ออกไปพัก ออกไปหลงรัก “เกาะกูด”

“เกาะกูด บอกเลยใครไม่เคยมาเกากูดต้องมาซักครั้ง”

เพราะมันดีจริงๆ น้ำทะเลใสสวย เกาะยังคงเป็นธรรมชาติ ต้นไม้เยอะเขียวชอุ่ม เงียบสงบไม่วุ่นวาย เหมาะกับการไปพักผ่อนนอนชิลๆ มากๆ

และการมาเกาะกูดครั้งนี้ เราก็มาพักนอนชิลอยู่ที่ To The Sea The Resort Koh Kood

เป็นรีสอร์ทติดชายทะเล วิวดีมาก สำหรับราคาที่พักเริ่มต้นที่ 3,600 บาท และไฮไลท์ของที่นี่ที่เราพลาดไม่ได้เลย คือ ชิงช้ากลางทะเล สะพานไม้ที่ทอดยาวไปที่ทะเล ใครมาแล้วก็ต้องมาถ่ายรูปกันเป็นที่ระทึกกันทุกคน ยิ่งตรงชิงช้านะ ช่วงเย็นๆ จะเป็นอะไรที่ดีมาก นั่งดูแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ที่กำลังตก บอกเลยนั่งดูเฉยๆ ก็ฟินแล้ว

เอาล่ะ มาดูกิจกรรมบนเกาะกูดของเรา ว่าในเวลา 2 วัน 1 คืน ได้ทำอะไรไปไหนบ้าง? 555 บอกเลยใครจะมาเกาะกูดคืนเดียวก็เที่ยวได้นะ แต่มันไม่สุด55 สำหรับกิจกรรมที่คิดไว้ กะว่าจะดำน้ำดูปะการัง เดินเล่นไปน้ำตก หาร้านน่ารักๆ นั่งชิลๆ หาจุดชมวิวสวยๆ ยืนถ่ายรูป พอถึงเกาะเท่านั้นทุกอย่างที่ฝันถึงกับพังทลายด้วยพายุฝน555 แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าได้สนุกไปอีกแบบ อย่างน้อยมาเกาะกูดครั้งนี้ เราก็ได้เดินไปดู “น้ำตกคลองเจ้า”

ที่ใครมาเกาะกูดไม่ควรพลาดที่จะมาเช็คอิน(ส่วนตัวที่นี่สวย แต่ต้องมาตอนน้ำเยอะนะ)

ได้ไปนั่งกินอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ ราคาถูก ที่หมู่บ้านชาวประมง “บ้านอ่าวใหญ่” ที่นี่มีร้านให้เราเลือกอยู่หลายร้านเลย อันนี้ก็แล้วแต่ชอบรรยากาศของร้านเลย

นอกจากอาหารสดๆ อร่อยแล้ว ใครที่ชอบถ่ายรูปวิถีชีวิตชาวประมง ที่นี่เป็นอีกจุดที่ไม่น่าพลาด

ไปต่อกันอีกที่ สำหรับร้านกาแฟน่านั่งวิวดี วิวสวย ใครมาที่เกาะแล้วต้องแวะเช็คอินกันเกือบทุกคน ร้าน “Goodview”

ที่นี่นอกจากจะมีเครื่องดื่ม และขนมให้เรานั่งกินกันแล้ว ไฮไลท์ของที่นี่คือวิวที่สวยมากๆ(ฟังเค้าเล่ามาอีกที55) มองจากบนร้านลงมาจะให้ทะเลสวยมาก น้ำใสมาก แต่เสียใจเราไม่ได้เจอภาพนั้น55 เราเจอพายุฝนเต็มๆ

นั่งติดแหงกในร้านดูสายฝนโปรยปราย เย็นฉ่ำกันเลยที่เดียว พอฝนหยุดตกก็กลับรีสอร์ทไปนั่งรอดูพระอาทิตย์ตก ตอนแรกเกือบหมดหวัง แต่ฟ้ายังมีตา มอบท้องฟ้ายามเย็นสวยๆ ให้เราได้ดูและเก็บภาพเป็นที่ระทึก 555

นอนได้ไม่นาน แปปเดียวก็เช้า ตื่นมาก็ไปหาอะไรกิน เช้านี้อาหารของทางรีสอร์ทจะเป็นแบบสั่งตามเมนูอาหารเช้า มีไข่กระทะ ข้าวต้ม ไส้กรอก เบคอน สั่งได้ไม่จำกัดรอบจนกว่าจะอิ่ม555

พอกินเสร็จเราก็ออกเดินไปถ่ายรูปบริเวณริมหาด สะพานไม้ที่ยื่นไปทะเล ตรงนี้ยิ่งแดดแรงๆ ทะเลจะใสและสวยมากๆ

สำหรับเช้านี้เราไม่ได้ออกไปไหน ใช้เวลาช่วงเช้าอยู่ที่รีสอร์ทเต็มๆ โดยช่วง 11 โมง เราต้องเตรียมตัวนั่งรถไปท่าเรือเพื่อไปขึ้นเรือรอบเที่ยงกลับ

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวออกจากกรุงเทพฯ ประมาณตี 4 ไปถึงท่าเรือบุญสิริประมาณ 9 โมง โดยเราจะไปเรือรอบแรกของเช้าวันเสาร์คือ เที่ยว 10 โมงครึ่ง เรือที่นั่งไปเป็นเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ แต่เรือที่ไปเกาะกูดมีหลายเจ้านะครับลองดูครับ สำหรับเรือของบุญสิริ ค่าเรือเที่ยวละ 500 บาท มีที่จอดรถให้เช่าคืนละ 50 บาท มีรถรับส่งจากจุดซื้อตั๋วไปท่าเรือแหลมศอกประมาณ 1 กิโลเมตร

โดยเรานั่งเรือไปเกาะกูดใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงท่าเรืออ่าวสลัด พอลงเรือไปเราก็เดินไปหาสองแถวที่จะไปรีสอร์ทที่เราพักหรือจองไว้

เดินขึ้นไปถามได้เลย จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 40 นาที ก็จะถึง To The Sea The Resort Koh Kood รีสอร์ทที่เราจองไว้

***และสำหรับคนที่ไม่มีรถไปก็สามารถนั่งรถตู้ไปได้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้เลย 🙂

http://resorts.kokood.com/th/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4/

สำหรับการเดินทางบนเกาะมีทั้งเช่ามอเตอร์ไซค์(ต้องขับค่อนข้างเก่งหน่อยเพราะทางค่อนข้างชัด) และถ้าใครขี้เกียจขับเองก็มีรถเหมาเป็นรถสองแถวเที่ยวทั้งวัน(ราคาที่ถามมาประมาณ 1600 บาทนั่งถึง 10 คน ถ้าไปหลายคนโอเคเลย) ซึ่งทางรีสอร์ทเองก็มีแพจรวมกับรถเช่า สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ ซึ่งเราไปหลายคนก็สะดวกเช่าสองแถวมากกว่า สบายด้วย 🙂

เป็นยังไงบ้าง บอกเลยเกาะกูด มันดีต่อใจมากๆ มีเวลา 2 วัน 1 คืน ก็ไปเที่ยวได้(ขออย่าให้เจอพายุ555) ถ้าอยากได้แบบเต็มอิ่มแนะนำ 3 วัน 2 คืนไปเลย ใครยังไม่เคยมา รีบมาซะนะ แล้วจะหาว่ามีที่ดีๆ แล้วไม่บอก นอกจากที่เที่ยวที่เราไปมายังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าน่าสนมากๆ แต่เรายังไม่ได้ไปเพราะมีเวลาน้อย อีกนิดนึงขากลับเราเจอปลาโลมา มาว่ายใกล้ท่าเรือแหลมศอกให้เราได้ดูด้วยนะ ทริปนี้ถึงจะเจอฝนแต่ก็เจออะไรดีๆ ไม่น้อยเลย อย่าลืมมาเที่ยวเกาะกูดกันนะ 🙂