วันเดียว…เที่ยวนิกโก NIKKO | เมืองมรดกโลกญี่ปุ่น

เที่ยว ‘นิกโก้’ แบบทูอินวัน … มาญี่ปุ่นแต่ได้ของแถมเป็นวิวอย่างกับไปสวิสเซอร์แลนด์มาแน่ะ!!!

ช่วงนี้เมืองไทยอากาศร้อนแบบแผดเผามาก ทำเอาแอดมินคิดถึงทริปญี่ปุ่นช่วงต้นปีที่ผ่านมาเลย เป็นทริปสั้น ๆ 6 วัน 4 คืน ที่โตเกียวและเมืองใกล้เคียง นอกจากจะได้เห็นฟูจิซังชัดมาก ๆ แล้ว ทริปนี้มีความพิเศษอีกอย่างคือ เราวางแผนออกไปเที่ยวนอกเมืองกันแบบ One Day Trip โดยเมืองที่เราเลือกไปก็คือ “เมืองนิกโก้ (Nikko)” นั่นเอง

“เมืองนิกโก้” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดโทจิกิ ภูมิภาคคันโต มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งที่ท้องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัดเก่าแก่ โดยที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ถึงแม้จะอยู่ห่างจากโตเกียวออกมาแต่ด้วยระยะทางที่เราสามารถนั่งรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์มาจากโตเกียวได้ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับเพียบ!

สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวสำหรับการเดินทางในทริปนี้ก็คือ

– การวางแผนการเดินทางจากโตเกียว – นิกโก้ เลือกการเดินทางที่สะดวกที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด เพราะว่าเราจะได้มีเวลาเที่ยวที่นิกโก้นาน ๆ

– หาข้อมูลที่ท่องเที่ยวภายในนิกโก้ว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจบ้าง และศึกษาวิธีการขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปในแต่ละจุดที่ต้องการเที่ยว ซึ่งแอดมินแนะนำว่าให้ซื้อ NIKKO ALL AREA PASS ไปเลยครับ เพราะจะสะดวกในการขึ้นรถบัส แถมยังเข้าชมสถานที่ตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่ น้ำตกเคะงน (Kegon Falls) , ทะเลสาบจูเซ็นจิ (Lake Chūzenji), วัดและศาลเจ้านิกโก้โทโชงู  (Nikkō Tōshō-gū) ฯลฯ

– เช็กอุณหภูมิช่วงที่จะเดินทางไปให้ดี จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปถูก ช่วงที่แอดมินไปเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม หนาวมาก!! อากาศติดลบ ทะเลสาปแข็งเป็นน้ำแข็งเลย ถ้าไม่เตรียมเสื้อผ้าที่อุ่นพอต้องมีน็อคกลางทริปแน่ ๆ ดังนั้นจะไปช่วงไหนเช็กสภาพอากาศให้ดีครับ

– ซื้อประกันการเดินทาง … ข้อนี้สำคัญมากนะครับ ทุกการเดินทางของเรา เราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ของจะหายไหม จะเครื่องบินจะยกเลิกไฟล์ทรึเปล่า อยู่ดี ๆ เกิดป่วยขึ้นมาทำยังไง หรือจะเกิดอุบัติเหตุอะไรระหว่างเดินทางไหม เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย ดังนั้นเราเซฟความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ วิธีง่าย ๆ ในการเลือกประกันการเดินทางก็คือ เลือกประกันที่ครอบคลุมทุกการดูแล อย่างตอนนี้มีประกันการเดินทางของ Sompo ที่มีประกันการเดินทางแผน ‘Go Japan’ https://traveljoy.sompo.co.th/ สำหรับคนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ให้เราหมดกังวลเรื่องความปลอดภัยได้เลยเพราะมีบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงตลอดการเดินทาง ถ้าเจ็บป่วยก็ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อนัดหมายผ่าน Sompo Assist ที่เบอร์ +662-205-7775 เกิดเหตุฉุกเฉินก็จะมีล่ามช่วยคุยและนัดหมายกับทางคุณหมอให้ทันที แถมเราไม่จำเป็นต้องพกเอกสารใด ๆ เพราะสามารถดูข้อมูลกรมธรรม์ผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ซื้อง่าย ไม่เสียเวลาและสามารถซื้อได้จนเวลาบอร์ดดิ้งเลย ใครที่ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อแผนไหนดี ง่ายๆ เลยถ้ามาเที่ยวญีปุ่นแล้วเช่ารถขับด้วย เลือกเป็นแผน C ดีกว่าเพื่อความสบายใจ เพราะเค้าคุ้มครองเรื่องการเช่ารถขับด้วย ถ้าไม่มีก็เลือก B เพราะเป็นเบสิคของความคุ้มครองทั่วไปพวกความคุ้มครองชีวิต เที่ยวบิน กระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัว … แค่นี้ก็ช่วยลดความกังวลในการเดินทางได้แล้ว สำหรับคนที่ต้องการซื้อประกันจาก Sompo ตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกเพจไปคนเดียวโดยเฉพาะ 

#เพียงใส่โค้ด PAIKONDIEOW จะได้รับส่วนลด 10% เลย (วันนี้ – 31 ธ.ค. 61)


#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ www.facebook.com/SompoThailand/
+ เว็บไซต์ https://traveljoy.sompo.co.th/

เอาล่ะเตรียมตัวพร้อมแล้วทีนี้ก็ไปนิกโก้กันเถอะ

เราออกเดินทางจากโตเกียวโดยเริ่มต้นจากจากอาซากุสะ Asakusa Station (Tōbu Nikkō Line Limited Express Kegon) → Tobu Nikko Station เลือกรถไฟเที่ยวเช้าสุด ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ก็จะถึงนิกโก้ครับ

เมื่อเดินทางถึงนิกโก้แล้วทีนี้เราก็มาเริ่มเที่ยวในแต่ละจุดกันเลย รสบัสนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 เส้นทาง เวลาขึ้นรถบัสเราก็โชว์บัตร NIKKO CITY AREA PASS ให้กับคนขับและก็ขึ้นรถเดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ช่างง่ายและสะดวกดีจริง ๆ เลย ถ้าใครอยากไปถึงที่สะพานแดงชินเคียวก่อนแล้วละก็ ให้นั่งรถบัสสาย 2A จะได้ถึงจุดนี้ก่อนเลย แต่ว่าแอดมินและเพื่อน ๆ เลือกที่จะไปขึ้นกระเช้าชมวิวที่ ‘จุดชมวิว อะเคจิ-ไดระ’ ก่อน

นั่งรถบัสมาลงที่ป้ายหมายเลข 23 แล้วให้เดินไปที่ทางขึ้นกระเช้า ซื้อบัตรขึ้นกระเช้า ราคา 730 ¥ โดยเราสามารถขึ้นกระเช้าไปและกลับมาที่จุดเดิม พอขึ้นกระเช้าไปแล้วมองลงไปก็จะได้เห็นถนนที่เรานั่งรถขึ้นมา เรียกว่า อิโรฮะ-ซากะ (ทางขึ้นลงเขาที่มีโค้งหักศอก 48 โค้ง)

ลงจากกระเช้าเดินทางสั้น ๆ ประมาณ 3 นาทีก็จะมาถึงบริเวณชมวิว เป็นลานกว้างที่มีทิวทัศน์ 360 องศา ตอนที่แอดมินไปหิมะเพิ่งตกใหม่ ๆ พื้นก็จะขาวโพลนไปด้วยหิมะหนา ๆ เต็มไปหมด ถึงจะหนาวมาก แต่วิวด้านบนก็ถือว่าสวยมากเลยล่ะ

สำหรับใครที่อยากมาดูวิวด้านบนกระเช้าให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ส่วนใครที่กลัวความสูงแอดมินว่ากระเช้าของที่นี่ไม่น่ากลัวเลยนะ ไม่สั่นด้วย นั่งดูวิวเพลิน ๆ แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว

จากจุดชมวิวเรานั่งรถบัสจากป้าย 23 เพื่อไปน้ำตกเคะงน โดยนั่งรถบัสไปลงป้ายหมายเลข 24A ใช้เวลาประมาณ 10 นาที  เมื่อลงรถเดินไปตามทางจะเห็นจุด Information ด้านขวามือ เดินตามทางลาดลงไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางไปยังน้ำตก

 อย่างที่บอกครับว่าช่วงที่แอดมินไปกำลังหนาวจัดหิมะเพิ่งตก ดังนั้นน้ำตกที่ตั้งใจจะไม่ดู มันก็ไม่ตก!!! เพราะมันเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว ถึงแม้จะไม่มีน้ำตกให้เห็น แต่บรรยากาศท่ามกลางหิมะของที่นี่ก็สวยไปอีกแบบนึง

ถ่ายภาพกันจนหน่ำใจแล้ว ก็เลยแวะหาอะไรกินแถว ๆ หน้าปากทางเข้าน้ำตก มีร้านของกินหลายร้านเลย แอดมินแวะนั่งกินปลาแม่น้ำย่างเกลืออุ่น ๆ เรียกว่ายืนเฝ้าคุณลุงย่างกันหน้าเตาเลยแหละ (จริง ๆ คือหนาวหาที่ผิงไฟต่างหาก)

กินปลาย่างพอให้หายหนาวแล้วเราก็เดินทางต่อไปดูทะเลสาบจูเซ็นจิกัน เราไม่ต้องนั่งรถครับ แค่เดินย้อนไปทางที่เราลงบัส

เลยไปนิดเดียวก็จะเจอเสาโทริอิ(ประตูแดง)ประจำเมืองนิกโก้ และก็จะเจอทะเลสาบจูเซ็นจิครับ วิวนี้ถือว่าเป็นวิวไฮไลท์ของทริปเลยก็ว่าได้

ทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีเทือกเขาที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะสลับซับซ้อนอยู่ด้านหลัง เป็นภาพที่สวยจนแทบจะหยุดมองไม่ได้เลย แอดมินถ่ายรูปแล้วโพสลงโซเชียลมีแต่คนนึกว่าอยู่สวิสเซอร์แลนด์

แต่ถ้าใครมาหลังกจากช่วยนี้ก็จะได้เห็นความสวยงามอีกรูปแบบ เพราะในช่วงที่อากาศหนาวจัดนั้นทะเลสาบจะเป็นน้ำแข็ง แต่พอช่วงฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีเขียวของต้นไม้และเทือกเขาก็จะตัดกับสีฟ้าของน้ำในทะเลสาบ … มาช่วงฤดูหนาวแล้วก็อยากจะมาช่วงฤดูอื่นซ้ำอีก

ทั้งเดินทาง ทั้งเที่ยวกันมาครึ่งวันแล้ว แอดมินก็เลยขอเติมพลังหน่อย เลือกร้านกันอยู่นานสุดท้ายมาจบที่ร้านราเมงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับป้ายรถบัสที่เรามาลงตอนขามาน้ำตก ร้านดูธรรมดา ๆ

แต่ให้ความรู้สึกเหมือนมากินข้าวบ้านคุณตาคุณยาย ถึงร้านจะไม่หรูหราแต่ขอบอกว่าราเมงราชาติดีมาก น้ำซุปหอมหวาน เส้นราเมงนุ่มกำลังดี รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ แถมคุณยายยังเสิร์ฟชาเขียวอุ่น ๆ ให้กินแบบไม่อั้นอีกต่างหาก อากาศหนาวจัดแบบนี้เจอราเมงอุ่น ๆ แบบนี้ฟินอย่าบอกใครเลย

กินอิ่มแล้วเราก็เดินทางต่อ ขึ้นรถบัสจากป้ายรถบัส 24B จะอยู่ด้านในสุดของสถานี ทางกลับรถบัสจะเป็นคนละเส้นทางกับขามา เรามาลงในจุดที่เป็นวัดในโซนมรดกโลก ซึ่งจุดนี้ต้องซื้อบัตรนะครับถ้าต้องการเข้าไปในตัววัด แต่ถ้าไม่ซื้อบัตรก็สามารถเดินชมบรรยากาศภายนอกได้

เมื่อเข้ามาเราจะเจอวัดแรกคือวัดรินโนจิ (Rinnō-ji Temple) อยู่ด้านขวามือซึ่งตอนนี้กำลังบูรณะอยู่จะแล้วเสร็จเมื่อ ปี2019 (ภายในวัดไม่ให้ถ่ายรูปนะ) จากนั้นก็เดินมาต่อที่วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอิน (Iemitsu Taiyuin Temple) เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ วัด ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวมากแต่นักท่องเที่ยวก็ยังเดินทางมาไม่ขาดสายเลย หลายคนพาน้องหมามาเที่ยวด้วย

หลังจากเดินชมวัดแล้วเราก็เดินออกมาจากโซนมรดกโลกมาชมจุดสุดท้ายของทริปนี้ นี่นก็คือสะพานแดงชินเคียว ซึ่งนับเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวนิกโก้ สะพานลักษณะโค้งสีแดงชาดสดใสที่ข้ามแม่น้ำไดยะกาวะ เมื่อถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะถูกแต่งแต้มด้วยใบโมะมิจิสวยงามมาก ได้มาเห็นตอนฤดูหนาวแบบนี้แอดมินชักอยากจะมาซ้ำอีกทีตอนช่วงใบไม้เปลี่ยนสิแล้วสิ

หมดเวลาสนุกแล้ว … เรานั่งรถบัสกลับไปลงป้ายหมายเลข 2 ซึ่งเป็นสถานี Tobu-Nikko จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถไฟกลับเข้าโตเกียว ซึ่งกว่าจะถึงโตเกียวก็คงจะมืดพอดี เป็นอันว่าจบทริปนิกโก้ไปแบบประทับใจและฟินกับบรรยากาศสุด ๆ … ใครที่กำลังจะมาโตเกียวแอดมินและนำให้เพิ่มนิกโก้เข้าไปในแพลนด้วยนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่ ๆ และที่สำคัญถ้าจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่างลืมซื้อประกันการเดินทางด้วยนะ ซื้อแบบที่เป็นแผนประกันสำหรับเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างประกันการเดินทาง ‘Go Japan’ ของ Sompo ก็ดีนะ นอกจากจะซื้อง่ายไม่มีขั้นตอนยุ่งยากแล้ว ความครอบคลุมยังสูง ทำให้เราวางใจได้เวลาเดินทางด้วย

……………………………………………………….
ใครเคยไปเที่ยวมาแล้ว มาแชร์รูปมาคอมเม้นคุยกันได้นะครับ:)
#SompoThailand #SompoGoJapan #NIKKO #ประกันเดินทาง#ซมโปะ #ซมโปะประกันภัย #ซมโปะประเทศไทย #ติดต่อง่าย #ได้รับเงินชดเชยเร็ว #นิกโก #เมืองมรดกโลกญี่ปุ่น
………………………………………………………..

รีวิวบนเพจ : ???❄️วันเดียว…เที่ยวนิกโก NIKKO | เมืองมรดกโลกญี่ปุ่น
………………………………………………………..

#ไปคนเดียวด้วยกันมั้ย#ไปคนเดียว #ไปด้วยกัน #ไปคนเดียวบวก #ไปคนเดียวพลัส

“เพราะเรา…อยากให้ทุกคนกล้าที่จะออกมาเที่ยวไปด้วยกัน” 🙂

แฟนเพจ : www.facebook.com/paikondieow/

Instagram : https://www.instagram.com/paikondieow/

[supsystic-gallery id=142]