เที่ยว “คันไซ” หน้าฝน 4 จังหวัด ใน 7 วัน
ภูมิภาคคันไซอยู่ภาคกลางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ เฮียวโงะ เกียวโต โอซาก้า ชิงะ นารา วากายามะ และมิเอะ ทริปนี้แอดจะพาทุกคนไปเที่ยว 4 ใน 7 จังหวัดของภูมิภาคคันไซ ถึงทริปนี้จะเป็นคันไซครั้งที่ 2 ของแอดแต่เป็นครั้งแรกในการมาหน้าฝน บอกเลยว่าสวยไม่แพ้ฤดูอื่นๆ เลย อย่างหมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine) ที่ถ้ามีฝนตกตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาเราจะได้เห็นหมอกที่ปกคลุมหมู่บ้านอยู่ แอดพูดได้เลยว่าสวยมากจริงๆ อากาศดีบวกกับความสวยงามที่ได้เห็น ฟินสุดๆ เที่ยวหน้าฝนมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งนักท่องเที่ยวที่น้อย ค่าตั๋วที่ไม่แพง อากาศดี ฯลฯ ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทั้งปีจริงๆ ฤดูไหนก็สวย ทริปนี้แอดบินตรงจากดอนเมืองมาลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ (โอซาก้า) ด้วยสายการบิน NokScoot
4 จังหวัดที่แอดจะพาทุกคนไปมีที่ไหนบ้างและแอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลย แอดบอกเลยว่าสวยทุกที่ แต่ก่อนจะไปเที่ยวกัน ทริปนี้มีอีก 1 อย่างที่ทำให้แอดเที่ยวสะดวก สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย คือการพกบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย (KBank JCB Credit Card) ไปด้วย หมดปัญหาเรื่องการแลกเงิน เพราะได้ส่วนลดรูดแลกเงินเยน 0.15 บาท หรือ 100JPY จากอัตราปกติ หรือรับสิทธิ์แบ่งจ่าย 0% นาน 4 เดือนที่ธนาคารกสิกรไทย แถมใช้บัตรนี้ยังมีเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายครบทุก 800 บาท/เซลส์สลิปในร้านอาหารทั่วโลก หรือจะใช้รูดช้อปปิ้ง ก็แบ่งจ่าย 0% ได้นาน 3 เดือน เมื่อใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์และไต้หวัน แบบว่ากินอิ่มและช้อปเพลินด้วยบัตรใบเดียวได้เลย
ถ้าตอนนี้ใครยังไม่มีบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย ขอให้รีบไปสมัครด่วน เพราะตอนนี้มีโปรโมชัน สมัครบัตรวันนี้ – 31 ธ.ค. 62 ทั้งเป็นบัตรหลักหรือบัตรเสริมใบแรก และมียอดใช้จ่าย 10,000 บาทขึ้นไป ภายใน 30 วันหลังบัตรอนุมัติ รับฟรี Starbucks e-Coupon 500 บาท ถ้ามีบัตรเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปเที่ยวกันแล้ว ตามไปเที่ยวกันเลยยยยย
? 4 จังหวัด
– เกียวโต (Kyoto)
– วากายามะ (Wakayama)
– นารา (Nara)
– โอซาก้า (Osaka)
วันแรก
– สนามบินดอนเมือง
– Ine หมู่บ้านชาวประมง
วันที่ 2
– วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkakuji Temple)
– ป่าไผ่ Arashiyama Bamboo Groves , วัดเทนริวจิ (Tenryu-ji Temple)
– Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment
วันที่ 3
– วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
– ร้านอาหาร Chikurin
– คาเฟ่ Akamon-chaya
– ศาลเจ้าเทพอินาริ หรือศาลเจ้าแดง (Fushimi Inari Shrine)
– ย่านริมน้ำพอนโตโชะ(Pontocho)
– ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama)
– ร้านซุชิ tomi sushi
– Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment
วันที่ 4
– Nachi Falls น้ำตก Nachi
– Dormy Inn Premium Wakayama Natural Hot Spring
– ร้านอาหารเย็น Hamayakitaro wakayama
วันที่ 5
– รถไฟสายเหมียว ทามะ (Tamadensha Train) , สถานีแมวเหมียว Kishi Station
– ตลาดคุโรชิโอะ อิจิบะ (Wakayama Kuroshio Fish Market)
– สวนนารา (Nara Park)
– ย่าน Dotonbori
– Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ
วันที่ 6
– ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha)
– Universal studio japan
– Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ
วันที่ 7
– ตลาดคุโรมง Kuromon Ichiba Market
– ย่านนิปปอนบาชิ เดนเดนทาวน์ (Nipponbashi DENDEN Town)
– ย่าน Dotonbori
รายละเอียดค่าเดินทาง
– 5 วันแรกใช้ JR Kansai WIDE Area Pass สำหรับ 5 วัน ราคา 8500 เยน
– วันแรก ใช้ JR Kansai WIDE Area Pass ได้ทั้งหมด
– วันที่ 2 -3 จ่ายเพิ่มค่ารถเมล์ ที่ Ine 1 เที่ยว 400 เยน
– ซื้อเพิ่ม Kyoto bus One-day pass ราคาใบละ 600 เยน 2 ใบ
– วันที่4 ค่ารถเมล์ที่เกียวโต (Kyoto) 1 เที่ยว 230 เยน
– ที่เหลือไปวากายามะ (Wakayama)ใช้ JR Kansai WIDE Area Pass ได้ทั้งหมด
– วันที่ 5 ซื้อเพิ่ม Kishigawa Line 1 Day Pass ราคาใบละ 780 เยน
– ซื้อเพิ่ม Wakayama Bus 1 Day Pass ราคาใบละ 1,000 เยน
– ซื้อเพิ่ม ตั๋วรถไฟ Kintetsu 2 เที่ยว รวม1,050 เยน
– 3 วันที่เหลือ อยู่ในโอซาก้า ซื้อตั๋วรายเที่ยว
– ค่าตั๋วรถรถไฟ 1,690 เยน
– ค่าแท็กซี่ 1,320 เยน
รายละเอียดค่าที่พัก
– คืนที่ 1 Taiheisou (Ine Kyoto) ราคา 10,800 เยนต่อคนพร้อมอาหารเช้าหนึ่งมื้อ
– คืนที่ 2-3 Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment (Kyoto) ราคารวม 2 คืน 17,092 เยน
– คืนที่ 4 Dormy Inn Premium (Wakayama) ราคา 9,834 เยน
– คืนที่ 5-7 Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ (Osaka)ราคารวม 3 คืน 14,688 เยน
วันแรก : เกียวโต (Kyoto)
แอดบินตรงจากดอนเมืองมาลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ (โอซาก้า) ด้วยสายการบิน NokScoot บินในราคาประหยัดที่บินด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ลำใหญ่ นั่งสบาย เบาะกว้าง เหยียดขาได้ยาว ไม่เมื่อย ไม่อึดอัด ใครจะมาโอซาก้า มีบิน 6 เที่ยวต่ออาทิตย์ และสำหรับเส้นทางดอนเมือง-โตเกียว มีบินทุกวันเลย ใครจะมาเที่ยวโตเกียวหรือโอซาก้า ลองดูรายละเอียดราคาโปรโมชั่นกันได้ที่ www.nokscoot.com/th/
แต่ถ้าใครชอบนั่ง Lounge (ห้องรับรองพิเศษ) ในสนามบิน บัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย สามารถใช้บริการ Airport Lounge ที่สนามบินในญี่ปุ่น 28 แห่ง ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน และฮาวาย แถมยังได้บริการ JCB Plaza Lounge ใน 9 เมืองทั่วโลกอีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารสิกรไทย
หลังจากผ่าน ตม. เอากระเป๋าเรียบร้อย แอดก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ของสนามบินเพื่อซื้อตั๋ว JR Kansai WIDE Area Pass สำหรับ 5 วัน ในราคา 8500 เยน ค่าตั๋วแอดจ่ายด้วยบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย สะดวกมากๆ เลย หลังจากซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อย แอดก็นั่งรถไฟสาย JR HARUKA เข้าเกียวโตเพื่อต่อรถไฟอีกสายไปยังหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในเกียวโต
สถานีเกียวโต
สถานีเกียวโตเป็นสถานีจอดรถไฟชินคันเซ็นทุกสาย การเดินทางทุกอย่างจะเริ่มที่สถานีนี้ ทั้งรถบัส รถไฟ และยังรวมถึงการซื้อบัตรวันเดย์พาส ก็สามารถซื้อจากสถานีนี้ได้เลย ในตัวเมือง Kyoto ส่วนใหญ่จะเป็นรถบัส ถ้าจำเป็นต้องขึ้นรถเมล์มากกว่า 3 เที่ยวต่อวัน ( ค่ารถเมล์เที่ยวละ 230 เยน ตลอดสายต่อคน ) แนะนำให้ใช้ Kyoto bus One-day pass ราคาใบละ 600 เยน สามารถซื้อเก็บไว้ได้ เริ่มใช้งานครั้งแรกสอดบัตรที่เครื่องคิดเงินตรงคนขับรถบัส เครื่องจะทำการแสตมป์วันที่ในบัตร หลังจากแสตมป์วันที่เราสามารถใช้บัตรตามวันที่เท่านั้น 
การซื้อ Kyoto bus One-day pass สามารถซื้อได้ที่ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมติหน้าสถานีเกียวโต(Kyoto Station) จากด้านใน Kyoto Station เดินตามป้าย Central Exit ที่ เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมติหน้าสถานีเกียวโต(Kyoto Station) เลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kyoto-station-building.co.jp/english/
+ ที่ตั้ง : Kyoto-shi, Shimogyo-ku, Higashishiokoji Kamadonocho 901
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/joNKFUw59HaYkdTH6
Ine Kyoto
Ine Kyoto คือหมู่บ้านชาวประมง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมอ่าวทางตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในด้านการประมง แต่ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยบ้านเรือนส่วนใหญ่อยู่ติดอ่าว ริมน้ำ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการออกเรือไปหาปลา หมู่บ้านนี้สวยมาก เพราะมีแบล็คกราวด้านหลังเป็นภูเขา ช่วงหน้าฝนจะมีหมอกปกคลุม และช่วงหน้าหนาวก็จะมีหิมะปกคลุม สุดยอดมาก ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะมาก ทั้งล่องเรือชมอ่าวอิเนะ ให้อาหารนก ตกปลา ปั่นจักรยานเที่ยวรอบอ่าวแบบฟรีๆ ขึ้นไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวที่มองเห็นหมู่บ้านได้จากมุมสูง หรือจะตะลุยชิมอาหารทะเลสดๆ ก็ได้ บ้านบางหลังของที่นี่เปิดบริการให้เราพักได้ด้วยนะ มีให้เลือกหลายแบบ หลายราคา “หมู่บ้านอิเนะ” เป็นหมู่บ้านที่สงบเงียบมาก อากาศดี วิวสวย เหมาะกับการมาพักผ่อนที่สุด
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสนามบินต่อรถไฟ สาย JR HARUKA (ราคาค่ารถประมาณ 3,370 เยน) นั่งไป 5 สถานี ลงที่ Kyoto Station ใช้เวลาเดินทาง 1ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นขึ้นรถไฟ JR Ltd.Express Hashidate Kinosaki (ราคาค่ารถประมาณ 2,980 เยน) เดินมาขึ้นโบกี้สุดท้าย(เป็นโบกี้ที่ไม่ระบุที่นั่งสำหรับคนใช้ Pass )นั่งไป 5 สถานี ลงที่ Fukuchiyama Station แล้วเปลี่ยนสาย ขึ้นรถไฟสาย Ltd.Express Tango Relay (ราคาค่ารถประมาณ 1,550 เยน) นั่งไป 2 สถานีลงที่ Miyazu Station แล้วต่อรถบัสที่ Miyazu Bus Stop นั่งไปประมาณ 50 ป้าย ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง (ราคาค่ารถประมาณ 400 เยน) ลงที่ Ine Bus Stop
: สามารถไปลงที่ Amanohashidate Station ได้เหมือนกัน ประหยัดเวลาในการนั่งรถบัสลงไปอีก และสามารถขึ้นรถไฟขากลับที่สถานี Amanohashidate Station ได้เลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : www.ine-kankou.jp
+ ที่ตั้ง : Ine Bay, Ine-cho, Yosa-gun, Kyoto
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/7CQ3yfDwWUbTihDZ9
Taiheisou ( ที่พัก )
ที่พักคืนแรกแอดนอนที่อิเนะเลย ที่พักชื่อว่า Taiheisou ราคาอยู่ประมาณ 10,800 เยนต่อคนพร้อมอาหารเช้าหนึ่งมื้อ อาหารก็จะเป็นอาหารทะเล ซีฟู้ดเน้นๆ ห้องเป็นแบบเรียวกัง นอนฟูก ตกแต่งน่ารัก บรรยากาศดี มองเห็นวิวหมู่บ้าน ท่าเรือ และทะเลเลย ห้องกว้างมาก คือ 1 หลัง มี 2 ห้อง คือ ชั้นล่างหนึ่งห้อง ชั้นบนหนึ่งห้อง ภายในห้องก็จะมีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำแยกกันเป็นสัดส่วน แอดนอนชั้นบน เห็นวิวอีกฝั่งด้วย ฟินมากกก สำหรับข้อดีของการนอนที่หมู่บ้าน คือ ตอนเย็นๆ จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านด้วย ถ้าคืนไหนอากาศดี ฝนตก เช้ามาจะมีหมอกปกคลุมหมู่บ้าน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://ine-taiheisou.jimdo.com/english/
+ ที่ตั้ง : Ine Bay, Ine-cho, Yosa-gun, Kyoto
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/oG1cShmcfSnzXh1W8
วันที่ 2 : เกียวโต (Kyoto)
วันนี้แอดเดินทางกลับเกียวโต ด้วยการนั่งรถบัสสาย 8 จาก Ine Bus Stop ( ค่ารถคนละ 400 เยน)ไปลง Miyazu Station นั่งรถไฟ JR Ltd.Express Hashidate Kinosaki ไปลงสถานี Kyoto Station หลังจากที่เรามาถึงเกียวโต ที่แรกที่แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวกันก็คือ วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง
วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkakuji Temple)
วัดคินคะคุจิ มีศาลาทองเป็นจุดเด่นของวัด มีสระน้ำขนาดใหญ่ติดกับวัด และยังเป็นวัดในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว มาชมความสวยงาม และถ่ายรูปที่วัดนี้ วัดทอง (Golden Pavilion) เป็นวัดนิกายเซน มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าโรคุองจิ (Rokuonji) ในตอนแรกนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อาศัยหลังสละราชสมบัติของโชกุนอะชิคากะ (Ashikaga Yoshimitsu) และเปลี่ยนมาเป็นวัดนิกายเซนในภายหลัง หลังจากที่โชกุนได้เสียชีวิตลงแล้ว ในปี พ.ศ. 2537 วัดโรกูอง รวมทั้งศาลาทอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วยนะ ช่วงที่แอดมาคือช่วงฤดูฝน บอกเลยว่าสวยมากๆ ความเขียวของสีใบไม้ตัดกับสีของศาลาสีทองได้อย่างลงตัว แต่ถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้จากสีเขียวก็จะกลายเป็นสีแดง เหลือง ส้ม ก็จะสวยไปอีกแบบ หรือถ้ามาหน้าหนาวรอบวัดก็จะถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ สวยทุกฤดูจริงๆ ค่าเข้าวัด 400 เยนต่อคน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสถานี Kyoto Station นั่ง JR San-In Line Sonobe ไปลง Emmachi Station จากสถานีเดินลงมาเลี้ยวขวา ออก หน้าสถานีเลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวขวาข้ามถนน ไป JR Emmachi Eki Bus Stop ขึ้นรถเมล์ สาย市営２０４乙 ไปลง Kinkakujimichi Bus Stop ( ค่ารถเมล์ 230 เยน ตลอดสาย ) จากป้ายรถเมล์เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปข้ามถนนถึง Kinkakuji Temple
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.shokoku-ji.jp/k_access.html
+ ที่ตั้ง : 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, 603-8361 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/3Fe8uRF3twxY2Pep9
+ เวลาเปิด – ปิด : 9:00 – 17:00 น.
หลังจากนั้นแอดก็เดินทางต่อเพื่อไปวัดเทนริวจิ แต่ครั้งนี้แอดไม่ได้เข้าไปในวัดเทนริวจิ เพราะเป้าหมายของแอดตั้งใจจะไปถ่ายรูปที่ป่าไผ่ Arashiyama Bamboo Groves ถ้าจะเข้าวัดเทนริวจิ ค่าเข้าคนละ 500 เยนนะครับ
ป่าไผ่ Arashiyama Bamboo Groves
ป่าไผ่ Arashiyama Bamboo Groves ตั้งอยู่ที่อาราชิยาม่าในเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดังมากๆ ของที่นี่เชื่อว่าถ้าพูดถึงป่าไผ่ต้องนึกถึงที่นี่แน่นอน ป่าไผ่นี้จะอยู่ทางด้านหลังของวัดเทนริวจิสามารถเดินเข้าชมได้ฟรี ถ้าไม่อยากเดินที่นี่มีบริการรถลากแบบโบราณๆ ให้ได้นั่งชมป่าไผ่กันแบบเพลินๆ อีกด้วย นอกจากป่าไผ่ วัดเทนริวจิแล้ว ที่ใกล้ๆ กันยังมีศาลเจ้าโนะโนะมิยะให้เราได้ไหว้ขอพรกันอีกด้วย ป่าไผ่เรียงกันยาวมาก สวยมาก และแอดรู้สึกสดชื่นสุดๆ
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากวัด Kinkakuji Temple ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ที่ป้าย Kinkakujimae Bus Stop ขึ้นรถเมล์สาย 市営５９( ค่ารถเมล์ 230 เยน ตลอดสาย ) ไปลง Yamagoe Nakamachi Bus Stop แล้วขึ้นรถเมล์สาย市営１１( ค่ารถเมล์ 230 เยน ตลอดสาย ) ไปลง ARASHIYAMA TENRYUJI-MAE
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://g.page/arashiyama-bamboo-forest?share
+ เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชม.
Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment
หลังจากถ่ายรูปกันแบบเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับที่พักไปพักผ่อน ที่พักของแอดคืนนี้ชื่อว่า Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment ที่พักน่ารักมากๆ ถ้าดูจากรูปจะเห็นเลยว่าเล็กจริงๆ เพราะเหมือนถูกบดบังจากอาคารรอบๆ ที่สูงกว่า แต่ถึงแม้ภายนอกอาจจะดูเล็ก แต่ภายในห้องนอนก็ครบครัน น่ารักและนอนสบายมากๆ ที่นี่แอดก็ใช้บัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยจ่ายด้วยเหมือนกัน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากวัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) เดิน ไปสถานีรถไฟ Saga Arashiyama Station นั่งรถไฟสาย San-In Line Rapid Kyoto ไปลง Kyoto Station แล้วเดินตามป้าย Central Exit แล้วไปที่ Kyoto Ekimae Bus Stop B2 ขึ้นรถเมล์สาย 市営５０( ค่ารถเมล์ 230 เยน ตลอดสาย ) ไปลง Nishinotoin Rokujo Bus Stop
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 483-1 Tenshitsukinuke 4chome, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8456 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/nH7TjznZ8uGZXTKz9
วันที่ 3 : เกียวโต (Kyoto)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
วันนี้แอดจะพาทุกคนไปถ่ายรูปที่วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) กัน แต่ระหว่างทางที่แอดจะไปวัด ความสวยของหน้าฝนปรากฎให้เราได้เห็นอีกแล้ว หมอกที่ลงมาปกคลุมความเขียวของภูเขา แล้วภาพของหมู่บ้านที่น่ารักๆ พอมันมารวมกัน มันทำให้แอดรู้สึกว้าวได้จริงๆ ความพิเศษของวัดเบียวโดอินคือ ถ้าใครที่มีเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่นอยู่กับตัว ลองหยิบขึ้นมาแล้วเทียบกับรูปที่แอดถ่ายวัดนี้ จะเห็นได้ว่า รูปที่อยู่บนเหรียญคือรูปของวัดเบียวโดอิน ถ้าใครที่มาวัดนี้ส่วนใหญ่จะไปพลาดในการนำเหรียญขึ้นมาทาบแล้วถ่ายรูปคู่กับวัด ค่าเข้าชมวัดคนละ 600 เยน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากที่พักเดินไปที่ Nishinotoin Rokujo Bus Stop ขึ้นรถเมล์สาย 市営５０( ค่ารถเมล์ 230 เยน ตลอดสาย ) ไปลง Kyoto Ekimae Bus Stop เข้าไปใน Kyoto Station ขึ้นรถไฟสาย JR Nara Line Sub Rapid Nara ไปลงสถานี Uji Station จากสถานี ออกตามทางออก South Exit แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปจนถึงแยกใหญ่สะพานข้ามแม่น้ำเลี้ยวขวา ข้ามถนน แล้วข้ามถนน เลี้ยวขวา เดินไปทางซ้าย ก็จะเจอวัด
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.byodoin.or.jp/
+ ที่ตั้ง : Renge-116 Uji, Kyoto 611-0021 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/6NBmVh2yP3eKNgqd7
+ เวลาเปิด – ปิด : 8:30 – 17:30 น.
ร้านอาหาร Chikurin
หลังจากนั้นได้เวลาไปกินข้าวกันแล้ว ร้านที่แอดเลือกชื่อว่า Chikurin เป็นร้านที่ให้บรรยากาศแบบเรียวกัง มีความเป็นญี่ปุ่นๆร้านอาหารวิวสวย ถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จากสีเขียวที่เราเห็นก็จะกลายเป็นสีแดง คงฟินน่าดู อาหารที่นี่จะขายเป็นเซต เริ่มต้นเซตละ 3300 เยน ร้านนี้แอดก็จ่ายผ่านบัตรเจซีบีเหมือนเดิม ง่ายและสะดวกจริงๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/zjyJnFRS2tCQKj8N7
Akamon-chaya
จากของคาวเราก็ต้องไม่พลาดที่จะต่อด้วยของหวาน ร้านที่แอดจะพาทุกคนไป เป็นร้านที่ดังเรื่องชาเขียวมากๆ ทุกอย่างเป็นชาเขียว คนที่ชอบชาเขียวต้องไม่พลาด ร้านที่แอดพามาชื่อว่า Akamon-chaya เมนูที่แอดสั่งคือ Matcha Beer Reguler Matcha 1100 เยน กับ Uji Shinobu 800 เยน หอมชาเขียวและสดชื่นสุดๆ ร้านนี้ยังมีเมนูของหวานอื่นๆ อีกมากมายเลยนะครับ ร้านนี้แอดก็จ่ายด้วยบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย ไม่ต้องแลกเงินสดมาเยอะ แถมยังได้เครดิตเงินคืน 3% เมื่อชำระครบทุก 800 บาท/เซลส์สลิปที่ร้านอาหารทั่วโลกอีกด้วย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.akamon-chaya.com/
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒611-0021 Kyoto, Uji, Renge−２１
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/yYSJpR6RrnAtAzK29
+ เวลาเปิด – ปิด : 10:00 – 17:00 น. (ปิดวันอังคารกับวันพุธ)
ศาลเจ้าเทพอินาริ หรือศาลเจ้าแดง (Fushimi Inari Shrine)
หลังจากอิ่มท้องเราก็เดินทางกันต่อเลยดีกว่า ที่ต่อไปที่แอดจะพาทุกคนไปก็คือ ศาลเจ้าเทพอินาริ หรือศาลเจ้าแดง (Fushimi Inari Shrine) ศาลเจ้านี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ตัวศาลเจ้าตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงเขาที่ระดับความสูง 233 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งภูเขาก็มีชื่อเดียวกันคือภูเขาอินาริ ตั้งแต่ยุคโบราณชาวญี่ปุ่นนับถือเทพอินาริในด้านของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นรูปปั้นจิ้งจอกอยู่จำนวนมากภายในศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งความศรัทธานี้ยังคงอยู่จนปัจจุบัน บรรดาเสาโทริอิที่มากมายของศาลเจ้าแห่งนี้ ล้วนเป็นศรัทธาจากบริษัท ห้างร้าน และโรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละต้นจะมีการจารึกผู้บริจาคไว้ ด้วยที่มีเสาโทริอิเรียงกันมากมาย เลยทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเกียวโตต้องไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกันที่นี่ เพราะสวยงามมากจริงๆ รู้ตัวอีกทีแอดก็เผลอกดชัตเตอร์ไปรัวๆ เลยเหมือนกัน บริเวณรอบวัดมีสตรีทฟู้ด และร้านค้าขายของฝาก ของที่ระลึกเยอะมาก น่าสนใจหลายร้าน เดินดูเพลินเลยทีเดียว
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จาก Byodo-in Omotesando Road เดินกลับไปที่ Uji Station ขึ้นรถสาย Nara Line Local Kyoto ไปลงที่ Inari Station ออกจากสถานีข้ามถนนถึงวัดเลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://inari.jp/
+ ที่ตั้ง : 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ekE1MYm74AAX1AFTA
ย่านริมน้ำพอนโตโชะ(Pontocho)
ย่านริมน้ำพอนโตโชะ(Pontocho) กินพื้นที่บริเวณตั้งแต่ถนนชิโจ(Shijo-dori) ถึงถนนซันโจ(Sanjo-dori) โดยตลอดเส้นทางเดินจะขนานไปกับแม่น้ำคาโมะ ที่นี่เป็นทั้งแหล่งกินดื่มยอดฮิตและยังเป็นย่านเดินเล่นริมน้ำสุดชิวยามเย็น ที่นี่บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการไปนั่งชิล จะไปกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัวหรือคู่รักก็ได้
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสถานี Fushimi-Inari Station ขึ้นรถไฟสาย Keihan Main Line Semi-Express Demachiyanagi (ราคาตั๋ว210 เยน) ไปลง Gion-Shijo Station
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/wDgAYnJTLcLnWFtY7
+ เวลาเปิด – ปิด : 17:00 – 23:00 น.
ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama)
แอดเดินเล่น นั่งชิล ถ่ายรูปอยู่สักพัก แอดก็เดินทางมาที่ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama) กันต่อ ย่านฮิกาชิยาม่าเป็นย่านแหล่งช้อปปิ้งที่ฮอตฮิตมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขนมมากมาย โดยย่านนี้จะอยู่บนเนินเขาทางตะวันออกของเกียวโต เสน่ห์ของย่านนี้ก็คือรูปแบบอาคารบ้านเรือนร้านค้าที่ยังคงความเก่าแก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณระหว่างวัดคิโยะมิสุ (Kiyomizudera) ไปจนถึงศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka) จะเป็นถนนทางเดินแคบๆ สองข้างทางจะมีอาคารไม้ทรงโบราณแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขนมพื้นเมือง ให้ความรู้สึกถึงเมืองเก่าที่ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตในสมัยก่อนอยู่ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การมาถ่ายรูปกับเจดีย์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางทางเดินพอดี เป็นมุมที่ใครมาก็ต้องไม่พลาด
*จุดนี้มุมถ่ายรูปที่เห็นเจดีย์ ที่คนนิยมไปถ่ายรูปจะมี 2 มุม
มุมแรกพิกัดแถวร้าน COHAKU KAIRASHI มุมที่สองพิกัดแถวร้าน Happy Bicycle
+ แผนที่ Gps COHAKU KAIRASHI : https://goo.gl/maps/efdcqqEKK1TfNUo98
+ แผนที่ Gps Happy Bicycle : https://goo.gl/maps/bibCfbcRYtEAdTm29
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : เดินไปที่ป้าย 四条京阪前（バス）ขึ้นรถเมล์สาย 市営２０７乙 ไปลงที่ป้าย Higashiyama Yasui เดินไปที่ ศาลเจ้าเกียวโต เรียวเซ็น โกโคคุ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/JNG7staCHEJH1t5e6
+ เวลาเปิด – ปิด : 10:00 – 18:00น.
Tomi Sushi
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปก็ได้เวลาของมื้อเย็นกันแล้ว คืนนี้แอดจะพาทุกคนไปกินซูชิที่อร่อยและราคาไม่แพง คำละ 60บาท ร้านนี้คนญี่ปุ่นไปกินกันเยอะมาก ร้านชื่อว่า Tomi Sushi ร้านนี้ก็ใช้บัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยจ่ายได้เหมือนกันนะ
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : ขึ้นรถเมล์ที่ป้าย Higashiyama Yasui ขึ้นรถเมล์สาย 市営２０７甲 ลงที่ป้าย Shijokawaramachi Bus Stop แล้วเดินไปที่ร้าน Tomi Sushi
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/a9ragWJCZL8pLGhHA
คืนนี้แอดพักที่ Ostay Kyoto Rokujo Hotel Apartment ที่เดิมเลย
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : เดินมาขึ้นรถเมล์ที่ป้าย Shijokawaramachi Bus Stop ขึ้นรถเมล์สาย 市営２０５乙ลงที่ป้าย Kyoto Ekimae Bus Stop แล้ว ขึ้นรถเมล์สาย 市営５０ไปลง Nishinotoin Rokujo Bus Stop
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 483-1 Tenshitsukinuke 4chome, Shimogyo Ward, Kyoto, 600-8456 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/nH7TjznZ8uGZXTKz9
วันที่ 4 : วากายามะ (Wakayama)
Nachi Falls
วันนี้เราจะเปลี่ยนเมืองกันแล้ว แอดเดินทางจากเกียวโตเข้าเมืองวากายามะ เพื่อไปชม Nachi Falls กัน น้ำตกนะชิ สูง 133 เมตร เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อมองขึ้นไปจากศาลเจ้าฮิโร (Hiro Shrine) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฐานน้ำตกแล้ว ทำให้แอดรู้สึกว่าที่นี่มีความยิ่งใหญ่อลังการมากๆ สวยงามมากด้วย น้ำที่ไหลตกลงมานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นยาอายุวัฒนะ” ซึ่งสามารถดื่มได้จริง ใกล้กับน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji Temple) ที่งดงามโดดเด่นด้วยเจดีย์สามชั้นสีแดงตัดกับน้ำตกนะชิ (Nachi Falls) การไปดูน้ำตกมีหลายจุดที่เราสามารถเดินไปชมได้ ขาไปแอดไปลงที่หน้าวัดเลย แต่ขากลับแอดเลือกลงอีกทางที่เป็นทางเดินป่าสนเพื่อไปชมน้ำตกจากด้านล่าง ระหว่างทางที่เป็นป่าสนแอดก็รู้สึกถึงความสวยงามและสดชื่นมากๆ
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จาก Kyoto Station ขึ้นรถไฟสาย Haruka Limited Express Kansai-Airport ไปลงที่ Tennōji Station แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟสาย Kuroshio Limited Express Shingu ไปลงที่ Kii-Katsuura Station ออกทางเลี้ยวซ้าย ซื้อตั๋ว Nichisan Bus (ค่าตั๋วไป – กลับ คนละ 1000 เยน ) แล้วขึ้นรถไปลงป้ายสุดท้าย Nichisan Bus Stop
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://kumanonachitaisha.or.jp/pavilion/waterfall.html
+ ที่ตั้ง : Nachisan, Nachikatsuura, Higashimuro District, Wakayama 649-5301 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/R9Pa6mRVtmpBQX6U9
Dormy Inn Premium Wakayama Natural Hot Spring
หลังจากนั้นแอดก็เดินทางกลับที่พัก ที่พักของแอดคืนนี้ชื่อว่า Dormy Inn Premium Wakayama Natural Hot Spring รอบๆ ที่พักเต็มไปด้วยร้านอาหารเยอะมาก ที่พักของแอดคืนนี้ห้องนอนสบายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนเดิม
ที่นี่แอดก็จ่ายด้วยบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยเหมือนเดิม
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากน้ำตกเดินมาขึ้นรถเมล์ที่ Nichi Watterfall Bus Stop ลงที่สถานี Kii-Katsuura Station แล้วนั่งรถไฟสาย Kuroshio Kuroshio 24 Limited Express Shin-Osaka ไปลงที่สถานี Wakayama Station เดินตามป้าย Central Exit ออกมาด้านนอกสถานี แล้วเดินไปที่พักได้เลยประมาณ 300 เมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.hotespa.net/hotels/wakayama/
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒640-8331 Wakayama, Misonocho, 3 Chome−３６
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/XQeJo8JSknMNuog47
Hamayakitaro wakayama
หลังจากเก็บของเรียบร้อย แอดก็เดินออกมาจากที่พักเพื่อไปกินมื้อเย็น ร้านที่แอดเลือกชื่อว่า Hamayakitaro wakayama เป็นร้านปิ้งย่าง อาหารทะเลสด อร่อยมากและก็ราคาไม่แพงด้วย แอดเลยสั่งเยอะมากเลย จากที่พักเลี้ยวขวาเดินไปทาง Wakayama Station เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอร้านนี้ หลังจากกินอิ่มแอดก็กลับที่พักไปนอนพักผ่อน เพื่อเตรียมลุยเที่ยวต่อในวันต่อไป
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/TjC8uitU9cZycySSA
วันที่ 5 : วากายามะ (Wakayama)
รถไฟสายเหมียว ทามะ (Tamadensha Train) , สถานีแมวเหมียว Kishi Station
วันนี้สำหรับทาสแมวห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะแอดจะพาทุกคนไปเที่ยวชมสถานีแมว Kishi Station ที่ทุกอย่างมีแต่แมว เป็นแมวไปหมด ทั้งทางเดินตลอดสถานี ในรถไฟ หรือแม้กระทั่งตัวขบวนรถไฟก็มีหูแมว ร้านค้า คาเฟ่ ขนมและน้ำต่างๆ ก็เป็นรูปแมว ของที่ระลึกก็เป็นแมว ที่นี่ไม่ได้มีแต่แมวปลอมนะ แมวจริงๆ ก็มี บอกเลยว่าน่ารักสุดๆ ใครที่ชอบถ่ายรูปหรือใครที่เป็นทาสแมว ถ้าได้มาต้องหลงรักและอยู่นานแน่นอน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : เดินจากที่พักไปที่ Wakayama Station เข้าไปด้านในแล้วเดินตามรอยเท้าแมวไปที่ ชานชาลาที่ 9 แล้วซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ประจำสถานี Kishigawa Line 1 Day Pass คนละ 780 เยน นั่งทามะจังไปลงสุดสถานีที่ Kishi Station
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/k4T78JaNokVBpSgK9
ตลาดคุโรชิโอะ อิจิบะ (Wakayama Kuroshio Fish Market)
เดินเล่นถ่ายรูปกันสักพักใหญ่ๆ แอดก็หิวและ ที่ต่อไปที่แอดจะพาไปก็คือตลาดปลา มีชื่อว่า ตลาดคุโรชิโอะ อิจิบะ (Wakayama Kuroshio Fish Market) ที่นี่ก็จะคล้ายๆ ตลาดปลาที่อื่น ที่เราสามารถเลือกซื้อของสดๆ ได้ด้วยตัวเอง แล้วหลังจากนั้นก็เลือกว่าจะให้ร้านทำให้หรือเราจะมานั่งปิ้งเองก็ได้ แต่ที่นี่มีโชว์แร่ปลาทูน่าด้วยนะ มีวันละ 3 รอบ
รอบที่ 1 เวลา11.00 น. ,รอบที่ 2 เวลา 12.30 น. ,รอบที่ 3 เวลา 15.00 น.
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จาก Kishi Station นั่งรถไฟกลับมาที่ Wakayama Station ออกตามทางออก Central Exit
ซื้อตั๋ว Wakayama Bus 1 Day Pass (ราคาใบละ 1,000 เยน) รอรถเมล์ที่ป้ายหมายเลข 2 ขึ้นรถเมล์ สาย 121 ไปลงที่ Marina Bus Stop
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kuroshioichiba.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 1527 Kemi, Wakayama, 641-0014 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/YSmSYiAZQ5Ehb51w9
+ เวลาเปิด – ปิด : 10:00 – 17:00 น.
กลับไปรับกระเป๋าที่โรงแรม Dormy Inn Premium Wakayama แล้วไปดูกวางที่นารากัน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : ขึ้นรถเมล์สาย 121 ที่ป้าย Marina Bus Stop 2 ไปลงที่ Arochi Bus Stop ข้ามถนนไปรับกระเป๋าแล้วเดินไปที่ Wakayama Station
วันที่ 5 : นารา (Nara)
สวนนารา (Nara Park)
หลังจากกินอิ่มแล้ว แอดก็กลับที่พักเพื่อไปเอากระเป๋าเดินทาง วันนี้เราจะเดินทางเข้าเมืองนารากัน เป้าหมายของแอดก็คือการไป สวนนารา (Nara Park) บอกเลยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังมากๆ ของเมืองนาราเลย ภายในสวนเป็นที่อยู่ของกวางจำนวนมาก เมืองนารานั้นมีกวางเกือบ 1200 ตัว ซึ่งทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนาราไปเลย กวางบ้านเรากินพืชกินผัก แต่กวางที่นี่ไม่ใช่ อาหารโปรดของกวางที่นี่ก็คือขนมเซมเบ้ แปลกแต่ก็น่ารักสุดๆ เราสามารถเข้าไปเดินใกล้ๆ หรือไปเล่นกับน้องๆกวางได้เลย ขนมเซมเบ้ชุดละ 150 เยน
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสถานี Wakayama Statio ขึ้นรถไฟสาย Kuroshio Kuroshio 20 Limited Express Shin-Osaka ไปลงที่ Tennōji Station แล้วขึ้นรถไฟสาย Osaka Loop LineLocalCounter-Clockwise ไปลงที่ Tsuruhashi Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Kintetsu-Nara LineRapid-ExpressKintetsu-Nara ไปลงที่ Kintetsu-Nara Station (ค่าตั๋วคนละ 490 เยน ) แล้วเดินไปประมาณ 5 นาที
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://nara-park.com/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/MtyPoQggNmqjFAZs6
+ เวลาเปิด – ปิด : เปิด 24 ชม.
วันที่ 5 : โอซาก้า (Osaka)
Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ
ถ่ายรูปกับน้องกวางกันแบบเต็มอิ่มแล้ว แอดก็นั่งรถไฟจากนารามาลงที่โอซาก้า คืนนี้เราจะนอนที่โอซาก้ากัน โรงแรมที่แอดพักชื่อว่า Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ หลังจากเก็บของเรียบร้อย แอดก็เดินออกไปหาอะไรกินข้างนอก
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสถานี Kintetsu-Nara Station ขึ้นรถสาย Kintetsu-Nara Line Rapid-Express Kobe-Sannomiya ไปลงที่ Kintetsu-Nippombashi Station (ค่าตั๋วคนละ 560 เยน ) แล้วเดินไปที่พักประมาณ 1 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://crystalhotel.jp/doutonbori2/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/xxrj3wFUA4MTYcWE6
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-17-4 Kawarayamachi, Chuo Ward, Osaka, 542-0066 ญี่ปุ่น
ย่าน Dotonbori
ย่านที่แอดออกมาเดินคือ ย่าน Dotonbori ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารเต็มไปหมด
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/an7hxHCAwSHaeLfE7
? การเดินทาง
เดิน : เดินจากที่พักได้เลย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
Gyukaku Dotonbori Ebisubashi
ร้านแรกที่แอดจะแวะก็คือร้านเนื้อ Gyukaku Dotonbori Ebisubashi เป็นร้านที่มีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และไม่บุฟเฟ่ต์ ราคาไม่แพง แล้วร้านนี้เราก็จ่ายด้วยบัตรเจซีบีเหมือนเดิม หลังจากกินเนื้อเสร็จ แอดก็ไปต่อที่ร้านมันปู Isomaru Suisan ร้านนี้ก็จ่ายผ่านบัตรได้เหมือนกัน สบายใจและกินอิ่มสุดๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps ร้านเนื้อ : https://goo.gl/maps/H4ALywhfW7EUSErk8
+ แผนที่ Gps Isomaru Suisan : https://goo.gl/maps/riYfzKStaFQyLLNT6
วันที่ 6 : โอซาก้า (Osaka)
ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha)
วันนี้แอดจะเริ่มวันใหม่ด้วยการไปศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สะพานโซริฮาชิ(Sorihashi Bridge) สะพานสีแดงทางเข้าศาลเจ้า ถ้าเราเดินมาดูทางด้านข้างของสะพานแดงจะเห็นการสะท้อนกันของสะพานกับน้ำ แอดบอกเลยว่าสวยมากๆ ศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงด้านการขอพร ให้รวย ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : เดินไปที่ Nagahoribashi Station ขึ้นรถไฟสาย Sakaisuji Line Local Tengachaya ไปลงที่ Tengachaya Station (ค่าตั๋วคนละ 230 เยน)เปลี่ยนขบวนไปนั่งรถไฟสาย Nankai Line Local Wakayamashi ไปลงที่ Sumiyoshitaisha Station (ค่าตั๋วคนละ 150 เยน )ออกจากสถานีเดินไปที่ศาลเจ้า
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.sumiyoshitaisha.net/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/DyKDrZpxjMgy7Jho9
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-9-89 Sumiyoshi, Sumiyoshi Ward, Osaka, 558-0045 ญี่ปุ่น
Universal Studios Japan
หลังจากที่เราขอพรกันแล้ว เวลาที่แอดรอคอยก็มาถึง แอดจะพาทุกคนไปตะลุย Universal Studios Japan กัน Universal Studios Japan ตั้งอยู่ที่จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งใน 4 ของ Universal Studios theme parks บอกเลยว่าสนุกแน่นอน เป้าหมายสูงสุดของแอดคือการไปมินเนี่ยนปาร์ค แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปได้ เราต้องมีตั๋วก่อน แอดซื้อตั๋วจาก Klook มาเลย เพราะสะดวกไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋ว แล้วยังสามารถใช้คิวอาร์โค้ดที่ได้รับจาก Klook สแกนผ่านประตูทางเข้าสวนสนุกได้เลย หลังจากที่แอดผ่านประตูเข้ามาเรียบร้อย แอดก็มุ่งหน้าไปที่มินเนี่ยนปาร์คเลย บอกเลยว่าแอดฟินมาก เพราะของหลายอย่างข้างนอกไม่มีขายนะ ต้องซื้อจากที่นี่ มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ของขายเยอะมาก มีคาเฟ่ ร้านขนม ถูกใจแอดสุดๆ บอกเลยว่าแอดแทบเหมาของทุกอย่างไปเลย แต่ถึงแอดจะซื้อของเยอะขนาดไหน แอดก็สามารถใช้บัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยจ่ายได้ทั้งหมด สบายใจ แถมรูดใช้จ่ายในญี่ปุ่นเป็นสกุลเงินเยน จะสามารถแบ่งจ่ายได้ชิลๆ 0% นาน 3 เดือน แถมยังได้คะแนน KBank Reward Point 2 เท่าแบบไม่มีขั้นต่ำอีก พกบัตรไปเดียวจบเลย หลังจากที่แอดซื้อของไปเยอะแล้ว แอดก็ไปอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ถ้ามา ต้องไม่พลาดก็คือ โซนแฮรรี่ ยิ่งมืดตรงนี้ยิ่งสวย ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมมาที่นี่นะครับ
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : จากสถานี Sumiyoshitaisha Station ขึ้นรถไฟสาย Nankai Line Local Nankai-Namba ไปลงที่ Shin-Imamiya Station (ค่าตั๋วคนละ 210 เยน ) เปลี่ยนขบวนขึ้น Osaka Loop Line Kanku-Rapid Kyobashi ไปลง
Universal-City Station (ค่าตั๋วคนละ 180 เยน )
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.usj.co.jp/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/wED85RKdCsqcRbnV9
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031 ญี่ปุ่น
หลังจากเที่ยวสนุก ช้อปปิ้งหนัก แอดก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม คืนนี้เรานอนโรงแรมเดิม Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ
วันที่ 7 : โอซาก้า (Osaka)
ตลาดคุโรมง Kuromon Ichiba Market
เช้านี้แอดจะพาทุกคนไปตลาดปลาอีก 1ที่ ตลาดชื่อว่า ตลาดคุโรมง Kuromon Ichiba Market เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า จนได้รับสมญานามว่าเป็น ครัวของโอซาก้า(Osaka’s Kitchen) กันเลยทีเดียว มีบรรยากาศภายในเป็นทางเดิน Arcade เล็กๆ ทอดยาวประมาณ 600 เมตร 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ กว่า 160 ร้านค้า ขายทั้งของสด และแบบพร้อมทาน มีของกินเล่นและอาหารพื้นเมืองมากมายหลายชนิดให้ได้ชิมกัน แอดบอกเลยว่าอร่อยและสดมาก จากที่พักเดินไปตลาดคุโรมงได้เลย ประมาณ 1 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kuroshioichiba.co.jp/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/GQLZRvUU9QUA6M4HA
+ ที่ตั้ง : 1527 Kemi, Wakayama, 641-0014 ญี่ปุ่น
+ เวลาเปิด – ปิด : 10:00 -17:00 น.
ย่านนิปปอนบาชิ เดนเดนทาวน์ (Nipponbashi DENDEN Town)
หลังจากนั้นแอดจะพาทุกคนไปปิดท้ายทริปนี้ด้วยการไปแหล่งของเล่นที่ ย่านนิปปอนบาชิกัน ถ้าไปโตเกียวทุกคนจะนึกถึงย่านอะกิฮาบาระ แต่ถ้ามาโอซาก้าก็ต้องที่นี่เลยย่านนิปปอน แหล่งรวมของเล่น อนิเมะ กาชาปอง ไหนไหนก็จะกลับไทยแล้ว แอดเลยขอมาละลายทรัพย์ที่นี่สักหน่อย สามารถเดินจากตลาดปลาไปได้เลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/2vA3qdwKS43L6wXU7
แล้วก็ไปซื้อของฝากที่ย่าน Dotonbori หลังจากช้อปของฝากเรียบร้อย แอดก็กลับมาเก็บกระเป๋า พักผ่อนที่โรงแรมเดิม Doutonbori Crystal Hotel Ⅱ ตื่นเช้าเดินทางไปสนามบินคันไซ เพื่อกลับกรุงเทพ ฯลฯ แอดกลับไทย ด้วยสายการบิน NokScoot เหมือนตอนขามาเลย
? การเดินทาง
รถสาธารณะ : นั่งแท็กซี่จากที่พักไปที่ Namba Station (ค่าแท็กซี่ราคา 1,320 เยน ) ขึ้นรถไฟสาย Nankai LineAirport ExpressKansai-Airport ไปลงที่ Kansai-Airport Station (ค่าตั๋วคนละ 920 เยน ) ถ้าไม่รีบมากและอยากประหยัด สามารถนั่งรถไฟแทนได้นะครับ
ทริปนี้เป็นทริป 7 วัน 4 จังหวัด ที่แอดได้เที่ยวแบบคุ้มค่าคุ้มเวลามากๆ ได้ใช้เวลาในแต่ละที่แบบไม่ต้องรีบร้อน อยู่นานเท่าที่เราต้องการ และยังเป็นการมาคันไซหน้าฝนของแอดครั้งแรก แอดประทับใจมากกกก ฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเที่ยวของแอดเลย แถมฝนยังทำให้สถานที่เที่ยวดูสวยมากขึ้นไปอีก การได้เห็นหมอกในตอนเช้าเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ แล้ว แอดก็ยังยืนยันว่า ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดูจริงๆ นอกจากที่เที่ยวที่แอดประทับใจ การพกบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย (KBank JCB Credit Card) มาเที่ยวด้วย ยิ่งทำให้แอดสนุกในการเที่ยวมากขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวว่าเงินสดจะไม่พอ ไม่ต้องพกเงินติดตัวทีละเยอะๆ จะช้อป เที่ยวหรือจะกินอะไร พกบัตรนี้บัตรเดียวจบ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เที่ยวตามแอดกันไปแล้ว ได้เวลาที่ทุกคนจะลองมาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ว่าเที่ยวญี่ปุ่นหน้าฝนมันสวยขนาดไหน พูดแล้วก็ไปจองตั๋วเครื่องบินกัน NokScoot เขามีบินไปโอซาก้า 6 เที่ยวต่ออาทิตย์เลยนะ บินในราคาประหยัด เบาะกว้าง นั่งสบาย แอดสูง 180 ยังเหยียดขาได้ยาว ไม่อึดอัดเลย ไปจองกันนนน
รีวิวบนแฟนเพจ : 7 วัน คันไซ | โอซาก้า เกียวโต วากายามะ นารา
#KBank #KBankJCBCreditCard #บัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย #ขั้นสุดจริงเพื่อสายอินเจแปน #Japan #Kansai
#Kyoto #wakayama #Nara#Osaka #Klook #NokScoot #BigBird #บินไกลสบายกว่าราคาคุ้ม #นกสกู๊ต
#คันไซ #เกียวโต #วากายามะ #นารา #โอซาก้า #ญี่ปุ่น #ที่เที่ยวญี่ปุ่น