หนีกรุง...ไปนอนเต็นท์ | เขากระโจม ราชบุรี

เคยมั้ย? อยากไปนอนกางเต็นท์หนาวๆ บนภูเขา บรรยากาศดีๆ ดูหมอกขาวๆ ฟินๆ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ถ้าเคย ไม่เป็นไรครับ ทริปนี้เรามีสถานที่กางเต็นท์ดูหมอกฟินๆ ใกล้ๆ กรุงเทพฯ มาแนะนำครับ นั่นคือ “เขากระโจม” ซึ่งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีนี่เอง บอกเลยบรรยากาศด้านบนฟินมาก ใครอยากตามไปมาดูรายละเอียดเลย
เริ่ม…

ก่อนไปเราต้องหารถที่จะพาขึ้นไปยังยอดเขากระโจมก่อน เพราะทางขึ้นค่อนข้างโหดเพราะเป็นทางลูกรัง ชันเป็นบางช่วง และต้องขับรถลุยน้ำ รถที่เหมาะสำหรับเดินทางต้องเป็นรถโฟวิล โดยเราสามารถเช่ารถคนพื้นที่ขึ้นไปได้หรือใครมีรถก็สามารถขับขึ้นไปได้ แต่ต้องขับเก่งและชำนาญพอสมควร

สำหรับค่าใช้จ่ายเหมารถขึ้นเขากระโจม ถ้าไม่ได้ค้างคืนไปกลับ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 8 คน 1,500 บาท แต่ถ้าใครอยากไปนอนเต็นท์ จะมีค่าใช้จ่าย 2,500 บาท คนขับจะนอนอยู่ด้านบนกับเราเลย รถเราก็จะจอดไว้ที่บ้านคนที่เราเช่ารถ สำหรับทริปนี้เราให้บริการของป๋าเปียก ลุงใจดี บริการดีเป็นกันเองมาก ใครจะไปติดต่อได้ที่เบอร์นี้เลย 089-0516292, 064-0271726

ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวประมาณ 2-3 จุด ให้เราแวะถ่ายรูป ระยะเวลาเดินทางขึ้นไปไม่ถึงชั่วโมง แต่บอกเลยว่าโยกมันส์ตลอดทาง ได้ออกกำลังกายทุกส่วนเลย ทั้งต้องเกาะแน่น ต้องตั้งรับกับแรงกระแทก เพราะทางไม่ค่อยดี แต่ก็ตื่นเต้นและสนุกดี ลุ้นตลอดทาง555+

พอใกล้ๆ ถึงยอดเขา ตรงจุดที่เราจะกางเต็นท์ก็เริ่มเห็นหมอกฟุ้งไปหมด อากาศเริ่มเย็น ลมพัดค่อนข้างแรง บรรยากาศดีเหมือนหน้าหนาวเลย ขึ้นถึงยอดเขากระโจมจุดกางเต็นท์ เราก็เดินหาจุดกางเต็นท์แล้วก็เริ่มกาง เต็นท์เสร็จเรียบร้อย

เราก็เดินถ่ายรูปและดูรอบๆ พื้นที่ โดยด้านบนจุดกางเต็นท์มีห้องน้ำ 2 จุด เป็นห้องน้ำสังกะสีกับเป็นปูน(แต่ช่วงที่เราไปน้ำไม่ค่อยมี เลยต้องซักแห้งเอา555)

และสำหรับของที่ต้องเตรียมไปกางเต็นท์ข้างบน แน่นอนเราต้องมีเสื้อผ้า เต็นท์(ถ้าเป็นเต็นท์ที่กันฝนด้วยก็ดีเผื่อฝนตก) เครื่องนอนหมอน อาหาร(เลือกอาหารที่ทานง่าย ปรุงง่าย น้ำหนักเบา และอยู่ท้อง) น้ำ(เตรียมสำหรับให้พอกิน แต่ถ้ามีรถขนขึ้นไปก็เตรียมไปเยอะไว้เผื่อก็ได้) ยาจำเป็นต่างๆ และสำหรับเราทริปนี้ไม่ควรพลาดที่จะพกสเปรย์แก้ปวดกล้ามเนื้อมา(อ่านรีวิวแล้วว่า นั่งรถโยกจนปวดร้าว555+)

แน่นอนว่าทริปนี้เราก็ไม่พลาด “ยูนิเรนสเปรย์” ถ้าหลายคนยังจำกันได้จากทริปเดินขึ้นเขา : https://goo.gl/cVXejf จะรู้เลยว่าเพราะได้เจ้าขวดนี่ล่ะมาช่วยไว้ ทริปนี้เลยเรียกได้ว่าเป็น “ยาสามัญประจำเป้” ก็ว่าได้ เพราะขวดเล็กไม่ได้เปลืองเนื้อที่กระเป๋าเลย และที่สำคัญช่วยบรรเทาปวดได้ดี แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบเที่ยวลุยๆ ควรพกติดตัวไว้อุ่นใจตลอดทริปเลยครับ และสำหรับทริปนี้เราก็ไม่พลาดที่จะได้ใช้งานจริงๆ เพราะรถโยกมากตัวเกร็งไปทั้งตัว ไหนจะโดดขึ้นโดดลงรถ แวะปีนลงไปดูจุดชมวิวกับมุมถ่ายรูปสวยๆที่ลุงคนขับแนะนำ แค่นี้ก็ปวดเมื่อยเอาเรื่อง

และสำหรับถ้าใครมาเที่ยวช่วงเทศกาล ก็จะสบายหน่อยเพราะจะมีร้านค้ามาขายของ ขายขนม อาหาร และคนที่ไปกางเต็นท์ก็ค่อยข้างเยอะ แต่ช่วงที่เราไป คนน้อย อาหารด้านบนไม่มี ต้องเตรียมไปเอง โดยเราก็ได้สั่งหมูกะทะขึ้นไปกิน สั่งกับลุงคนขับ ชุดละ 100 บาท เอามา 2 ชุด กิน 2 คนพอดี กินท่ามกลางหมอก และอากาศเย็นๆ อิ่มและโคตรฟินมาก กินเสร็จก็นอนฟินดูหมอกต่อ กลางคืนหนาวมาก เพราะลมพัดตลอดคืน

ตื่นเช้าออกจากเต็นท์มาก็เจอแต่หมอกขาวๆ ฟุ้งเต็มพื้นที่ อากาศโคตรดีเลย เดินเล่นถ่ายรูปซักพัก เราก็เก็บเต็นท์เก็บของเตรียมลงจากยอดเขากระโจม โดยการขึ้นลงเขากระโจม สามารถขึ้นได้ตั้งแต่ 04:00 – 07:00น. และลงได้ตั้งแต่ 07:00 – 09:00น. หลังจากนั้นขึ้นลงได้ปกติ 09:00 – 19:00น. หลังจาก 19:00น. ไม่อนุญาตให้ขึ้นลงเขาแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

พอลงมาถึงด้านล่างเราก็หาที่อาบน้ำกัน เพราะเมื่อคืนเราไม่ได้อาบ 555+ เราขับรถไปอาบน้ำกันที่ “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” ที่นี่เป็นธารน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ มีทั้งให้เราแช่เท้า หรือจะแช่ทั้งตัวก็ได้

#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 27 หมู่7 บ่อคลึง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/iYZD4gYjvEN2
+ เวลาเปิด-ปิด : จ-ศ 08:00 – 17:00 น. และ ส-อ 08:00 – 18:00 น.
+ ค่าบริการ : ค่าเข้า 5 บาท

และสำหรับจุดแวะระหว่างทางอื่นๆ ของทริปนี้

1. “Coro Field สวนผึ้ง” ฟาร์มน่ารักๆ สไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งแปลงผัก ฟาร์มเมล่อน กิจกรรมปลูกต้นไม้จัดสวนถาดสนุกๆ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ หลายมุม เป็นอีกจุดที่น่าแวะ เมื่อไปสวนผึ้ง
#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : www.facebook.com/corofieldTH/
+ แผนที่ Gps : www.goo.gl/maps/EkubQivBrbF2
+ เวลาเปิด-ปิด : จ.-ศ 9:00 – 17:00 น. และ ส.-อา 9:00 – 19:00 น.

2.ร้านกาแฟ “กุมภาพันธ์” ร้านกาแฟน่ารัก ตกแต่งสไตล์วินเทจ มีมุมถ่ายรูปและที่นั่งหลายจุด (ตรงนี้แวะซื้อชาเขียววิปครีมแก้วนึง เสียดายแอบแพงไปนิดหมดไป 90 บาท)
#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : https://goo.gl/Ta8YCv
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/kRucjWxYn4w
+ เวลาเปิด-ปิด : 08:30-18:00 น.

3. ร้านอาหาร “ครัวม่อนไข่” อร่อย ไม่แพง ที่นั่งมีหลายจุดให้เราได้เลือกนั่ง มีเมนูให้เลือกทานเยอะมาก โดยเฉพาะผักกูด เป็นเมนูโปรดเลยอร่อยต้องลอง555+
#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : https://web.facebook.com/Monkaikitchen/
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/YLfkixxQc6F2
+ เวลาเปิด-ปิด : 09:00-20:00 น.

4.ร้านกาแฟ “ต้นขนมหวานสะพานกาแฟ” ร้านกาแฟน่ารัก สไตล์วินเทจหวานๆ อีกร้าน มีเครื่องดื่มเย็นๆ และเบเกอรี่พร้อมเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลอง ที่นี่ยังมีที่นั่งบนต้นไม้เราได้นั่งชมวิวด้วยนะ ที่นี่ตั้งอยู่หน้ารีสอร์ทบัววัฒนาเลย
#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/KfxuZ5ftd3A2
+ เวลาเปิด-ปิด : 07:00-17:00 น.

5.ร้านอาหาร “ครัวตะนาวศรี1” ร้านอาหารที่กูเกิ้ลแนะนำเรามา55+ ไม่แพง ร้านอยู่ติดลำธาร ซึ่งตอนเราไปไม่มีน้ำแล้ว55 (หรืออาจไปไม่ตรงช่วง) มีอาหารป่าให้เราเลือกทาน ผักกูด หมูป่า
#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/iYAMTc9xnnk
+ เวลาเปิด-ปิด : 09:00-21:00 น.

บอกเลยสำหรับทริปนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวได้แล้ว ไม่ว่าจะมานอนเต็นท์ ดูหมอก ผจญภัยกับการนั่งรถ จิบกาแฟในร้านชิคๆ เดินเล่นฟาร์มเก๋ๆ กินอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ เรียกว่ามาทริปเดียวจบครบทุกความต้องการ555+ ใครที่กำลังมองหาที่กางเต็นท์ที่เที่ยวบรรยกาศดีๆ ที่ดูหมอกใกล้ๆ กรุงเทพฯ “เขากระโจม” ราชบุรี เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดมาๆ เช็คอินเลย #มาเที่ยวกันเยอะนะครับ 🙂