราเมงกับน้ำแกงของไทย ให้เราได้ลองชิมว่าจะเข้ากันไปด้วยกันได้มั้ย น้ำแกงที่ว่านั่นก็คือ น้ำแกงเขียวหวานและน้ำแกงต้มยำกุ้ง เป็นเมนูพิเศษสำหรับคนไทย หรือคนที่ชื่นชอบอาหารไทยเลย เสิร์ฟพร้อมเส้นเหนียวนุ่ม (ชอบเส้นมากๆ) พอได้ลองแล้วก็พอไปได้สำหรับคนที่อยากได้รสชาติไทยหน่อย แต่อาจจะไม่เข้มข้นแบบน้ำแกงที่ไทยจริงๆ นะ แต่เรื่องเส้นต้องยอมเค้าจริงๆ ใครมาเที่ยวแถวในตัวเมืองก็ลองมาแวะชิมกันได้
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.sato-yoske.co.jp
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/PtMjm4rZKXD2
+ เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 21:00 น.

17. Neburi nagashi-kan พิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
………………………………………………
ก่อนปิดทริป เราได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของจังหวัดอาคิตะ ซึ่งที่นี่จะมีเทศกาลแห่คันโต จะจัดขึ้นทุกๆ ปี ช่วงเดือนสิงหาคม มีชื่อเทศกาลว่า “เทศกาลแห่คันโตของอาคิตะ” คันโตหมายถึงการเอาโคมไฟกระดาษหลายอันมาแขวนไว้บนเสาไม้คันโตให้เป็นเหมือนรวงข้าว แล้วใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก เอว ไหล่ ในการทรงตัวไม่ให้ล้ม คันโตจะมีหลายไซส์หลายขนาด ตั้งแต่คันโตที่มีน้ำหนัก 5 กิโลกรัมสำหรับเด็ก และไปจนถึงของผู้ใหญ่ที่มีอาจมีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากทึ่งกับการทรงตัวถือเสาคันโตที่มีความหนักแล้ว ท่าทางในการถือและความสูงของเสาคันโตก็ยิ่งสร้างความน่าตื่นเต้น และน่าทึ่งขึ้นไปอีก เพราะคนที่จะทำได้ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี ใครมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แนะนำให้มาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีโชว์การถือเสาคันโตด้วย
………………………………………………
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.city.akita.lg.jp/kanko/kanrenshisetsu/1003644/index.html
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/HW2e9K9U3sG2
+ เวลาเปิด-ปิด : 9.30 – 16.30 น.
+ ค่าเข้าชม : 100 เยน
+ การเดินทาง : สามารถเดินมาจากสถานี JR Akita ได้ (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)

บอกเลยว่า ทริปอาคิตะนี้เป็นทริปที่โคตรประทับใจมากๆ เพราะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ หลายอย่างมาก ทั้งนอนฟาร์มสเตย์ครั้งแรก เจอคนอาคิตะที่น่ารัก ได้กินเนื้อหมีครั้งแรก ได้ลองทำอาหารพื้นเมือง ไปเจอกับสโนว์มอนสเตอร์ นอนเรียวกังแช่ออนเซ็นกลางหุบเขาที่สวยมากๆ และได้สัมผัสอากาศที่หนาวสุดที่มาญี่ปุ่น เรียกว่าพายุหิมะเลยก็ว่าได้55+ ใครอยากมาเจอประสบการณ์ดีๆ สนุกๆ แบบเรา ลองหาเวลามาเที่ยวกันนะครับ ไม่อยากพูดเยอะ แต่อยากให้มาลองสัมผัสกันด้วยตัวเอง

#ไปเหอะแล้วจะหลงรักญี่ปุ่นเลย

#Japan #Akita #Akitainu #SnowMonsters #KiriTanpo#AkitaKantoFestival #เปิดประสบการณ์ครั้งแรก #เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว#ท่องเที่ยวญี่ป่น #ญี่ปุ่น #อาคิตะ #หิมะ

รีวิวบนเพจ : เปิดประสบการณ์ครั้งแรก AKITA JAPAN (17 จุดน่าลอง)