ทริปญี่ปุ่นมาอีกแล้วววว แต่บอกเลยว่าทริปนี้พิเศษมากๆ คือ แอดไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน!!! สำหรับญี่ปุ่นที่หลายคนคิดถึงและอยากมาเที่ยว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวมีหิมะ ญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือไม่ก็จะเป็นญี่ปุ่นช่วงดอกซากุระบานเต็มไปหมด แต่จะมีส่วนน้อยที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนกัน เพราะทุกคนกลัวว่าจะอากาศไม่ดี และไม่มีอะไรให้ดูให้ถ่ายรูป แต่บอกเลยทีแรกแอดก็คิดแบบนั้น แต่พอมาเที่ยวเข้าจริงๆ บอกเลย หน้าร้อนก็น่าเที่ยวไม่แพ้หน้าไหนๆ เลย (และขอบอกว่าหน้าร้อนปีนี้ของญี่ปุ่นร้อนที่สุดในรอบ 100 ปี แต่ก็ยังเย็นกว่าไทยนะ55+)
เรามาหาข้อดีของการมาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนกันดีกว่า อย่างแรกเลย ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แรง อย่างทริปนี้แอดก็มากับ Nok Scoot บินตรงจากสนามบินดอนเมืองบินตรงถึงสนามบินนาริตะเลย หลับสบายเพราะที่นั่งกว้าง ขนาดแอดขายาวๆ ยังสบาย55+ นอกจากเรื่องตั๋วที่ราคาดีแล้ว เรื่องอาหารหรือของอร่อยๆ ร้านดังๆ คนก็ไม่เยอะมาก ไม่ต้องต่อคิวเท่าไหร่ เพราะนักท่องเที่ยวน้อย เที่ยวแบบชิลๆ ได้เลย ที่สำคัญอาหารอร่อยเหมือนกันทุกหน้า55+ ข้อดีอีกข้อคือคนที่ไม่ชอบขนเสื้อผ้าไปเยอะๆ หน้านี้บอกเลยเสื้อผ้าที่ขนไปน้อยมาก เหลือพื้นที่กระเป๋าไว้ใส่ของช้อปขากลับเพียบ และอีกเรื่องคือสถานที่ท่องเที่ยว บางสถานที่เราเคยมาหน้าหน้ามันก็จะขาวๆ ไปด้วยหิมะ แต่ไปรอบนี้ มันก็จะสวยไปอีกแบบ คนไม่เยอะมาก ถ่ายรูปได้ง่ายไม่ต้องหลบคน บางที่ความเขียวของต้นไม้จะสวยกว่าตอนที่มีแต่หิมะอีกด้วย ต้องมาลองเที่ยวกันๆ 🙂
เอาล่ะมาดูว่าทริปนี้มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตลอด 5 วัน 4 คืน ในญี่ปุ่นหน้าร้อน ไปดูกัน 🙂
+ วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple)
+ เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima)
+ หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)
+ สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima-Skywalk)
+ ไร่ชานินิฮออนไตระ (Nihondaira)
+ ชายหาดมิโฮ (Miho Beach)
+ ย่านอากิฮาบาระ(Akihabara)
+ ปิ้งย่างซีฟูีด สไตล์ญี่ปุ่น Isomaru Suisan (มันปูย่าง)
+ ร้านราเมงข้อสอบ Ichiran Ramen
วันที่ 1
เริ่มจากเราเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลาประมาณ 02:20 น. ถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 10:25 น. ทริปนี้เราได้ร่วมเดินทางกับ JNTO องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นและสายการบิน Nok Scoot เพื่อมาเปิดประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนกัน พอมาถึงที่ญี่ปุ่นเราก็เดินทางมุ่งตรงมาที่วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) เป็นที่แรก เพื่อไหว้ขอพร ที่นี่เป็นวัดที่เก่าแก้ที่สุดในโตเกียว มีโคมแดงขยนาดใหญ่บริเวณประตูทางเข้า ถ้าใครมาโตเกียวแล้วไม่มาที่นี่ถือว่าพลาด ไหว้พระ เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จ
ก็ไปกินชาบูกันที่ร้านอิมาฮัน ฮอนเท็น (Imahan Honten) อยู่แถววัดเลย บอกเลยว่าเนื้ออร่อยมาก(หรือว่าแอดหิว55+) สายเนื้อนี่ถือว่าฟิน บรรยากาศร้านก็ดูเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่น และถ้าใครกินไม่อิ่มก็มาเดินเล่นต่อ กินไอติม ขนมต่างๆ กันได้ (ของกินเยอะมาก)
กินอิ่มแล้วเราก็เริ่มต้องหาที่พักกันละ เดินทางไปยังโรงแรมกัน คืนแรกเราพักที่โรงแรม มอนเทอเร่ย์กนิซ่า (Monterey Ginza) ห้องพักกว้างอยู่ รอบๆ โรงแรม ที่ร้านนั่งชิลและสามาเดินเล่นชิลๆ ได้อยู่
มื้อเย็นเราก็จัดเต็มปิ้งย่างที่ร้านริคิว (Rikyu) เป็นบุฟเฟ่ต์ เนื้อย่าง กุ้งย่าง และมีเบียร์รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วย ฟินตรงนี้
วันที่2
ตื่นเช้ามาก็เดินทางไปที่เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima) เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) ที่นี่เราไปเที่ยวชมเมือง ไปไว้ขอพรที่ศาลเจ้าเอโนะชิมะโดยด้านบนจะมีศาลเจ้าอีก 3 ศาล สามารถขอพรเรื่องโชคลาภเงินทองล ความรัก และความสมหวังด้านความบันเทิง ระหว่างทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าแต่ละจุด ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ของฝากเต็มไปหมด เรียกว่าเสียเงินแน่ๆ 555+
พอเดินจนเหนือเราก็มากินมื้อเที่ยงกันที่ร้านไคซากุ (Kaisaku) เป็นซาชิมิ และเมนูปลา หอยต่างๆ สดจากทะเลกันเลย
จากนั้นเราก็เดินทางกันไปล่องเรือกันต่อที่ทะเลสาบอาชิหรือทะเลสาบฮาโกเนะ บอกเลยว่าวิวดีมาก ตรงนี้ถ้าอากาศดีๆ เราสามารถมองเห็นวิวฟูจิจากตรงนี้ด้วย(แต่รอบนี้แอดไปไม่เห็นTT)
เสร็จแล้วก็ไปนั่งกระเช้าฮาโกเนะ ขึ้นไปเที่ยวชมหุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) หรือหุบเขานรกกันต่อ ตรงนี้เป็นหุบเขาแห่งแร่กำมะถัน จะมีควันขึ้นตลอดเวลา แอดเคยไปที่นี่ 2 รอบแล้ว เคยไปตอนช่วงหิมะขาวๆ กับรอบนี้หน้าร้อน สวยกันคนละแบบ แถมตรงบริเวณนี้เราสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย สำหรับคนที่ขึ้นไปที่นี่ต้องกินไข่ดำต้ม เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ เชื่อกันว่าใครได้กินไข่ 1 ฟอง จะมีอายุยาวนานขึ้น 7 ปี (แอดเลยกินไป 4 ฟอง อายุยืนขึ้นเยอะเลย55+)
จากหุบเขาโอวาคุดานิ เราก็เดินทางไปยังที่พักกันต่อ คืนนี้เรานอนกันที่โรงแรมฮาโกเนะ เทนไซเอ็น (HAKONE Tensei-en) ในเมืองฮาโกเนะ โรงแรมที่นี่ดีมาก ทั้งบรรยากาศรอบๆ โรงแรม ก็จะมีสวนญี่ปุ่น บ่อปลาคาร์ฟ น้ำตก และการตกแต่งห้องพักก็จะเป็นญี่ปุ่นเลย ที่นี่คนที่เข้าพักก็จะแต่งตัวชุดยูกาตะกัน ใส่มาเดินถ่ายรูป กินข้าวเย็น บอกเลยบรรยากาศโคตรดีเลย 🙂
วันที่3
ตื่นเช้ามาเราก็มุ่งตรงไปยังอีกเมือง คือ เมืองชิซุโอกะ (Shizuoka) จุดแรกที่เราไปเที่ยวที่เมืองนี้คือ สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima-Skywalk) เป็นสะพานแขวนแห่งใหม่ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวของเมืองชิซุโอกะเลย เดินไปชมวิวไปสวยมาก และที่นี่ยังเป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
เสร็จจากเดินชมวิวที่สะพานแขวงกันแล้ว เราก็ไปศาลเจ้ากันอีก โดยศาลเจ้าที่เราจะไปชื่อว่า ศาลเจ้าคุโนซังโทโชกุ (Kunozan Toshogu Shrine) ใครจะขึ้นไปต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติด้วย บอกเลยว่าสวยมากๆ ระหว่างนั่งกระเช้าก็จะเห็นวิวต้นไม้และทะเลสวยมาก
ก่อนกลับเราได้แวะชิมชาเขียวที่ไร่ชานินิฮออนไตระ (Nihondaira) ซึ่งตรงนี้สามารถเห็นวิวภูเขาฟูจิอีกแล้ว ตรงนี้เราสามารถเดินดูไร่ชาได้ มีของฝากและผลิตภัณฑ์จากชาเขียว และมีชาเขียวต่างๆ ให้เราได้ลองชิมอีกด้วย
จากไร่ชาก็ไปกินมื้อเที่ยงกันที่โอเอโดะ ออนเซ็น (Oedo Onsen)
กินอิ่มแล้วก็ไปหาที่เดินย่อยกันต่อ โดยเราไปที่ป่าสนมิโฮะมิโฮะโนะมัตสุบะระ (Miho beach) ตรงนี้เป็นทางเดินสะพานไม้ ที่เป็นเหมือนซุ้มต้นสน ทอดยาวไปยังชายหาดมิโฮ (Miho Beach) สวยมาก พอเราเดินไปจนถึงชาดหาดทะเล เราก็จะเจอกับทะเลสีน้ำเงินสวย ถ้าวันไหนโชคดีเราก็จะวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง เรียกว่าเป็นอีกจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งของเมืองชิซุโฮกะเลย
ตอนเย็นเราก็เดินทางไปโรงแรมกันต่อคืนนี้นอนที่โรงแรมชิซูเดะสึ โฮเทล เพรซิโอ ชิซุโอกะ เอะกินัง (Shizutetsu Hotel Prezio Shizuoka Ekinan)และสำหรับอาหารเย็นนี้ก็คือบุฟเฟ่ต์นานาชาติแบบจัดเต็มกัน ที่ร้านเดอะเทเบิ้ล (The Table)
วันที่ 4
วันที่ 4 แล้ว ผ่านไปเร็วมาก สำหรับวันนี้เราเดินทางกลับเข้าโตเกียวกัน โดยที่เหลือเวลาอีกวันกว่าๆ ที่เราจะได้ไปเดินเที่ยว เดินช้อป เดินกิน กันในย่านเมืองๆ กันแล้ว
มาถึงเราเข้าโรงแรมกันก่อนโดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรมเซ็นจูรี เซาท์เทิร์น ทาวเวอร์ ชินจูกุ (Century Southern Tower SHINJUKU) อยู่ใกล้ย่านช้อปิ้งแถมข้างบนวิวโคตรจะดี สวยมาก
เก็บกระเป๋าเสร็จเราก็ไปเพิ่มพลังกันก่อนโดยเราไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านคึซึนะซูชิ (Kizuna Sushi) ที่ชินจูกุ เป็นซูชิแบบจัดเต็ม พอได้กินก็เรียกว่ามาถึงญี่ปุ่นละ55+
กินข้าวเที่ยงเสร็จเราก็ไม่รอช้า รีบมุ่งตรงไปยังย่านอากิฮาบาระ(Akihabara) เพื่อไปตามล่าหาโมเดล กาชาปอง และตู้ครีบตุ๊กตา ที่นี่เรียกว่าเป็นแหล่งรวบรวมคนที่ชอบของเล่นกันเลยที่เดียว ไม่ไปถือว่าพลาด บอกเลยมีไปแสนหมดแสน555 สำหรับแอดก็หมดไปกับตู้กาชาปองเยอะเหมือนกัน 555+
เดินจนเหนื่อยก็เริ่มหิว เลยมองหาของกิน ไปเจอกับร้านนึง ที่คนไทยหลายคนชอบ เวลามาญี่ปุ่นต้องมาโดน นั่นก็คือ ปิ้งย่างซีฟูีด สไตล์ญี่ปุ่น ร้าน Isomaru Suisan เมนูที่ห้ามพลาดเลย คือ มันปูย่างบนเตาร้อนๆ กินกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ นี่โคตรฟินเลย ส่วนตัวแอดชอบมาก ใครไปญี่ปุ่นสนใจก็ลองกันได้ ร้านมีหลายสาขามาก
และตอนดึกเราก็มาเดินย่านชินจูกุกันต่อ เดินเล่น เดินช้อปซื้อของ ถ่ายรูปกัน ก็มาปิดท้ายมื้อดึกกันอีกร้าน ที่ Ichiran Ramen ราเมนข้อสอบ แถวชินจูกุ เดินผ่านร้านนี้ที่ไร ก็มีคนต่อคิวลองกินตลอด และเป็นอีกร้านที่นิยมมากๆ จะไม่ลองก็ไม่ได้55+ สำหรับร้านนี้ เราสามารถเลือกใส่ส่วนประกอบต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นเส้น เนื้อสัตว์ น้ำซุป ผัก และความเข้มข้นของน้ำซุป เสร็จแล้วก็ไปนั่งตามช่องลักษณะเหมือนนั่งสอบ บอกเลยว่าเป็นราเมงที่ซุปเข้มข้นและอร่อยมากๆ และมีหลายสาขามากๆ ใครมาต้องไปโดน
สำหรับวันที่ 5 เราก็เตรียมตัวกลับไทยกัน บอกเลยว่ายังไม่อยากกลับ 55+
เป็นไงกันบ้างญี่ปุ่นหน้าร้อนของแอด เรียกว่าครบเลย ทั้งเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวเมือง ช้อปปิ้ง และตะลุยกิน ฟินสุดๆ ถึงแม้มาหน้าร้อนจะได้ไม่ได้เจอหิมะ เจอดอกซากุระหรือใบไม้แดง ก็สามารถฟินและสนุกได้เหมือนกัน สำหรับคนอื่นไม่รู้ยังไง แต่แอดก็ยังชอบญุี่ปุ่นอยู่ดี ไม่ว่าจะฤดูไหนๆ ญี่ปุ่นก็ยังมีเสนห์แตกต่างกัน และเป็นสถานที่ที่น่าไปสัมผัสเที่ยวชมอยู่ดี บอกเลยว่าใครชอบญี่ปุ่นต้องไม่พลาดมาเก็บให้ครบทุกฤดู
“ถ้าถามว่าชอบญี่ปุ่นตรงไหน ตอบได้เลยว่าก็เป็นเพราะญี่ปุ่นเป็นญี่ปุ่น และมากี่ครั้งก็ยังน่ารักทุกครั้ง”
#แล้วเจอกันอีกนะ 🙂
–> ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นไปดูตั๋วและวางแผนกันได้เลย : www.nokscoot.com/th/
–> สามารถดูข้อมูลการเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ที่ : www.jnto.or.th/
รีวิวบนแฟนเพจ : ญี่ปุ่นหน้าร้อน…แต่เธอก็น่ารัก | Tokyo Japan
#ญี่ปุ่นหน้าร้อน #ญี่ปุ่น #โตเกียว #โตเกียวเที่ยวฟินบินกับนกสกู๊ต #ฤดูร้อน#วัดอาซากุสะ #หุบเขาโอวาคุดานิ #สะพานแขวนมิชิมะ #ชายหาดมิโฮ
#ย่านอากิฮาบาระ #กาชาปอง #NokScoot #JNTO #Japan #Tokyo#Asakusa #Akihabara #MihoBeach #MishimaSkywalk #Owakudani