ช่วงซากุระที่ผ่านมา ผมมีโอกาสโรดทริปที่ “ไซตามะ” ต้องบอกเลยว่าเป็นทริปญี่ปุ่นที่ประทับใจมาก ๆ เลยทีเดียว สีสันครบรสมาก เป็นการเดินทางที่น่าจดจำอีกทริปเลย
.
– เว็บ ToCoo! มีภาษาไทย ทำให้การเช่ารถสะดวกและง่ายมากขึ้น
– มีสต๊อกรถเช่าที่หลากหลายเลือกได้ตามความชอบเลย
– มี ETC (Easy Pass บ้านเรา) เป็น Option ให้เลือกด้วย
– มีให้เลือกรับรถได้ทั่ว แทบจะครอบคลุมทุกภูมิภาคในญี่ปุ่นเลย
.
กรอกโค้ดนี้ TCPKT1 (รับส่วนลดอีก 1,000 เยน เมื่อจองรถ 10,000 เยนขึ้นไป)
โค้ดนี้ใช้จองก่อน 30 กันยายน 2025
แต่สามารถจองรถได้ถึงกุมภาพันธ์ 2026
ได้รถแล้วก็ไปลุยเที่ยวไซตามะกัน
1. บ้านของโทโทโร่ Totoro Fund – Kurosuke’s House
ใครที่ดูอนิเมชั่นเรื่อง My Neighbor Totoro ของค่าย Studio Ghibli แล้วอยากเจอเจ้าน้องโทโทโร่ตัวจริง ก็คือต้องมาที่นี่เลย
.
หลายคนจะเรียกที่นี่ว่า “บ้านโทโทโร่” แต่จริง ๆ แล้วที่นี่คือ “The Totoro no Furusato Foundation” เป็นมูลนิธิอนุรักษ์ป่าไม้อยู่ที่จังหวัดไซตามะ มีกิจกรรมต่าง ๆ และเรื่องราวเกี่ยวกับป่าให้ได้เรียนรู้
สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ฟรีตามเวลาที่แจ้ง
.
ส่วนจุดที่เป็นไฮไลท์ คือ เจ้าน้องโทโทโร่ขนาดเท่าตัวจริงที่นั่งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในบ้าน เป็นมุมถ่ายรูปที่น่ารักมาก ๆ ถ่ายรูปออกมาคิ้วท์สุด ๆ นอกจากนี้ ยังมีของที่ระลึกต่างๆ ให้อุดหนุนด้วย สำหรับรายได้ก็จะนำไปใช้ในการอนุรักษ์ป่า
.
ส่วนใครที่ยังอินกับโทโทโร่อยู่ ห่างจากบ้านโทโทโร่ประมาณ 2-3 กม. จะมีป่าของโทโทโร่ ที่ทางมูลนิธิคอยดูแล ปลูกป่า ใครที่เป็นสายเดินป่าจะชอบที่นี่มาก ๆ เลย
.
+ เว็บไซต์ : http://www.totoro.or.jp/totorofund/index.html
+ ที่ตั้ง : 3 Chome-1169-1 Mikajima, Tokorozawa, Saitama 359-1164, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/yXS3qYNYrFtx5S5C9
+ เวลาทำการ : เปิดวันอังคาร,พุธ และเสาร์ เวลา 10.00 – 15.00 น. (เข้าชมได้ฟรี)
+ การเดินทาง : ถ้าเช่ารถขับสามารถจอดรถได้ด้านหน้าเลย สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Ikebukuro นั่งรถไฟสาย Seibu Ikebukuro ไปลงที่สถานี Kotesashi จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย 9 ไปลงที่ป้าย Dainichido เดินตาม Gps ต่ออีกหน่อย
มุมในบ้านก็น่ารัก
2. ป่าโตโตโร่ Totoro’s Forest
ที่นี่คือสถานที่ที่อยู่ในอนิเมะเรื่อง Tonari no Totoro ที่นี่เราจะได้มทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาในชนบทได้ตลอดทั้งสี่ฤดู มีสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากด้วย
.
นอกจากจะเป็นที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย ที่นี่มีนกมากกว่า 200 ชนิด พืชตระกูลเฟิร์นกว่า 1,400 ประเภท 19 สายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แมลงอีกกว่า 2,500 ชนิด และเต็มไปด้วยพืชต่าง ๆ มากมายที่ขึ้นอยู่โดยรอบ จนที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นขุมทรัพย์ของธรรมชาติ
.
ใครที่เป็นสายเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ แนะนำว่าต้องมาที่นี่เลย
.
+ ที่ตั้ง : Japan, 〒359-1153 Saitama, Tokorozawa, Kamiyamaguchi, 雑魚入351
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/y5mmDdisNaFJU5Fs8
+ เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร พุธ และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.
+ การเดินทาง : ถ้าเช่ารถขับสามารถจอดรถได้ด้านหน้าเลย
3. ย่านเมืองเก่า Kura no machi
เมืองเก่าคุระซุคุริโนะมาจินามิ (Kurazukuri no Machinami) หรือที่เรียกกันว่า คุระโนะมาจิ (Kura no Machi) เป็นย่านเมืองเก่าที่มีอาคารและร้านค้าสร้างขึ้นด้วยกำแพงดินแข็งแรง ตั้งเรียงรายมาตั้งแต่ยุคเอโดะ ราว 100 กว่าปีก่อน ซึ่งยุคนั้นคาวาโกเอะเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองมาก
.
คำว่า “คุระซุคุริ” มาจากชื่อเรียกของอาคารที่มีคุณสมบัติทนไฟ เนื่องมาจากเหตุเพลิงไหม้ในปี ค.ศ.1893 อาคารเสียหายไปมากกว่า 1,300 หลัง แต่อาคารส่วนหนึ่งรอดจากไฟไหม้มาได้ เพ่อค้าแม่ค้าก็เลยยึดเอาโครงสร้างอาคารที่ไม่ถูกไฟไหม้เป็นต้นแบบในการสร้างร้านค้า สถาปัตยกรรมของหลังคา ผนัง และโครงสร้างทนไฟแบบดั้งเดิมนั้นมีเสน่ห์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม
.
ปัจจุบันอาคารเก่าต่างปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แถมใครที่อยากกินของอร่อย ๆ ที่นี่ก็มีร้านของกินแบบท้องถิ่นให้เลือกเพียบเลย ถือว่าเป็นพิกัดที่เป็นไฮไลท์ของไซตามะเลย
.
+ ที่ตั้ง : 1 Chome Motomachi, Kawagoe, Saitama 350-0062, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/LuX88UVFJKZe3Grj6
+ การเดินทาง : ถ้าขับรถไปเองก็สามารถจอดรถตรงจุดจอดแล้วเดินตาม Map ได้เลย แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Hon-Kawagoe เดิน 15 นาที หรือนั่งรถบัส 4 นาที
.
ที่หอระฆังนี้จะดังขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งต่อวัน ก็คือเพื่อเป็นการบอกเวลานั่นเอง โดยจะมีเวลา 6.00, 12.00, 15.00 และ 18.00
4. ข้าวหน้าปลาไหลอายุกว่า 200 ปี Kawagoe Ichinoya
.
+ ที่ตั้ง : Japan, 〒350-0056 Saitama, Kawagoe, Matsuecho, 1 Chome−18−10
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/oLNgLb3jzQoHWdFr7
+ เวลาทำการ : เปิด 2 รอบ 11.00–15.00 น. และ 16.30–20.00 น.
+ การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ Hon-Kawagoe หรือจากย่านเมืองเก่าก็เดินได้อยู่ไม่ไกล
5. จุดชมซากุระ Shingashi Riverbank
.
จริง ๆ ที่นี่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยไม่แพ้กันนะ ถือว่าเป็นอีกจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลย ครอยากได้รูปสวยๆ มาช่วงเช้าๆ หรือจะเป็นช่วงบ่ายรอจนถึงตอนเย็นจะมีการเปิดไฟ ยิ่งทำให้ซากุระสวยยิ่งขึ้น ใครพลาดซากุระปีนี้ไป ปีหน้าก็เก็บแพลนนี้เอาไว้ใช้ได้เลยนะ
.
+ ที่ตั้ง : 108 Hikawacho, Kawagoe, Saitama 350-0851
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/eavFRqMYT4jeejfz8
+ ที่จอดรถ : สำหรับคนขับรถมา มีที่จอดรถติดกับจุดชมซากุระ 30 นาที 200 เยน
+ เดินทางด้วยรถไฟ : นั่งรถไฟ Tobu Tojo Line มาลงสถานี Hon-kawagoe ต่อด้วยรถบัสชมเมือง(บัตร koedo Bus Pass 570 เยน) นั่งรถมาลงที่หน้าศาลเจ้าศาลเจ้าฮิกาวะ ด้านหลังจะเป็นริมแม่น้ำชิงาชิ
6. บ้านเกิดชินจัง Crayon Shin-chan Buriburi Cinema Studio
.
ผมตั้งใจว่ามาไซตามะครั้งนี้ต้องแวะไปที่ “เมืองคาสุคาเบะ” ซึ่งเป็นบ้านของชินจัง ผมจอดรถแล้วก็ใช้วิธีเดินเล่นไปหลาย ๆ จุดของเมือง … พอเดินไปถึงสถานีคาสุคาเบะ จะได้ยินเสียงเมโลดี้เพลงของชินจัง ทำให้รู้สึกว่าเราได้มาถึงบ้านของชินจังแล้วจริง ๆ เป็นอีกหนึ่งดีเทลเล็ก ๆ ที่เรารู้สึกว่าใจฟูสุด ๆ
.
ภายในเมืองก็จะมีกิจกรรมน่ารักกุ๊กกิ๊กให้เราทำ ถ้าใครมีเวลาที่นี่จะมีกิจกรรมคล้าย ๆ แรลลี่ให้เล่นด้วย โดยจุดแรกจะต้องไปที่ Puratto Kasukabe เพื่อเอาใบตราปั๊มแล้วค่อยไปเดินตามจุดเช็คอินต่าง ๆ
.
ต้องบอกว่าเมืองคาสุคาเบะมีความน่ารักมากมายซ่อนตัวอยู่ทุกมุมเมือง ตามร้านต่าง ๆ ก็จะมีของที่ระลึกของชินจังที่มีเฉพาะเมืองคาสุคาเบะเท่านั้น และยังมีรถบัส รถไฟ ที่ตกแต่งเป็นรูปของชินจังและเพื่อนๆ ด้วยนะ ใครเป็นแฟนชินจังต้องฟินสุด ๆ แน่ ๆ
.
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-10-1 Kasukabe, Saitama 344-0061, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/uebePKyPq59HkFCV9
+ ที่จอดรถ :
+ เดินทางด้วยรถไฟ : ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไม่ถึงชั่วโมง มาลงสถานี Kasukabe ได้เลย
มีมุมให้ถ่ายรูปกับครอบครัวชินจังด้วย
7. พิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum
.
พิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum” คือสถานที่ที่รวบรวมเอาวิวัฒนาการรถไฟตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และทุกคนยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ขึ้นชินคันเซ็นรุ่นแรกของญี่ปุ่นด้วย
.
พิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะจัดแสดงเรื่องราววิวัฒนาการรถไฟ เรียงลำดับเป็นปีตั้งแต่ในอดีต แต่ละปีจะมีรถไฟจำลองให้เราได้ดู ส่วนชั้นล่างจะจัดแสดงรถไฟที่ถูกปลดประจำการจอดให้เราได้ชมกนอย่างใกล้ชิด
.
และไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ชินคันเซ็นรุ่นแรกของญี่ปุ่น … รถไฟแต่ละขบวนก็จะมีป้ายบอกเล่าประวัติเรื่องราวต่าง ๆ ที่พิเศษก็คือเราสามารถขึ้นไปนั่ง ถ่ายรูปได้หมด พอถึงช่วงเวลา 10:00 น.และ 15:00 น. ก็จะมีการแสดงโชว์หมุนตัว 360 องศา ของรถจักรไอน้ำคันใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของโถงอีกด้วย
.
ส่วนใครที่มีเด็ก ๆ มาด้วย ที่นี่จะมีกิจกรรมน่ารัก ๆ คือการขับรถไฟจิ๋ววิ่งตามรางรถไฟในพื้นที่ที่จำลองไว้ ถ้าใครอยากขึ้นแนะนำว่าให้จองรอบจากแอป The Railway Museum ก่อน เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รถไฟมีให้เลือกหลายแบบแต่ละแบบน่ารักมาก
.
+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/OmiyaBonsaiArtMuseum/
+ ที่ตั้ง : 〒330-0852 Saitama, Omiya Ward, Onaricho, 3 Chome−47
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/jToQwsb3V7MeeLd19
+ เวลาทำการ : 10.00-17.00 น. (ปิดวันอังคาร)
+ ค่าเข้าชม : 1,600 เยน และเด็ก 300 เยน กดจากตู้หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย
+ การเดินทาง : นั่งรถไฟประมาณ 30 นาที จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Omiya แล้วนั่งรถไฟ New Shuttle ไปลงที่สถานี Tetsudo Hakubutsukan (Onari) ออกจากสถานีก็ถึงพิพิธภัณฑ์รถไฟเลย
8. พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ The Omiya Bonsai Art Museum
.
ความพิเศษของที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะคือพิพิธภัณฑ์สาธารณะแห่งแรกของโลกที่จัดแสดงบอนไซแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บอกเลยว่าเดินเพลินมาก
.
ที่นี่จะมีค่าเข้าชม 310 เยน จะมีแบ่งให้ชม 2 โซน คือ โซนด้านในห้องแอร์ จะเหล่าเรื่องราวความเป็นมาของบอนไซว่ามีจุดเริ่มต้นยังไง แต่น่าเสียดายที่เป็นโซนห้ามถ่ายรูป ส่วนโซนที่ถ่ายรูปได้จะเป็นด้านนอกซึ่งจัดแสดงบอนไซหลายรูปแบบ แต่ละต้นคือสวยมาก เรายังได้เห็นการทำบอนไซดีไซน์แปลก ๆ รวมไปถึงต้นที่มีอายุเป็นร้อย ๆ ปี
.
บริเวณพิพิธภัณฑ์ก็จะมีร้านขายบอนไซ ให้ได้ซื้อมาเลี้ยง มาทำต่อกันด้วย มีให้เลือกหลายแบบเลย ตั้งแต่ต้นเล็กไปจนถึงต้นใหญ่ อย่างที่บอกว่าเป็นหมู่บ้านบอนไซ ก็จะมีให้เลือกหลายร้านเลย
.
+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/OmiyaBonsaiArtMuseum/
+ ที่ตั้ง : Omiya Bonsai Art Museum 〒331-0804 Saitama, Kita Ward, Torocho, 2 Chome−24−3
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/qB7xQp7bPYHyKCV76
+ เวลาทำการ : 9:00–16:30 น. (ปิดวันพฤหัสบดี)
+ ค่าเข้าชม : คนละ 310 เยน
+ การเดินทาง : นั่งรถไฟสายไซเคียวหรือโชนันชินจูกุ จากสถานีชินจูกุ เดินทางมาที่สถานีโอมิยะ เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโทบุเออร์เบินพาร์ค และนั่งรถไฟไปสองสถานี มาลงที่สถานีโอมิยะโคเอ็ง จากนั้นเดินประมาณ 10 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ หรือถ้าขับรถมาที่พิพิธภัณฑ์ ก็จะมีลานจอดรถให้จอดฟรีเลย
.
สำหรับโลเคชันของโรงแรมก็คือสะดวกมากเพราะว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Kitamoto มาก เดินออกจากสถานีรถไฟก็คือเข้าโรงแรมได้เลย ขาดเหลืออะไรก็หาซื้อได้ง่ายเพราะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ ส่วนถ้าใครขับรถมาเองแบบผม ที่นี่ก็จะมีลานจอดรถให้บริการ มีหลายราคาเลย ตั้งแต่ 700-1,000 เยน/24 ชั่วโมง
.
ส่วนห้องที่ผมเลือกพักก็จะเป็นห้องแบบ 2 เตียงแยก เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม มีชุดชากาแฟเตรียมไว้ให้ด้วย ขนาดของห้องถึงจะไม่ใหญ่แต่ก็มีพื้นที่พอให้กางกระเป๋าเดินทางจัดของได้แบบสบาย ๆ
.
ถือว่าเป็นอีกโรงแรมที่สะดวกและราคาสบายกระเป๋าด้วย ใครมาไซตามะก็ลองแวะมาพักที่นี่ดูนะ
#ไซตามะ #บ้านของโทโทโร่ #บ้านเกิดชินจัง #พิพิธภัณฑ์รถไฟ #พิพิธภัณฑ์บอนไซ #บอนไซ #เที่ยวญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น #ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #รถเช่าญี่ปุ่น #Tocoo #VisitJapan #TotoroFundKurosukeHouse #Saitama #ShingashiRiverbank #CrayonShinchan #Kawagoe #TheRailwayMuseum #BonsaiArtMu

