โอคายาม่า (Okayama) เป็นหนึ่งในเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกคุ (Chugoku) เป็นหนึ่งในศูนย์การคมนาคมของญี่ปุ่นตะวันตก เดินทางมาได้แสนสะดวก ชินคันเซ็นใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงจากเกียวโต โอซาก้า และ 35 นาทีจากฮิโรชิมา โอคายาม่าเป็นเมืองขนาดกลางที่มักจะถูกมองข้าม แต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ปราสาท เมืองเก่าที่สวยงามเยอะมาก
แอดบอกเลยว่า ทริปนี้เป็นทริปที่มีความสโลว์ไลฟ์สูงมาก เพราะทริปนี้มีทั้งปั่นจักรยานเที่ยว นอนโฮมสเตย์ ดูหมอก เดินชมเมืองเก่า ล่องเรือ ทำของแฮนด์เมด แถมที่เที่ยวแต่ละที่ก็สวยมาก ทริปนี้แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวที่น่าสนใจในโอคายาม่า ว่าถึงจะไม่ใช่เมืองใหญ่ และเป็นเมืองทางผ่านไปเมืองใหญ่ต่างๆ แต่สถานที่แต่ละที่ของที่นี่ก็สวยงาม อลังการไม่แพ้โอซาก้า ฮิโรชิมะ หรือเกียวโตเลย ตามแอดไปเที่ยวกัน แต่ก่อนเดินทางไปโอคายาม่า ทริปนี้แอดยังแวะเที่ยวที่โกเบด้วย โกเบ(Kobe) เป็นชื่อเมืองหลวงของจังหวัดเฮียวโงะ(Hyogo) เป็นเมืองท่า การค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น ทำให้มีความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรมของผู้คนที่มารวมกันอยู่ที่นี่ โกเบนอกจากเนื้อที่มีชื่อเสียงมากๆแล้ว ยังมีอะไรอีกบ้าง ป่ะ ตามแอดไปเที่ยวกัน บอกเลยว่าช่วงที่แอดมาเที่ยวเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยเลย
วันแรก
– โรงกลั่นสาเกฮาคุทสึรุ (Hakutsuru Sake Brewery Museum)
– ร้านเนื้อโกเบ Kobe Plaisir
– ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta)
– เที่ยวชมถนนช้อปปิ้งใจกลางเมือง ( Sannomiya Center shopping street ,Motomachi-Chūkagai )
– นั่งรถบัสวนรอบเมือง (Loop Bus)
– ล่องเรือชม Kobe ที่ Kobe Seabus Fantasy
– FISHERMAN’S MARKET
– โรงแรม Chisun Hotel Kobe
วันที่ 2
– สวนไมโกะ (Maiko Park) Maiko Marine Promenade
– ร้าน HELLO KITTY SHOW BOX
– สวนดอกไม้ Awaji Hanasajiki
– ชมฟาร์ม Harmony Farm Awaji
– โรงแรม The Westin Awaji Island Resort & Conference Center
วันที่ 3
– ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
– Hello Kitty Shinkansen
– โรงเรียนเก่าชิซึทานิ (Shizutani School)
– นิฮง อิจิ โนะ ดากาชิ อุริบะ (Nihon Ichi no Dagashi Uriba)
– ปราสาทโอคายาม่า Okayama
– สวนโคราคุเอน (Korakuen)
– ร้าน อิคิยะ (Ikiya)
– โรงแรม Hotel Granvia Okayama
วันที่ 4
– เช่าจักรยาน ไปศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ (Kibitsuhiko Shrine)
– ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsujinja Shrine)
– ร้าน คิบิจิ โมเทนาชิ โนะ ยากาตะ (Kibiji Motenashi-no Yakata)
– พักโฮมสเตย์ nano stay
วันที่ 5
– จุดชมทะเลหมอกอุนไค Unkai Terrace
– เที่ยวชมย่านประวัติศาสตร์คุราชิคิ (Kurashiki Bikan Historical Quarter)
– ล่องเรือบริเวณคุราชิคิ (Kurashiki River Boat Tour)
– กิจกรรมทำเข็มกลัดแฮนด์เมดที่ร้าน F L A T
– คาเฟ่ gangukan
– ร้าน Hamayoshi (อาหารทะเล)
– กิจกรรมทำผ้ามัดย้อมสไตล์ญี่ปุ่น ที่ร้าน Tsumugu
– โคจิมะยีนส์สตรีท (Kojima Jeans Street)
– โรงแรมเซโตอุจิ โคจิมะ (Setouchi Kojima hotel)
วันที่ 6
– อุทยานแห่งชาติ เซโตไนไค (Setonaikai National Park)
– ร้าน Kani Dōraku
วันแรก
จากสนามบินสุวรรณภูมิแอดบินตรงมาลงที่สนามบินคันไซ หลังจากนั้นแอดนั่งรถไฟ Haruka หมายเลข 8 ไปยังสถานีชินโอซาก้า จากสถานีชินโอซาก้า แอดนั่งรถไฟ Nozomi หมายเลข 11 ต่อไปยังสถานีชินโกเบ หลังจากถึงสถานีชินโกเบแล้ว ได้เวลาเริ่มต้นทริปนี้กันแล้ว ที่แรกที่แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวกันก็คือ โรงกลั่นสาเกฮาคุทสึรุ เพราะว่าที่เมืองโกเบเป็นแหล่งผลิตสาเกปริมาณมากที่สุดในญี่ปุ่น
โรงกลั่นสาเกฮาคุทสึรุ (Hakutsuru Sake Brewery Museum)
โรงกลั่นสาเกฮาคุทสึรุ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมและจัดแสดงกระบวนการผลิตสาเกอย่างละเอียดและเข้าใจง่าย โดยการใช้หุ่นขี้ผึ้งเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดกรรมวิธี กรรมวิธีการผลิตสาเกนั้น หากกล่าวคร่าว ๆ ก็จะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกชนิดพันธุ์ข้าว แหล่งน้ำที่ใช้ จนกระทั่งอุปกรณ์เครื่องมือในการผลิต ที่พิเศษเป็นในเรื่องของแหล่งน้ำที่ใช้ ซึ่งในเขตนาดะคุณภาพน้ำในเขตนี้ดีเยี่ยมถึงที่สุด จึงทำให้สาเกออกมารสชาติยอดเยี่ยมนั่นเอง หลังจากที่เราดูกรรมวิธีต่าง ๆ มาแล้ว จุดต่อไปที่ห้ามพลาดคือ จุดปลอมตัวเป็นคนผลิตสาเก ตอนถ่ายก็อาจจะโพสท่าเมาๆหน่อย ให้เข้ากับบรรยากาศ นอกจากเดินชมและถ่ายรูปแล้ว ที่นี่เขายังให้เราชิมสาเกชนิดต่างๆ มีทั้ง สาเกบ๊วย สาเกผลยุซุ (Nigori Yuzu-shu) และชนิดอื่น ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายสินค้าจากสาเกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สาเกระดับคุณภาพ Hakutsuru-Nishiki ที่ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองและมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น ที่มาส์กหน้า ครีมทาผิว ขนมจากสาเก แก้วสาเก และสินค้าอีกมากมายเลย แต่ที่แอดชอบที่สุดคือ ซอฟท์ไอศกรีมสาเก อร่อยกลมกล่อมมีรสสาเกนิด ๆ และรสชาติของนมหน่อยๆ แอดชอบ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.hakutsuru.co.jp/community/shiryo/
+ ที่ตั้ง : 4 Chome-5-5 Sumiyoshi Minamimachi, Higashinada Ward, Kobe, Hyogo 658-0041 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/FkuXACLb6SPc72NE7
+ เวลาเปิด – ปิด : 9:30 – 16:30น.
ร้านเนื้อโกเบ Kobe Plaisir
หลังจากชิมสาเก ซื้อของฝากติดไม้ติดมือเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาของมื้อกลางวันแล้ว มาโกเบทั้งทีก็ต้องไม่พลาดเนื้อโกเบ แอดพาทุกคนมาที่ร้าน Kobe Plaisir ที่ร้าน Plaisir มีเนื้อโกเบหลายเมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Seiro-mushi (Steamed beef) เมนูแนะนำสำหรับคนรักสุขภาพที่อยากลองชิมรสชาติของเนื้อโกเบ เสิร์ฟคู่กับผัก 4 ฤดูมาในที่นึ่ง แต่เมนูเด็ดของร้านคือเมนูเทปปันยากิ รสชาติแอดบอกเลยว่า หวานอร่อย นุ่มลิ้น ไม่มีความเหนียวให้รำคาญใจ กินปุ๊บละลายปั๊ป ฟินสุดๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kobe-plaisir.jp/
+ ที่ตั้ง : HOTEL the b’ kobe 1F, 2-11-5 Shimoyamate St, Chuo-ku, Kobe, Hyogo 650-0011
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/FsKt2XKPkGMhdKN67
ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta)
หลังจากอิ่มท้อง กินอิ่มแล้วเดินกันสักหน่อยดีกว่า สถานที่ต่อไปที่แอดจะเดินไปก็คือ ศาลเจ้าอิคุตะ ศาลเจ้าอิคุตะเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว คาดกันว่าก่อสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 201 หรือกว่า 1800 ปีมาแล้ว มีมาก่อนเมืองโกเบซะอีก เพราะแม้แต่ชื่อเมืองโกเบ ยังมาจาก แกมเบ(Kambe)หรือชื่อบ้านของเทพเจ้าอิคุตะนั้นเอง ซึ่งเทพอิคุตะนั้นเชื่อกันว่าเป็นเทพแห่งพลังความสร้างสรรค์ ที่นี่จึงเป็นศาลเจ้าที่มักจะมีชาวเมืองโกเบโดยเฉพาะเหล่าศิลปิน และนักกีฬาแวะเวียนมาขอพรอยู่เสมอ รวมทั้งเครื่องรางของที่นี่ยังมีชื่อด้านการสมหวังด้านความรักอีกด้วย ศาลเจ้าอิคุตะตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีความคึกคักและเดินทางสะดวก เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบเลย ถึงจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ภายในศาลเจ้าก็มีความร่มรื่นอยู่ไม่น้อย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-2-1 Shimoyamatedori, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0011 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/hkAKNaGS5nQc1pAX7
เที่ยวชมถนนช้อปปิ้งใจกลางเมือง ( Sannomiya Center shopping street ,Motomachi-Chūkagai )
จากศาลเจ้ามีแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองอยู่หลายแหล่งใกล้ๆ แต่วันนี้ที่แอดจะไปเดินชื่อว่า Sannomiya Center shopong street และ Motomachi shopping street คือถนนสายช้อปปิ้งขนาดยาวของเมืองโกเบที่ตั้งอยู่ในย่าน Sannomiya บริเวณถนนช้อปปิ้งทั้งสองแห่งนั้นมีร้านค้ามากมายตั้งเรียงรายยาวไปตลอดสองข้างทางของถนน ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านหนังสือ อุปกรณ์ไฟฟ้า สินค้าเบ็ดเตล็ด ของตกแต่งภายในบ้านและรวมถึงร้านอาหาร มีร้านคาเฟ่น่ารักเยอะมากๆด้วย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kobe-sc.jp/
+ ที่ตั้ง : 7 Sannomiyacho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0021 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/QAGnHH8Uw9LrseGd8
นั่งรถบัสวนรอบเมือง (Loop Bus)
หลังจากช้อปปิ้งเพลินๆอยู่สักพัก แอดจะพาทุกคนไปนั่งรถชมรอบเมืองกัน การเดินทางเที่ยวในโกเบ มีวิธีการเดินทางหลากหลายแบบ หนึ่งในวิธีที่ให้ความสะดวกสบายที่สุดคือ การนั่ง Kobe City Loop Bus เป็นรถบัสสีเขียวที่จะพาไปยังที่เที่ยวไฮไลท์ของเมืองโกเบ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Nishimachi, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0038 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/rX31AUFbbR3UN4gn7
ล่องเรือชม Kobe ที่ Kobe Sea Bus Cruising Cafe FANTASY
เรานั่งรถบัสชมเมืองกันไปแล้ว แอดจะพาทุกคนไปเปลี่ยนบรรยากาศล่องเรือชมวิวเมืองกันบ้างดีกว่า ล่องเรือที่ Kobe Sea Bus Cruising Cafe FANTASY เราจะได้เห็น Kobe Port Tower ที่เป็นแลนด์มาร์คของโกเบ เมืองท่าของญี่ปุ่น หอคอยที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกลอง มีสีแดงสดน่าจดจำ และมีความสูงถึง 108 เมตรนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมกัน ด้วยความที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของโกเบ แอดบอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก วิวสวยสุดๆ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kobe-seabus.com/
+ ที่ตั้ง : 7-1 Hatobacho, Chuo Ward, Kobe, 兵庫県 650-0042 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/94vhPngr9si7nA1y5
กินมื้อเย็น FISHERMAN’S MARKET
หลังจากนั้นก็ได้เวลาของมื้อเย็นกันแล้ว คืนนี้แอดจะพาทุกคนไปกินบุฟเฟ่ต์ขาปูที่ร้าน FISHERMAN’S MARKET เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ขนาดใหญ่ ที่บรรยากาศดีมาก และอยู่ใกล้กับท่าเรือที่แอดไปล่องเรือมาก่อนหน้านี้ด้วย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.create-restaurants.co.jp/shop/index.php?controller=FrontCrShop&action=shop_show&id=258&page=
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒650-0044 Hyogo, Kobe, Chuo Ward, Higashikawasakicho, 1 Chome−6−1
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/8kzhTR28hzSdAWgL6
โรงแรม Chisun Hotel Kobe
หลังจากกินอิ่ม แอดก็ได้เวลาเข้าโรงแรมไปพักผ่อนกันแล้ว โรงแรมคืนแรกของแอดชื่อว่า Chisun Hotel Kobe ห้องนอนเล็กๆน่ารัก เหมาะสำหรับการนอนคนเดียว แต่ความสะดวกสบายไม่เล็กนะครับ แอดนอนหลับสบาย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.solarehotels.com/hotel/hyogo/chisunhotel-kobe/
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-3-1 Nakamachidori, Chuo Ward, Kobe, Hyogo 650-0027 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/gK1FkTrPUABy8FiC8
วันที่ 2
สวนไมโกะ Maiko Marine Promenade
เช้าวันนี้แอดจะพาทุกคนไปถ่ายรูปกับสะพานอะคะชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge) เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวทั้งสิ้น 3,911 เมตร โดยเชื่อมระหว่างเกาะอะวะจิ (Awaji Island) และเมืองโกเบ (Kobe City) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ภายในบริเวณสะพานมีทางเดินชมวิว ไมโกะ มารีน พรอมมานาด ที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับตัวสะพาน ทางเดินชมวิวนี้สูงประมาณ 47 เมตรเหนือผิวน้ำทะเล พื้นสะพานเป็นกระจกใสมองลงไปเห็นทะเลเลย ชวนให้ทั้งสนุกและหวาดเสียวไปพร้อมๆกัน สะพานนี้สวยมาก ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://hyogo-maikopark.jp/
+ ที่ตั้ง : 4-2051 Higashimaikocho, Tarumi Ward, Kobe, Hyogo 655-0047 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/tRmVSKEyQdCScrx96
ร้าน HELLO KITTY SHOW BOX
ที่ต่อไปที่แอดจะพาไป เอาใจสายหวาน สายฮัลโหลคิตตี้กันสักหน่อย ร้าน HELLO KITTY SHOW BOX นอกจากเป็นร้านนี้ไม่ใช่แค่ขายของเกี่ยวกับคิตตี้เท่านั้น แต่ยังเป็นร้านอาหาร และมีของหวานน่ารักๆ แถมยังมีการโชว์การแสดงด้วย ระหว่างชมการแสดง แอดก็กินข้าวไปด้วย ข้าวกล่องแสนน่ารักแต่มาพร้อมกับความอร่อย ดูการแสดงไป กินข้าวไปด้วย การแสดงน่ารักกกกกก ข้าวก็อร่อย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://hitosara.com/0006127476/?cid=gm_hp
+ ที่ตั้ง : 177-5 Nojimahirabayashi, Awaji, Hyogo 656-1724 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/kYNGK6jMVGcKJxxM6
สวนดอกไม้ Awaji Hanasajiki
หลังจากกินข้าวเรียบร้อย แอดจะพาทุกคนไปถ่ายรูป ชมวิว กับดอกไม้สวยๆที่ สวนดอกไม้ Awaji Hanasajiki ช่วงที่แอดไป มีทั้งดอกลาเวนเดอร์สีม่วง และคอสมอสสีชมพูกำลังบานสะพรั่งสวยงามมากๆ บานเต็มลานกว้างๆ ที่นี่ยังสามารถเดินเล่นชมวิว หรือว่าถ่ายรูปก็ได้โดยไม่มีค่าบริการ เข้าชมฟรี อากาศเย็นสบายบนเนินเขา พร้อมยังมีร้านขายของที่ระลึก ขายอาหาร, ผักและดอกไม้นานาชนิดอีกด้วย สำหรับสาวๆไม่ควรพลาดเลยนะครับ เพราะสวยมากจริงๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.hyogo-park.or.jp/hanasajiki/
+ ที่ตั้ง : 2865-4 Kusumoto, Awaji, Hyogo 656-2301 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/L4fZJmXJ4mgb1B67A
ชมฟาร์ม Harmony Farm Awaji
เดินชมวิว ชมดอกไม้ ถ่ายรูปแบบเต็มอิ่มแล้ว สถานที่ต่อไปแอดจะพาทุกคนไปขี่ม้ากัน ที่ Harmony Farm Awaji น้องม้าน่ารัก สีขนสวย แอดก็แอบตื่นเต้นนะ กลัวน้องทำแอดร่วง แต่ถ้าตัดความกังวลไป ก็สนุกเหมือนกันนะ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.hf-awaji.com/
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒656-2305 Hyogo, Awaji, 浦2400-2
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/5mbSudm19Qk7NC8R7
โรงแรม The Westin Awaji Island Resort & Conference Center
มื้อเย็นวันนี้แอดจะกลับไปกินที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากขี่ม้าเรียบร้อยแอดก็เดินทางเข้าโรงแรม บอกเลยว่าโรงแรมนี้สวยมาก วิวข้างบนจากโรงแรมคือดีย์ ตอนกลางคืนดูโรแมนติกด้วย ไม่ใช่แค่ตัวโรงแรมที่สวย แต่ภายในห้องนอนยังหรู สบายตา ห้องกว้างขวาง ใหญ่มาก หลับสบายสุดๆ ส่วนมื้อเย็นแอดกินที่ห้องอาหารของโรงแรม เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ กินอิ่ม หลับสบาย เตียงนุ่ม ฟิน
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.marriott.com/hotels/travel/osaai-the-westin-awaji-island-resort-and-conference-center/?scid=bb1a189a-fec3-4d19-a255-54ba596febe2
+ ที่ตั้ง : 2 Yumebutai, Awaji, Hyogo 656-2301 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/vETCgneo5tjsbcJCA
วันที่ 3
เช้าวันนี้แอดนั่งรถบัสจาก Awaji Yumebutai ไปยังไมโกะ หลังจากนั้นแอดนั่งรถไฟจากสถานี JR Maiko ไปถึงสถานีฮิเมจิ หลังจากถึงสถานีฮิเมจิแล้ว แอดนั่งแท็กซี่ต่อไปยังปราสาทฮิเมจิ เพราะวันนี้ที่แรกที่แอดจะพาทุกคนมากันก็คือ ปราสาทฮิเมจิ
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิ นับเป็นปราสาทดั้งเดิมที่เหลืออยู่มีทั้งหมด 12 แห่งในญี่ปุ่น ยิ่งภายหลังปราสาทฮิเมจิเพิ่งจะผ่านการรีโนเวทครั้งใหญ่มาเมื่อปี 2015 ทำให้สภาพของปราสาทตอนนี้สวยงามและสมบรูณ์มากยิ่งขึ้นไปอีก จนได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ และเป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นร่วมกับปราสาทอีกสามแห่งอย่าง Matsumoto Castle, Inuyama Castle และ Hikone Castle ปราสาทฮิเมจิยังได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาถึงจะผ่านประตู Otemon เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอกับสวนที่มีต้นซากุระมากมายทั่วทั้งบริเวณ จนกลายมาเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของปราสาทฮิเมจิคู่กับต้นซากุระ แอดบอกเลยว่ารูปถ่ายออกมาสวยเว่อร์วังอลังการมากๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.city.himeji.lg.jp/castle/index.html
+ ที่ตั้ง : 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/a5GotDB42JKtCfFh6
Hello Kitty Shinkansen
เดินเล่น ถ่ายรูป ชมวิวที่ปราสาทฮิเมจิ กันสักพัก แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวที่จังหวัดโอคายาม่ากันต่อ จากฮิเมจิแอดจะนั่งรถไฟชินคังเซนเพื่อไปโอคายาม่า แต่ แต่ รถไฟชินคังเซงที่แอดจะไปขึ้นนั้น ไม่ใช่รถไฟธรรมดาทั่วไป แต่เป็น รถไฟคิตตี้ Hello Kitty Shinkansen สำหรับสาวก Hello Kitty คงฟินแน่นอน เพราะภายนอกของตัวรถมีการเพ้นท์ด้วยลวดลายของริบบิ้นสีชมพูที่พันทั้งขบวนรถ พอเข้ามาด้านใน ตู้หมายเลข 1 “Hello Plaza” เป็นร้านค้า ขายของที่ระลึก มีทั้งของกิน ของฝาก เป็นลวดลายเฉพาะ คือคิตตี้ในชุดพนักงานรถไฟ JR และยังมีที่ให้นั่งชมบรรยากาศข้างทาง และมุมถ่ายรูปอีกด้วย ตู้หมายเลข 2 “Kawaii! Room” และตู้หมายเลข 3 เป็น Non-Reserved Seats (ไม่ระบุที่นั่ง ไม่ต้องสำรองที่นั่งมาก่อน ถ้ามีที่นั่งว่างสามารถนั่งได้เลย) ภายในเป็นห้องโดยสาร ที่สอดแทรกความน่ารัก ด้วยการตกแต่งและการใช้สี ที่ตู้หมายเลข 2 จะมีคิตตี้ในชุดพนักงานรถไฟคอยยืนต้อนรับรอถ่ายรูปกับทุกคนอีกด้วย ตู้หมายเลข 4 หมายเลข 5 และหมายเลข 6 จะเป็น Reserved Seat (ระบุที่นั่ง ต้องสำรองที่นั่งมาก่อน) ภายในตกแต่งเหมือนกันกับ ตู้หมายเลข 2 และตู้หมายเลข 3 แต่ไม่มีคิตตี้คอยต้อนรับให้ถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่ง กระจก ประตู น่ารักไปหมดดดดดด แอดเป็นผู้ชายยังหยุดถ่ายรูปไม่ได้เลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.jr-hellokittyshinkansen.jp/en/
โรงเรียนเก่าชิซึทานิ (Shizutani School)
หลังจากนั่งรถไฟชินคังเซนสายหวานแหวว จนมาถึงสถานีโอคายาม่ากันแล้ว ที่แรกที่แอดจะไปก็คือ โรงเรียนเก่าชิซึทานิ สร้างขึ้นในปี 1670 เป็นโรงเรียนสำหรับชาวบ้านโรงเรียนแรกในญี่ปุ่น และในปี 2015 ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกญี่ปุ่น หอประชุมที่รายล้อมด้วยกำแพงหินเป็นสมบัติแห่งชาติ ตึกอื่นๆ รวมทั้งหอประชุมใช้กระเบื้องเซรามิคมุงหลังคาทำจาก Bizen pottery ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ในบริเวณโรงเรียนมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นตึกที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นรวมทั้ง Shizutani-jinja Shrine ในฤดูใบไม้ร่วงต้นพิสทาชิโอ 2 ต้น หน้าสนามโรงเรียนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงสวยงามมาก ทำให้โรงเรียนเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โด่งดังแห่งหนึ่ง ตอนที่แอดไปมีร้านค้า 4-5ร้านมาเปิดขายของ มีทั้งของกิน และของฝาก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://shizutani.jp/
+ ที่ตั้ง : 784 Shizutani, Bizen, Okayama 705-0036 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/7i7yKUHRqzUtdAnWA
นิฮง อิจิ โนะ ดากาชิ อุริบะ (Nihon Ichi no Dagashi Uriba)
หลังจากถ่ายรูป ที่โรงเรียนเก่าชิซึทานิ เรียบร้อย แอดจะพาทุกคนไปย้อนวัยกันสักหน่อย เพราะที่ที่แอดจะพาไป เป็นแหล่งขายขนมกว่า 5000 ชนิดเลยทีเดียว ที่ที่แอดพูดถึงคือ นิฮง อิจิ โนะ ดากาชิ อุริบะ ที่นี่มีทั้งขนม ของเล่น ที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ขนมเยอะมากแบบสุดๆ แอดอยากซื้อทุกอย่างเลย ดูน่ากิน น่าเก็บไปหมด สำหรับใครที่ชอบขนม สะสมของเล่นเก่าๆ ที่นี่น่าสนใจมากครับ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.ohmachi-site.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 1373-5 Higashisue,Osafune-cho,Setochi-city,Okayama
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/F6UaUhMHFGSMnoL8A
ปราสาทโอคายาม่า Okayama
หลังจากนั้นแอดจะพาทุกคนไปชมความสวยงามยามค่ำคืนกัน ที่แรกก็คือ ปราสาทโอคายาม่า เป็นหนึ่งในร้อยปราสาทยอดนิยมในญี่ปุ่น ที่ใช้เวลาสร้าง 8 ปีจนแล้วเสร็จในปี 1597 โดยหลังจากถูกทำลายในช่วงสงครามจึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1966 ปราสาทนี้มีชื่ออีกชื่อคือ “U-jo (ปราสาทอีกา)” ซึ่งตั้งตามสีปราสาทด้านนอกที่ดำเหมือนอีกา และมีชื่อเสียงในฐานะปราสาทที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับสีขาวของ Himeji Castle ปราสาทนี้ในตอนกลางวันว่าสวยแล้ว แต่กลางคืนก็สวยมากไม่แพ้กัน เพราะมีการส่องไฟไปที่ตัวปราสาท พร้อมการตกแต่งไฟตามต้นไม้ ให้อารมณ์แบบดูน่าเกรงขามมากขึ้น แต่สวยมากจริงๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://okayama-kanko.net/ujo/
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-3-1 Marunouchi, Kita Ward, Okayama, 700-0823 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ZQHViK1R3SMsKhv66
สวนโคราคุเอน (Korakuen)
แอดจะพาทุกคนไปชมความงามยามค่ำคืนอีก 1ที่ ก็คือที่ สวนโคราคุเอน สวนโคราคุเอน นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดโอคายาม่า เรียกได้ว่าถ้ามายังเมืองนี้แล้วไม่มาสวนนี้ล่ะก็ถือว่าพลาดมากๆเลย นั่นก็เพราะสวนโคราคุเอนนั้นเป็นสวนที่ได้รับการยกย่องว่างดงามติดอันดับ 1 ใน 3ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยสวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างมากและยังถูกตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ที่ภายในสวนองค์ประกอบความเป็นญี่ปุ่นแน่นมากไม่ว่าจะเป็น สระน้ำขนาดใหญ่, ธารน้ำไหล, ทางเดินและเนินเขาสำหรับเป็นจุดชมสวน ทำเลที่ตั้งของสวนอยู่ข้างๆกับปราสาทโอคายาม่าเลย ทำให้มาหนึ่งได้ถึงสองเพราะสามารถมองเห็นตัวปราสาทจากภายในสวนได้อีกต่างหาก วิวกลางคืนของที่นี่สวยมาก สะพานที่ถูกไฟส่องพร้อมกับภาพพื้นหลังที่เป็นตัวปราสาทโอคายาม่า บอกเลยว่าประทับใจสุดๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://okayama-korakuen.jp/
+ ที่ตั้ง : 1-5 Korakuen, Kita Ward, Okayama, 703-8257 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/mX6XFWn7hzykLEn8A
ร้าน อิคิยะ (Ikiya)
เดินกันมาเยอะ ถ่ายรูปกันก็แยะ ท้องแอดก็ร้องเป็นเพลงแล้วเรียบร้อย ได้เวลากินมื้อเย็นแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นซาชิมิ ซูชิ ยากิโซบะ ร้านที่แอดมาชื่อว่า อิคิยะ เป็นร้านอาหารที่สไตล์ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นจริงๆ ซูชิดี ซาชิมิก็หวานอร่อย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://ikiya.info/
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-1-7 Yanagimachi, Kita Ward, Okayama, 700-0904 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/BwxR132FUw7AXTBA9
โรงแรม Hotel Granvia Okayama
หลังจากนั้นแอดก็เดินทางเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อน โรงแรมในคืนนี้วิวดีมาก สามารถมองเห็นวิวเมือง แถมยังมองเห็นภูเขาด้วย ห้องก็น่ารัก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โรงแรมที่ว่าชื่อ Hotel Granvia Okayama
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://granvia-oka.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 1-5 Ekimotomachi, Kita Ward, Okayama, 700-8515 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/46nRe3xfnXEmAoZ76
วันที่ 4
เช้าวันนี้แอดจะไปเปลี่ยนสถานีด้วยการนั่งรถไฟ JR จากสถานีโอคายาม่า ไปยังสถานีบิเซ็นอิจิโนะมิยะ หลังจากถึงสถานีบิเซ็นอิจิโนะมิยะ วันนี้แอดจะออกกำลังกายสักหน่อย ด้วยการปั่นจักรยานเที่ยวกัน ลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ที่แรกที่แอดปั่นจักรยานไปถึงก็คือ ศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ (Kibitsuhiko Shrine)
ศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ (Kibitsuhiko Shrine)
ศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ กล่าวกันว่าศาลนี้ สร้างอยู่บนที่ตั้งของอดีตบ้าน Mikoto ศาลเจ้าแห่งนี้มีต้นสนซีดาร์ยุคเฮอันภายในสวนซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาที่ Koyasu-jinja Shrine ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันเพื่อขอให้มีลูกและขอให้คลอดลูกปลอดภัย ที่นี่ยังสามารถเสริมโชคชะตาเช่าเครื่องรางสีแดงขาวเพื่อชีวิตแต่งงานที่ราบรื่น หรือเช่าเครื่องรางรูปพีชช่วยปัดเป่าความโชคร้าย หรือจะเลือกเช่าเป็นของฝากก็ได้เหมือนกัน
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.kibitsuhiko.or.jp/
+ ที่ตั้ง : 1043 Ichinomiya, Kita Ward, Okayama, 701-1211 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/3vQ1cM2AAxF9A9336
ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsujinja Shrine)
แอดปั่นจักรยานต่อไปยัง ศาลเจ้าคิบิทสึ แต่ก่อนจะถึง ระหว่างทางที่แอดปั่นผ่านคือธรรมชาติมาก ธรรมชาติสุดๆ อากาศก็ดี จินตนาการว่าตัวเองเป็นพระเอกในละครวัยรุ่นญี่ปุ่นยังไงยังงั้น หลังจากปั่นจักรยานกินลมชมวิวเพลินๆอยู่ แอดก็มาถึง ศาลเจ้าคิบิทสึ แล้ว ศาลเจ้าคิบิทสึเป็นศาลเจ้าที่เกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับเทพเจ้าที่เป็นที่มาของ “Momotaro” นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นชื่อดัง มีอาคารหลักที่เป็นสมบัติแห่งชาติ ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1425 แต่ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือทางเดินอลังการยาว 360 ม. ยาวมากๆ เมื่อเดินไปจนสุดทางเดินที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงจะมองเห็นดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวยงามเบ่งบานอยู่สองข้างทาง
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://kibitujinja.com/
+ ที่ตั้ง : 931 Kibitsu, Kita Ward, Okayama, 701-1341 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/tkVevAxtghc1JbzZ9
ร้าน คิบิจิ โมเทนาชิ โนะ ยากาตะ (Kibiji Motenashi-no Yakata)
แอดก็ปั่นจักรยานชมวิวต่ออีกสักหน่อย วิวดีมากกกก เห็นภูเขา เห็นทุ่งนา ปั่นผ่านทางรถไฟ ปั่นผ่านหมู่บ้านเล็กๆน่ารักๆ ดูสงบ และน่าอยู่มาก ปั่นไปปั่นมา ท้องแอดเริ่มร้องแล้ว แอดเลยปั่นต่อไปยังร้านอาหารเลย ร้านอาหารมื้อนี้พิเศษมากๆ เพราะร้านนี้ไม่ได้เป็นร้านอาหารแบบทั่วไป แต่เป็นร้านที่เป็นรถบัสเก่า 2ชั้น ถูกดัดแปลงกลายเป็นร้านอาหารน่ารักๆ บรรยากาศดี ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา และธรรมชาติ เมนูแนะนำของที่นี่คือ แกงกะหรี่คิบิจิ นอกจากแกงกะหรี่ ที่ร้านนี้ยังมีอีกหลายเมนู รวมถึงเมนูเครื่องดื่มก็มีเยอะไม่แพ้กัน อาหารอร่อย วิวก็ดี ชิวสุด
พักโฮมสเตย์ nano stay
หลังจากปั่นจักรยานมาเกือบทั้งวัน เราก็มาที่พักกัน แต่รอบนี้พิเศษมาก สำหรับการมานอนที่ญี่ปุ่น ปกติเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นเราจะพักกันที่โรงแรมเป็นส่วนใหญ่ แต่บอกเลยว่ารอบนี้ไม่ใช่ แต่เราพักเป็นโฮมสเตย์ ชื่อว่า nano stay เป็นบ้านของคนญี่ปุ่นน่ารักมาก ตรงบริเวณบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไมเสีเขียว บ้านตั้งอยู่บนเนินสูง บริเวณหน้าบ้านมองเห็นวิวหน้า ห้องพักจะนอนเป็นฟูกแบบเรียวกัง มีฉากกระดาษกันเป็นห้องๆ มีฮีตเตอร์ตั้งให้เป็นตามจุดแต่ละห้อง สำหรับห้องน้ำจะมี 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง จะใช้รวมกับคนอื่นๆ โดยรวมแล้วสะอาด ค่อนข้างสะดวกสบายยังครบครัน บรรยากาศดี ธรรมชาติรอบๆก็สวย สดชื่นสุดๆ และนอกจากการมานอนบ้านคนญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือให้เราได้ลองเขียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นด้วยพู่กัน และอีกกิจกรรมหนึ่งที่เด็ด คือ การช่วยกันทำอาหารมื้อเย็นด้วยกันกับเจ้าของบ้านเลย มีทั้งของคาวและของหวาน บอกเลยว่าแต่ละเมนูอลังการและจัดเต็มมากๆ จัดจานก็สวยน่ากินทุกอย่าง สำหรับมื้อเช้าก็มีอาหารให้ด้วย เป็นข้าวปั้นแบบญี่ปุ่นเลย ฟินสุดๆ เหมือนมาถึงญี่ปุ่นจริงๆ
ที่นี่เปิดให้คนต่างชาติเข้าพักโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนที่มาพักได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่หาไม่ได้ในเมืองโดยการเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านเก่าแก่กว่าร้อยปี ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเจ้าของบ้าน ได้ร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมญี่ปุ่นสนุกๆ นอกจากจะเป็นโฮมสเตย์สำหรับชาวต่างชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็นโรงเรียนสอนภาษาสำหรับคนญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะสามารถแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างคนญี่ปุ่นและต่างชาติที่มาพักที่นี่อีกด้วย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.nano-stay.com/
+ ที่ตั้ง : 1670 Ueno, Kibichūō, Kaga District, Okayama 709-2344 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/o38Z5pTgbLgEN7ELA
+ โทร : +81 90-7344-1465
วันที่ 5
จุดชมทะเลหมอกอุนไค Unkai Terrace
เช้าวันนี้แอดจะพาทุกคนไปชมวิวทะเลหมอกกัน “จุดชมทะเลหมอกอุนไค Unkai Terrace หรือ จุดชมวิวปราสาทบิทชูมัตสึยามะ” เป็นจุดชมทะเลหมอกที่จะเห็น “ปราสาทลอยฟ้า” คือ ปราสาทบิจจูมัตสึยามะ (Bitchu Matsuyama Castle sea of clouds) เป็นปราสาทที่เก่าแก่สร้างขึ้นในปี 1240 และยังเป็นหนึ่งในร้อยปราสาทยอดนิยมในญี่ปุ่น ตัวปราสาทตั้งอยู่บนภูเขา ถ้ามองไปทางขวาจากจุดชมวิวจะเห็นตัวปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่ามากๆ ถ้าวันไหนหมอกเยอะๆ จะเห็นเหมือนกับปราสาทตั้งอยู่บนเมฆเลย เรียกว่าเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งที่ต้องมา นอกจากตัวปราสาทแล้ว เราสามารถมองเห็นแม่น้ำและหมู่บ้านอีกด้วย บอกเลยว่าสวยงามคุ้มค่าที่เดินทางมากๆ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมทะเลหมอก คือ ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่กำลังย่างเข้าฤดูหนาว และใบไม้เปลี่ยนสี เวลาประมาณ 6:00 – 7:30 น.
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.okayama-japan.jp/en/spot/949
+ ที่ตั้งจุดชมวิว : Okumandacho, Takahashi, Okayama 716-0007, Japan
+ แผนที่ gps จุดชมทะเลหมอก : https://goo.gl/maps/j3iBCLXvFo4CdVtJ6
+ การเดินทางไปจุดชมวิว : ต้องใช้รถยนต์หรือแท็กซี่ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคมจะมี แท็กซี่ส่วนรวมอุนไคท่องเที่ยวปราสาทบิทชูมัตสึยามะ วิ่งจาก Bitchū-Takahashi Station ไปยังจุดชมวิว 2 เที่ยว / วัน ค่าโดยสารคนละ 1,500 เยน / ไป-กลับ
+ ที่ตั้งปราสาทบิทชูมัตสึยามะ : 1 Marunouchi, Matsuyama, Ehime 790-0008 Japan
+ แผนที่ Gps ปราสาทบิทชูมัตสึยามะ : https://goo.gl/maps/2HqoGZ7BEuqvcwGh7
+ ค่าเข้าชมป : ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 150 เยน
+ เวลาเปิดปิด : เดือนเมษายน – เดือนกันยายน เปิดเวลา 9:00 – 17:30 น. ,เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม 9:00 ~ 16:30 น. และช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคมปิดทำการ
เที่ยวชมย่านประวัติศาสตร์คุราชิคิ (Kurashiki Bikan Historical Quarter)
หลังจากชมวิวแบบเพลินๆสักพัก แอดก็ไปนั่งรถไฟ JR จากสถานี บิชู ทาคาฮาชิ ไปยังสถานีคุราชิคิ เมืองคุราชิคิเป็นที่ตั้งของย่านประวัติศาสตร์ Kurashiki Bikan Historical Quarter เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการค้าในสมัยเอโดะ Kurashiki Bikan Historical Quarter เป็นพื้นที่ที่ยังคงดำรงความเป็นเมืองเก่าไว้ ที่นี่มีสถานที่น่าสนใจหลายที่ อย่างเช่น Ohara Family House และ Kurashiki IVY Square ซึ่งเป็นอาคารโบราณ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Ohara Museum of art, Japan Folk Toy&Doll Museum และ Yumiko Igarashi Museum นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย น่ารักๆทั้งนั้น เดินถ่ายรูปไป ช้อปปิ้งไป เพลินแน่นอน
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.city.kurashiki.okayama.jp/6219.htm
+ ที่ตั้ง : Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/WKN1Bj18dc91QGoT7
ล่องเรือบริเวณคุราชิคิ (Kurashiki River Boat Tour)
ที่ Kurashiki Bikan Historical Quarter ยังมีแม่น้ำคุราชิคิ แอดเลยจะพาทุกคนไปนั่งเรือเพื่อชมบรรยากาศรอบๆเมืองคุราชิคิกัน สบายเลย เปลี่ยนจากเดินมานั่งเรือแทน ได้อีกบรรยากาศเลย แถมล่องเรือไปยังสามารถลิสต์ไว้ก่อนได้ด้วย ว่าร้านไหนน่าสนใจ พอขึ้นจากเรือสามารถเดินไปหาได้เลย เกร๋
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.city.kurashiki.okayama.jp/6219.htm
+ ที่ตั้ง : Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/WKN1Bj18dc91QGoT7
กิจกรรมทำเข็มกลัดแฮนด์เมดที่ร้าน F L A T
พอขึ้นจากเรือ แอดเดินตรงไปที่ร้าน F L A T เพื่อที่แอดจะไปทำเข็มกลัดด้วยตัวเอง ทาทามิเบริ คือผ้าทอหน้ากว้าง 8 ซม. ที่ใช้ทำขอบเสื่อทาทามิของญี่ปุ่น ใช่แล้ว เข็มกลัดที่แอดจะทำ จะทำด้วยขอบเสื่อทาทามินั่นเอง แต่ไม่ได้มีแต่สีพื้นๆ ทั่วไป สีพาสเทล ลายจุด ลายดอก ลายการ์ตูนดิสนีย์ต่างๆ ก็มา ตอนนี้มีให้เลือกมากกว่า 1,000 แบบ แถมผ้าทอหน้ากว้าง 8 ซม. นี้สามารถดัดแปลงเป็นสินค้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ อีกมากมาย เช่น กระเป๋าใส่ดินสอ กระเป๋าใส่ของกระจุกกระจิก เข็มขัด ที่ใส่นามบัตร กล่องใส่แว่นตา ที่รองแก้ว ฯลฯ บอกเลยว่า น่ารักทั้งนั้นนนนน
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.city.kurashiki.okayama.jp/6219.htm
+ ที่ตั้ง : Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/WKN1Bj18dc91QGoT7
คาเฟ่ gangukan
หลังจากทำเข็มกลัดแฮนด์เมดเสร็จแล้ว แอดก็แอบเห็นว่า ร้าน F L A T ที่แอดมาทำเข็มกลัด มีคาเฟ่น่ารักๆอยู่ด้วย ร้านนี้ตกแต่งได้เกร๋ไกร๋มากๆ การตกแต่งร้านดูน่ารัก กระจกรอบด้าน มองไปรอบๆ ก็จะเห็นต้นไม้เขียวๆ น่านั่งชิลมากๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/WKN1Bj18dc91QGoT7
ร้าน Hamayoshi (อาหารทะเล)
เดินเล่นจนรู้สึกหิว มื้อกลางวันนี้แอดจะไปกินซาชิมิ และพวกอาหารทะเลที่ร้าน Hamayoshi ร้านอยู่แถวย่านประวัติศาสตร์ Kurashiki Bikan Historical Quarter เลย พักกินข้าวสักหน่อย เติมพลังก่อนไปลุยทำกิจกรรมต่อไป เนื้อปลานุ่มหวาน ซาชิมิก็ดี
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://mamakaritei.gorp.jp/
+ ที่ตั้ง : 3-12 Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/zpohQKx9KkjtVSbm6
กิจกรรมทำผ้ามัดย้อมสไตล์ญี่ปุ่น ที่ร้าน Tsumugu
กิจกรรมต่อไปที่แอดจะมาทำก็คือ ทำผ้ามัดย้อมสไตล์ญี่ปุ่น กิจกรรมนี้สนุกดี ใครอยากทำลายไหน ชอบลายไหนก็ทำได้เลย แถมทำเสร็จยังเอากลับไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย ที่แอดทำเป็นผ้าเช็ดหน้า หรือจะเป็นผ้าพันคอ หรือบางคนเอาไปใช้โพกหัวก็ได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทำได้แค่ผ้าพันคอเท่านั้น ยังสามารถทำเป็นเสื้อ หมวก ปลอกหมอน และอื่นๆได้อีกเยอะแยะเลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://tsumugu-indigo.com/
+ ที่ตั้ง : 10-3 Honmachi, Kurashiki, Okayama 710-0054 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/G5mX7ZExV25o19EA7
โคจิมะยีนส์สตรีท (Kojima Jeans Street)
ที่ต่อไปที่แอดจะพาไป สายคนรักกางเกงยีนส์ต้องกรี๊ดแน่นอน เพราะเริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟ ตามทางเดิน จนถึงถนนสายยีนส์นี้ ถูกตกแต่ง วาดรูป เพ้นท์ลวดลาย ออกมาเป็นรูปกางเกงยีนส์หมดเลย แถมยังมีร้านขายกางเกงยีนส์เยอะไปหมด เพราะที่นี่รวมเอาแบรนด์ของกางเกงยีนส์ที่ผลิตในเมืองโคจิมะมารวมกันไว้ที่ถนนเส้นเดียว เช่นแบรนด์ Iron Heart, Momotaro และ Pure Blue Japan นอกจากกางเกงแล้ว ยังมีพวงกุญแจ ตุ๊กตา ที่ทำมาจากยีนส์ด้วยนะ บอกเลยว่าสาวกกางเกงยีนส์มาที่นี่ ฟินแน่นอน นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟ คาเฟ่ ที่ตกแต่งไปด้วยกางเกงยีนส์ด้วย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://jeans-street.com/
+ ที่ตั้ง : 2 Kojimaajino, Kurashiki, Okayama 711-0913 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/SeyrbNVxiPXoZ4UK9
โรงแรมเซโตอุจิ โคจิมะ (Setouchi Kojima hotel)
เดินเล่นจนฟ้ามืดแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางเข้าโรงแรมกันแล้ว โรงแรมในคืนนี้ของแอดชื่อว่า เซโตอุจิ โคจิมะ บอกเลยว่าวิวจากหน้าต่างห้องสวยมาก ดีย์มาก วิวจากห้องแอดสามารถมองเห็น สะพานอะคะชิไคเคียว ได้เลยนะ คือตื่นเช้ามา เห็นวิวแบบนี้คือ ฟินลืม สบายตาจริงๆ ภายในห้องก็กว้างขวาง เตียงนุ่มหลับสบาย แถมมื้อเย็นของแอดที่โรงแรมก็อิ่มอร่อย จัดมาแบบเต็มโต๊ะไปเลย
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.setouchi-kojima-hotel.jp/
+ ที่ตั้ง : 303-53 Shimotsuifukiage, Kurashiki, Okayama 711-0926 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://g.page/Setouchi-Kojima-Hotel?share
วันที่ 6
อุทยานแห่งชาติ เซโตไนไค (Setonaikai National Park)
เช้าวันนี้แอดจะพาทุกคนไปชมวิวกันอีกสักรอบ ก่อนบินกลับไทย อุทยานแห่งชาติ เซโตไนไค Setonaikai National Park เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในญี่ปุ่น ทุกคนสามารถมองเห็น Great Seto Bridge ซึ่งได้รับการบักทึกใน “มิชลินกรีนไกด์ เจแปน” ว่าเป็นสะพานสองชั้นที่ยาวที่สุดในโลก และยังสามารถเห็นวิวเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 50 เกาะ กระจัดกระจายอยู่ใน Setonaikai และเกาะ Shikoku ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม วิวดี สวยมาก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.env.go.jp/en/nature/nps/park/setonaikai/index.html
+ ที่ตั้ง : Hakatacho Arouzu, Imabari, Ehime 794-2301 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/HFB9FbcyCBW84Q4J8
ร้าน Kani Dōraku
หลังจากชมวิว ถ่ายรูปกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาของมื้อกลางวันแล้ว มื้อกลางวันวันนี้ แอดจะพาทุกคนมากินปูกัน ร้านที่แอดมาชื่อว่า Kani Doraku หรือร้านเจ้าปูยักษ์ ที่มีหลายสาขามากๆในญี่ปุ่น และแน่นอนว่าในร้านมีเมนูหลักทำจากปูทั้งหมดเลยยย แต่ก็สามารถเลือกได้ว่าจะสั่งเป็นเซ็ทคอร์ส หรือ สั่งแยกเป็นจานๆก็ได้ ของแอดสั่งเป็นเซ็ทคอร์ส อร่อยทุกเมนูเลย แอดชอบมาก เนื้อปูหวานสุดๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://douraku.co.jp/west/okayama/
+ ที่ตั้ง : 4-1 Honmachi, Kita Ward, Okayama, 700-0901 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/p6kq2vizB2EjgTVq8
หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จแล้ว แอดก็นั่งรถไฟ Nozomi หมายเลข 26 จากโอคายาม่าไปที่สถานีชินโอซาก้า หลังจากนั้นนั่งรถไฟ Haruka หมายเลข 33 จากสถานีชินโอซาก้า ไปยังสนามบินคันไซ ก็ได้เวลาเช็คอินเดินทางกลับกรุงเทพ
โอคายาม่า ดินแดนแห่งแสงตะวัน ที่ยังเป็นบ้านเกิดของ โมโมทาโร่ด้วย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะ ที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่แอดอยากให้ทุกคนลองมาเห็นด้วยตัวเอง ว่าเมืองโอคายาม่า ก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน วิวธรรมชาติของที่นี่ ทำให้แอดต้องร้องว้าวในหลายๆครั้ง แอดยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ญี่ปุ่น ให้ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ด้วยเสน่ห์ของแต่ละเมืองที่สวยงามแตกต่างกัน ภูมิภาค สภาพอากาศที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่วางแพลนมาเที่ยวโอซาก้า เกียวโต ฮิโรชิมะ แอดแนะนำให้ใส่โอคายาม่าเพิ่มในลิสต์ไปด้วย รับรองไม่ผิดหวัง แถมการเดินทางก็ไม่ไกลกันมาก เดินทางสะดวก รับรองได้รูปสวยๆกลับไปเพิ่มอีกเพียบ
? สำหรับใครสนใจที่เที่ยวอื่นๆ ของเมืองโอคายาม่า สามารถติตตามได้ที่
+ แฟนเพจ โอคายาม่า : https://www.facebook.com/okayama.thai/
+ เว็บไซต์ : https://www.okayama-japan.jp/th/
รีวิวบนแฟนเพจ : โอคายาม่า ช่วงใบไม้เปลียนสี | Okayama, Japan
#Okayama #HimejiCastle #BitchuMatuyamaCastle #HomeStay #Japan #KojimaJeansStreet #Kobe #HelloKittyShowBox #ShizutaniSchool #สวนไมโกะ #สะพานที่ยาวที่สุดในโลก #โอคายาม่า #ที่เที่ยวโอคายาม่า #โฮมสเตย์ญี่ปุ่น #ปราสาทลอยฟ้า #ปราสาทบิจจูมัตสึยามะ #ทะเลหมอก #ทะเลหมอกญี่ปุ่น #รีวิวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #โคจิมะยีนส์สตรีท #เนื้อโกเบ #ปราสาทฮิเมจิ #โรงเรียนเก่าชิซึทานิ