***ทริปนี้ผมเดินทางช่วงเดือนมิถุนายน 2565 เป็นกรุ๊ปแรกๆ ที่ได้เข้าญี่ปุ่นหลังจากเปิด***
วัดคิโยมิสุเดระ หรือ วัดน้ำใส
น้องกวางที่นารา ศาลเจ้าจิ้งจอก
1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ(ศาลเจ้าจิ้งจอก) (Fushimi Inari Taisha , Fushimi Inari Shrine)
เป็นศาลเจ้ายอดนิยม ที่ใครมาเกียวโตต้องห้ามพลาด คนไทยมักจะเรียกกันว่า “ศาลเจ้าจิ้งจอก” กัน เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นให้ความเคารพนับถือมากๆ อีกทีหนึ่ง มักจะเดินทางไปขอพรกับเทพเจ้าอินาริ หลักจะเป็น 3 เรื่อง คือ ด้านธุรกิจ การค้าขายให้รุ่งเรือง ด้านสุขภาพ ให้หายจากโรคภัย และสุดท้ายด้านความสำเร็จในการแข่งขัน การสอบต่างๆ เวลาใครที่สมหวังตามที่ขอก็จะมาสร้างเสาโทริอิสีแดงเรียงต่อๆ กันไปถึงยอดของภูเขาอินาริ ใครมีโอกาสไปช่วงนี้ต้องรีบเลย นักท่องเที่ยวน้อย ไม่ต้องรอคิวถ่ายรูปนานๆเลย และยังมีโซนงานวัดแบบญี่ปุ่น มีร้านเช่าชุดกิโมโนให้ใส่ถ่ายรูป แล้วยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ขนม ของฝาก ให้เลือกช้อปอีกด้วย
มาศาลเจ้ารอบนี้เที่ยวสบาย คนไม่เยอะ เป็นมุมถ่ายรูปที่ใครมาที่ศาลเจ้าต้องมาถ่ายกับเสาแดงที่นี่ ช่วงที่ไปคนน้อยถ่ายรูปสบายเลย หน้าศาลเจ้ามีตลาดหรือร้านค้าขายของที่ระลึก ของกิน ฟีลงานวัดเลย ที่นี่ก็จะมีทั้งขนม ของที่ระลึกที่เป็นรูปหน้าจิ้งจอก
2. วัดคิโยมิสุเดระ (วัดน้ำใส) (Kiyomizudera Temple)
อีกหนึ่งพิกัดห้ามพลาดเกียวโต วัดคิโยมิสุเดระ (Kiyomizudera Temple) หรือวัดน้ำใส เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาที่นี่เพราะครั้งก่อนที่ผมมาเกียวโต มีการบูรณะบริเวณศาลาไม้ด้านบนผมเลยตัดที่นี่ออกจากแพลน แต่จริงช่วงที่บูรณะก็สามารถเที่ยวได้ตามปกติ เป็นวัดที่มีศาลาอยู่บนไหล่เขา ชื่อว่าเขาโอตาวะ (Mt. Otowa) เป็นศาลาไม้ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดนนี้คนมักมาขอพรเรื่องความสำเร็จ อายุยืน และความรัก จากการดื่มน้ำ จากแม่น้ำ 3 สายของน้ำตกโอโตวะ (Otowa no taki )ที่อยู่ด้านล่างของวัด แล้วยังมีหินเสี่ยงทายที่คนนุ่มสาวมักมาลองเสี่ยงทายเรื่องความรัก ความสำเร็จ ด้วยการเดินหลับตาจากหินก่อนแรกเพื่อตามหาหินก้อนที่ 2 ที่อยู่ห่างออกไป ใครหลับตาจนหาหินก้อนที่ 2 เจอจะพบกับความสำเร็จในส่ิ่งที่ขอไว้ วัดนี้จะมีค่าเข้าชม คนละ 400 เยน และระหว่างทางที่เดินมาที่วัดสองข้างทางจะมีร้านขายขนม ของฝากเยอะมากๆ
หินเสี่ยงทาย ที่ใครมาที่วัดนี้ต้องได้ลองมาเสี่ยงทายกัน ร้านขนมเล็กๆ อยู่ทางเดินออกจากวัด ร้านน่ารักมาก ระหว่างทางที่เดินมาที่วัดสองข้างทางจะมีร้านขายขนม ของฝากเยอะมากๆ
3. ย่านกิออน (Gion)
ย่านเก่าแก่ของเมืองเกียวโต เป็นย่านที่มีบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณอยู่เยอะมากๆ คนนิยมไปเดินถ่ายรูปกัน และเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมเกอิชา (Geisha) สาวสวยในชุดกิโมโนดั้งเดิม ซึ่งเกอิชาจะที่มีความชำนาญทางศิลปะ ดนตรีต่างๆ ทำหน้าที่ดูแลแขกในร้านน้ำชาที่เปิดในย่านนี้ ซึ่งในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านน้ำชาเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ร้านจะเปิดช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ ย่านนี้จะมี 2 โซนหลัก ย่านชิราคาวา (Shirakawa) ย่านฮานามิ-โคจิ (Hanamu-Koji) ย่านชิราคาวา (Shirakawa) จะเป็นย่านริมคลองบรรยากาศดีมาก เดินเล่น ถ่ายรูปสวยมาก และย่านฮานามิ-โคจิ (Hanamu-Koji) ก็คืโซนถนนที่มีบ้านไม้โบราณตั้งเรียงอยู่ 2 ข้างทางนั่นเอง
4. ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Bamboo Grove)
อีกหนึ่งพิกัด ที่ใครมาเกียวโตแล้วต้องห้ามพลาด ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Bamboo Grove) ป่าไผ่จะอยู่ทางด้านหลังของวัดเทนริวจิสามารถเดินเข้าชมได้ฟรี ถ้าไม่อยากเดินที่นี่มีบริการรถลากแบบโบราณๆ ให้ได้นั่งชมป่าไผ่กันแบบเพลินๆ อีกด้วย ป่าไผ่จะมี 2 โซนโซนแรกไม่เสียค่าเข้าชม กับโซนที่ล้อมไว้จะต้องเสียค่าเข้า แต่ที่ชอบที่สุดของที่นี่คือ ร้านค้าที่ตั้งเรียงราย 2 ข้างทาง ทั้งร้านขนมและของฝาก มีแต่ร้านน่ารักๆ ทั้งนั้นเลย และที่นี่ก็ยังเป็นอีกที่ ที่มีชุดกิโมโนให้เช่าใส่ถ่ายรูปอีกด้วย
ระหว่างทางเดินไปป่าไผ่ก็จะมีร้านค้า ร้านของฝากเพียบเลย มาที่นี่ห้ามพลาด ไอศครีมที่นี่น่ารัก Kyoto Tokyu Hotel
ที่พักของเราในเกียวโต เป็นที่พักที่ค่อนข้างใหญ่ มีรถ Shuttle Bus รับส่งจากสถานีเกียวโต กับโรงแรม อีกด้วย
5. วัดโทไดจิ (Todai-ji)
วัดโทไดจิ (Todai-ji) วัดเก่าแก่ของเมืองนารา เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เป็นวัดไม้ที่ใหญ่มากๆ ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อโต (Daibutsu) หรือพระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโตขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คนนิยมไปไหว้พระใหญ่ พร้อมชมความน่ารักของฝูงกวาง เพราะตัววัดอยู่ติดกับสวนนารา (Nara Park)เลย
น้องยังคงมีความสุขกับการกินมากๆ กินนิ้วเข้าไปแล้ววว ช่วงที่ไปเที่ยว คนน้อยมาก ถ้าเทียบกับปกติ
6. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ย่านช้อปปิ้ง ย่านกินดื่มยอดนิยมของเมืองโอซาก้า เพราะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เยอะมากๆ ทั้งราเมงข้อสอบ ราเมงมังกร ร้านทาโกะยากิ ร้านซูชิ ร้านปูชื่อดัง และร้าน Isomaru Suisan Dotonbori ร้านนั่งดื่ม มีอาหารทะเลปิ้งย่างแบบตามสั่ง เปิด24ชม. แถมยังใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) แบบเดินตัดกันเลย คือมาที่นี่ที่เดียวจบ ของกิน ของฝาก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ วิตามินต่างๆ ครบมาก
ป้ายไฟกับช่วงบรรยากาศเย็นๆ กับคนโล่งๆ ทุกร้านในย่านนี้ คนน้อยจนไม่ต้องต่อแถวซื้อแล้ว ราเมลมังกร แทบไม่มีคนเลย ร้าน Isomaru Suisan Dotonbori ร้านนั่งดื่มเปิด24ชม. ที่คนไทยชอบไปนั่งกินข้าวกับมันปูย่าง เข้าได้แบบไม่ต้องรอคิวเลย มันปูร้อนๆ กินพร้อมกับข้าว ฟินเลยซูชิเมนูนี้ก็อร่อย ฟินๆ เหมือนกัน ราเมงข้อสอบ ยังคงเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือไม่มีคิวยาว
7. ตลาดคุโรมง (kuromon market)
เป็นตลาดที่ผมชอบมาก ของสดมากทั้ง ผลไม้ อาหารทะเล เนื้อ มีทั้งสดๆ และปรุงสำเร็จพร้อมกิน แถมราคาไม่แพง จะกินหน้าร้านหรือ ซื้อกลับมากินโรงแรมก็ยังได้ ร้านเปิดช่วง 10 โมงเป็นต้นไปจนถึงบ่ายๆ ถ้าใครมาช้า 3 – 5 โมงร้านจะน้อยมากๆ แต่จะมีมีซุปเปอร์ที่ขายซูชิและข้าวหน้าต่างๆ ปรุงสำเร็จพร้อมกิน และของสดที่คนญี่ปุ่นย่านนี้มักจะมาซื้อไปทำกับข้าวที่เปิดอยู่ เป็นร้านที่ของเยอะมากๆ ใครมาช้าลองแวะไปดูที่นี่กันได้
ยังมีร้านเปิดอยู่ไม่มากนัก Dormy Inn Premium Namba Natural Hot Spring
เป็นที่พักของเราในโอซาก้า อยู่ใก้กับ ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) แบบเดินแปปเดียวถึง แถมเป็นที่พักในเมืองที่มีออนเซ็นด้วยนะ ใครแช่ออนเซ็นเสร็จมีไอศกรีม กับราเมงให้กินอีกด้วย
รีวิวบนแฟนเพจ : 7 พิกัดเที่ยว เกียวโต โอซาก้า นารา
#ญี่ปุ่น #เกียวโต #โอซาก้า #นารา #รีวิวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวเกียวโต #ที่เที่ยวโอซาก้า #รีวิวญี่ปุ่น2022 #ญี่ปุ่นเที่ยวได้แล้ว #ไปกันเจแปน #ทัวร์ญี่ปุ่น #UnithaiTrip #Kansai #Kyoto #Nara #Osaka #Japan #ReviewJapan