ช่วงซากุระที่ผ่านมา ผมมีโอกาสโรดทริปที่ “ไซตามะ” ต้องบอกเลยว่าเป็นทริปญี่ปุ่นที่ประทับใจมาก ๆ เลยทีเดียว สีสันครบรสมาก เป็นการเดินทางที่น่าจดจำอีกทริปเลย
ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ
ไปเที่ยวย่านเมืองเก่า Kura no machi
ไปเที่ยวชมดอกซากุระ Shingashi Riverbank
ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum
และทริปไซตามะนี้ ผมได้เช่ารถที่ญี่ปุ่นขับเที่ยวเอง คือ อยากแวะพิกัดไหนก็แวะได้เลย ซึ่งทริปนี้ผมใช้บริการรถเช่าของ ToCoo! คือจะบอกว่าสะดวกมาก เราสามารถเช่าผ่านเว็บได้เลย
.ข้อดีที่ทำให้ผมเลือกเช่ารถของ ToCoo!
– เว็บ ToCoo! มีภาษาไทย ทำให้การเช่ารถสะดวกและง่ายมากขึ้น
– มีสต๊อกรถเช่าที่หลากหลายเลือกได้ตามความชอบเลย
– มี ETC (Easy Pass บ้านเรา) เป็น Option ให้เลือกด้วย
– มีให้เลือกรับรถได้ทั่ว แทบจะครอบคลุมทุกภูมิภาคในญี่ปุ่นเลย
. วิธีจองเข้าไปที่เว็บ https://www2.tocoo.jp/th/?asp_id=931&utm_source=931&utm_medium=affiliate
กรอกโค้ดนี้ TCPKT1 (รับส่วนลดอีก 1,000 เยน เมื่อจองรถ 10,000 เยนขึ้นไป)
โค้ดนี้ใช้จองก่อน 30 กันยายน 2025
แต่สามารถจองรถได้ถึงกุมภาพันธ์ 2026 รถที่ผมเลือกเป็น Nissan Note
ได้รถแล้วก็ไปลุยเที่ยวไซตามะกัน
1. บ้านของโทโทโร่ Totoro Fund – Kurosuke’s House
ใครที่ดูอนิเมชั่นเรื่อง My Neighbor Totoro ของค่าย Studio Ghibli แล้วอยากเจอเจ้าน้องโทโทโร่ตัวจริง ก็คือต้องมาที่นี่เลย
.
หลายคนจะเรียกที่นี่ว่า “บ้านโทโทโร่” แต่จริง ๆ แล้วที่นี่คือ “The Totoro no Furusato Foundation” เป็นมูลนิธิอนุรักษ์ป่าไม้อยู่ที่จังหวัดไซตามะ มีกิจกรรมต่าง ๆ และเรื่องราวเกี่ยวกับป่าให้ได้เรียนรู้
สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ฟรีตามเวลาที่แจ้ง
.
ส่วนจุดที่เป็นไฮไลท์ คือ เจ้าน้องโทโทโร่ขนาดเท่าตัวจริงที่นั่งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในบ้าน เป็นมุมถ่ายรูปที่น่ารักมาก ๆ ถ่ายรูปออกมาคิ้วท์สุด ๆ นอกจากนี้ ยังมีของที่ระลึกต่างๆ ให้อุดหนุนด้วย สำหรับรายได้ก็จะนำไปใช้ในการอนุรักษ์ป่า
.
ส่วนใครที่ยังอินกับโทโทโร่อยู่ ห่างจากบ้านโทโทโร่ประมาณ 2-3 กม. จะมีป่าของโทโทโร่ ที่ทางมูลนิธิคอยดูแล ปลูกป่า ใครที่เป็นสายเดินป่าจะชอบที่นี่มาก ๆ เลย
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.totoro.or.jp/totorofund/index.html
+ ที่ตั้ง : 3 Chome-1169-1 Mikajima, Tokorozawa, Saitama 359-1164, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/yXS3qYNYrFtx5S5C9
+ เวลาทำการ : เปิดวันอังคาร,พุธ และเสาร์ เวลา 10.00 – 15.00 น. (เข้าชมได้ฟรี)
+ การเดินทาง : ถ้าเช่ารถขับสามารถจอดรถได้ด้านหน้าเลย สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Ikebukuro นั่งรถไฟสาย Seibu Ikebukuro ไปลงที่สถานี Kotesashi จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย 9 ไปลงที่ป้าย Dainichido เดินตาม Gps ต่ออีกหน่อย
ไปถ่ายรูปกับน้อง Totoro มุมนี้
บรรยากาศภานในบ้าน
มีของที่ระลึกให้เราได้อุดหนุน แถมเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการอนุรักษ์ป่าอีกด้วย
มุมในบ้านก็น่ารัก โซนที่จะเล่าถึงกิจกกรรมที่ทำเกี่ยวกับการดูแลป่า
2. ป่าโตโตโร่ Totoro’s Forest
ที่นี่คือสถานที่ที่อยู่ในอนิเมะเรื่อง Tonari no Totoro ที่นี่เราจะได้มทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาในชนบทได้ตลอดทั้งสี่ฤดู มีสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากด้วย
.
นอกจากจะเป็นที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่ยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย ที่นี่มีนกมากกว่า 200 ชนิด พืชตระกูลเฟิร์นกว่า 1,400 ประเภท 19 สายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แมลงอีกกว่า 2,500 ชนิด และเต็มไปด้วยพืชต่าง ๆ มากมายที่ขึ้นอยู่โดยรอบ จนที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นขุมทรัพย์ของธรรมชาติ
.
ใครที่เป็นสายเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ แนะนำว่าต้องมาที่นี่เลย
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Japan, 〒359-1153 Saitama, Tokorozawa, Kamiyamaguchi, 雑魚入351
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/y5mmDdisNaFJU5Fs8
+ เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร พุธ และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.
+ การเดินทาง : ถ้าเช่ารถขับสามารถจอดรถได้ด้านหน้าเลย
จริงๆ จะมีเส้นทางให้เดินศึกษาธรรมชาติ แต่วันที่ไปฝนตกหนัก เลยไปได้แค่ทางขึ้นด้านหน้า
3. ย่านเมืองเก่า Kura no machi
เมืองเก่าคุระซุคุริโนะมาจินามิ (Kurazukuri no Machinami) หรือที่เรียกกันว่า คุระโนะมาจิ (Kura no Machi) เป็นย่านเมืองเก่าที่มีอาคารและร้านค้าสร้างขึ้นด้วยกำแพงดินแข็งแรง ตั้งเรียงรายมาตั้งแต่ยุคเอโดะ ราว 100 กว่าปีก่อน ซึ่งยุคนั้นคาวาโกเอะเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองมาก
.
คำว่า “คุระซุคุริ” มาจากชื่อเรียกของอาคารที่มีคุณสมบัติทนไฟ เนื่องมาจากเหตุเพลิงไหม้ในปี ค.ศ.1893 อาคารเสียหายไปมากกว่า 1,300 หลัง แต่อาคารส่วนหนึ่งรอดจากไฟไหม้มาได้ เพ่อค้าแม่ค้าก็เลยยึดเอาโครงสร้างอาคารที่ไม่ถูกไฟไหม้เป็นต้นแบบในการสร้างร้านค้า สถาปัตยกรรมของหลังคา ผนัง และโครงสร้างทนไฟแบบดั้งเดิมนั้นมีเสน่ห์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม
.
ปัจจุบันอาคารเก่าต่างปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แถมใครที่อยากกินของอร่อย ๆ ที่นี่ก็มีร้านของกินแบบท้องถิ่นให้เลือกเพียบเลย ถือว่าเป็นพิกัดที่เป็นไฮไลท์ของไซตามะเลย
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 1 Chome Motomachi, Kawagoe, Saitama 350-0062, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/LuX88UVFJKZe3Grj6
+ การเดินทาง : ถ้าขับรถไปเองก็สามารถจอดรถตรงจุดจอดแล้วเดินตาม Map ได้เลย แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานี Hon-Kawagoe เดิน 15 นาที หรือนั่งรถบัส 4 นาที
แผนที่เที่ยวในย่านนี้
มาที่นี่ต้องมาแวะร้านสตาร์บัคสาขานี้ คือสวยมาก
ตึกในย่านนี้คือสวยมาก เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้เลย
ใครที่มาเที่ยวเมืองเก่าอย่างคาวาโอเกะ ต้องไปเยือน Kurazukuri Street ไปถ่ายรูป Toki No Kane หรือ “หอระฆังไม้โบราณ” เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมือง หอระฆังไม้สามชั้น มีความสูง 16 เมตร อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี แวดล้อมไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ ที่ได้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในยุคโบราณ
.
ที่หอระฆังนี้จะดังขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งต่อวัน ก็คือเพื่อเป็นการบอกเวลานั่นเอง โดยจะมีเวลา 6.00, 12.00, 15.00 และ 18.00
4. ข้าวหน้าปลาไหลอายุกว่า 200 ปี Kawagoe Ichinoya
มาถึงคาวาโกเอะแล้วต้องเติมพลังด้วยเมนูที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ คือ ข้าวหน้าปลาไหล หรือ Unaju (うな重) ที่ร้าน Kawagoe Ichinoya ซึ่งสืบทอดวิธีการย่างปลาไหลด้วยเตาถ่านมาเกือบ 200 ปี นอกจากคุณภาพของเนื้อปลาไหลที่ดีแล้ว วิธีการย่างแบบนี้จะทำให้ได้เนื้อปลาไหลที่นุ่มและกลิ่นหอมน่าทานมาก แถมยังราดซอสสูตรพิเศษ เสริ์ฟคู่กับซุปที่ต้มจากตับของปลาไหลทำให้รสชาติหวานธรรมชาติ ทานคู่กันแล้วลงตัวมาก ๆ
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Japan, 〒350-0056 Saitama, Kawagoe, Matsuecho, 1 Chome−18−10
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/oLNgLb3jzQoHWdFr7
+ เวลาทำการ : เปิด 2 รอบ 11.00–15.00 น. และ 16.30–20.00 น.
+ การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ Hon-Kawagoe หรือจากย่านเมืองเก่าก็เดินได้อยู่ไม่ไกล เป็นข้าวหน้าปลาไหลที่น่ากินมากๆ หอมนุ่ม ละมุนลิ้น
บรรยากาศภายในร้านข้าวหน้าปลาไหล
5. จุดชมซากุระ Shingashi Riverbank
ซากุระริมแม่น้ำชิงาชิ ที่คาวาโกเอะ เป็นไฮไลท์ของผมในทริปนี้เลย ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่า เดินทางจากโตเกียวแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้ดูซากุระสวย ๆ แบบไม่ต้องเบียดคนแล้ว ซากุระที่นี่สวยมาก บานพร้อมกันทั้ง 2 ริมแม่น้ำเลย มีต้นซากุระกว่า 100 ต้น เรียงรายยาว 500 เมตรตลอดสองฝั่ง นอกจากจะเดินดูถ่ายรูปกับซากุระแล้ว ที่นี่ยังมีให้ล่องเรือชมดอกซากุระอีกด้วย
.
จริง ๆ ที่นี่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยไม่แพ้กันนะ ถือว่าเป็นอีกจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลย ครอยากได้รูปสวยๆ มาช่วงเช้าๆ หรือจะเป็นช่วงบ่ายรอจนถึงตอนเย็นจะมีการเปิดไฟ ยิ่งทำให้ซากุระสวยยิ่งขึ้น ใครพลาดซากุระปีนี้ไป ปีหน้าก็เก็บแพลนนี้เอาไว้ใช้ได้เลยนะ
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 108 Hikawacho, Kawagoe, Saitama 350-0851
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/eavFRqMYT4jeejfz8
+ ที่จอดรถ : สำหรับคนขับรถมา มีที่จอดรถติดกับจุดชมซากุระ 30 นาที 200 เยน
+ เดินทางด้วยรถไฟ : นั่งรถไฟ Tobu Tojo Line มาลงสถานี Hon-kawagoe ต่อด้วยรถบัสชมเมือง(บัตร koedo Bus Pass 570 เยน) นั่งรถมาลงที่หน้าศาลเจ้าศาลเจ้าฮิกาวะ ด้านหลังจะเป็นริมแม่น้ำชิงาชิ
ยิ่งเปิดไฟในช่วงกลางคืน ยิ่งทำให้ซากุระสวยขึ้นมากๆ
6. บ้านเกิดชินจัง Crayon Shin-chan Buriburi Cinema Studio
มาไซตามะทั้งที ถ้าไม่ได้มาเที่ยวบ้านชินจังก็เหมือนมาไม่ถึงสิ!
.
ผมตั้งใจว่ามาไซตามะครั้งนี้ต้องแวะไปที่ “เมืองคาสุคาเบะ” ซึ่งเป็นบ้านของชินจัง ผมจอดรถแล้วก็ใช้วิธีเดินเล่นไปหลาย ๆ จุดของเมือง … พอเดินไปถึงสถานีคาสุคาเบะ จะได้ยินเสียงเมโลดี้เพลงของชินจัง ทำให้รู้สึกว่าเราได้มาถึงบ้านของชินจังแล้วจริง ๆ เป็นอีกหนึ่งดีเทลเล็ก ๆ ที่เรารู้สึกว่าใจฟูสุด ๆ
.
ภายในเมืองก็จะมีกิจกรรมน่ารักกุ๊กกิ๊กให้เราทำ ถ้าใครมีเวลาที่นี่จะมีกิจกรรมคล้าย ๆ แรลลี่ให้เล่นด้วย โดยจุดแรกจะต้องไปที่ Puratto Kasukabe เพื่อเอาใบตราปั๊มแล้วค่อยไปเดินตามจุดเช็คอินต่าง ๆ
.
ต้องบอกว่าเมืองคาสุคาเบะมีความน่ารักมากมายซ่อนตัวอยู่ทุกมุมเมือง ตามร้านต่าง ๆ ก็จะมีของที่ระลึกของชินจังที่มีเฉพาะเมืองคาสุคาเบะเท่านั้น และยังมีรถบัส รถไฟ ที่ตกแต่งเป็นรูปของชินจังและเพื่อนๆ ด้วยนะ ใครเป็นแฟนชินจังต้องฟินสุด ๆ แน่ ๆ
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-10-1 Kasukabe, Saitama 344-0061, Japan
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/uebePKyPq59HkFCV9
+ ที่จอดรถ :
+ เดินทางด้วยรถไฟ : ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไม่ถึงชั่วโมง มาลงสถานี Kasukabe ได้เลย
มีมุมให้ถ่ายรูปกับครอบครัวชินจังด้วย
ตู้คีบช็อกโกบี
กาชาปองชินจังตอนเด็ก น่ารักกก ตัวนี้เรืองแสงด้วย
7. พิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum
ครที่เป็นแฟนรถไฟ หรือมีเด็ก ๆ ที่ชอบรถไฟ ต้องปักหมุดที่นี่เลย!
.
พิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum” คือสถานที่ที่รวบรวมเอาวิวัฒนาการรถไฟตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และทุกคนยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ขึ้นชินคันเซ็นรุ่นแรกของญี่ปุ่นด้วย
.
พิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะจัดแสดงเรื่องราววิวัฒนาการรถไฟ เรียงลำดับเป็นปีตั้งแต่ในอดีต แต่ละปีจะมีรถไฟจำลองให้เราได้ดู ส่วนชั้นล่างจะจัดแสดงรถไฟที่ถูกปลดประจำการจอดให้เราได้ชมกนอย่างใกล้ชิด
.
และไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ชินคันเซ็นรุ่นแรกของญี่ปุ่น … รถไฟแต่ละขบวนก็จะมีป้ายบอกเล่าประวัติเรื่องราวต่าง ๆ ที่พิเศษก็คือเราสามารถขึ้นไปนั่ง ถ่ายรูปได้หมด พอถึงช่วงเวลา 10:00 น.และ 15:00 น. ก็จะมีการแสดงโชว์หมุนตัว 360 องศา ของรถจักรไอน้ำคันใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของโถงอีกด้วย
.
ส่วนใครที่มีเด็ก ๆ มาด้วย ที่นี่จะมีกิจกรรมน่ารัก ๆ คือการขับรถไฟจิ๋ววิ่งตามรางรถไฟในพื้นที่ที่จำลองไว้ ถ้าใครอยากขึ้นแนะนำว่าให้จองรอบจากแอป The Railway Museum ก่อน เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รถไฟมีให้เลือกหลายแบบแต่ละแบบน่ารักมาก
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/OmiyaBonsaiArtMuseum/
+ ที่ตั้ง : 〒330-0852 Saitama, Omiya Ward, Onaricho, 3 Chome−47
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/jToQwsb3V7MeeLd19
+ เวลาทำการ : 10.00-17.00 น. (ปิดวันอังคาร)
+ ค่าเข้าชม : 1,600 เยน และเด็ก 300 เยน กดจากตู้หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย
+ การเดินทาง : นั่งรถไฟประมาณ 30 นาที จากสถานี Tokyo ไปลงสถานี Omiya แล้วนั่งรถไฟ New Shuttle ไปลงที่สถานี Tetsudo Hakubutsukan (Onari) ออกจากสถานีก็ถึงพิพิธภัณฑ์รถไฟเลย ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ก็แวะมาถ่ายรูปกับรถไฟซะหน่อย
มาถึงก็กดตั๋วที่หน้าพิพิธภัณฑ์ได้เลย
ด้านในมีการจัดแสดงโชว์รถไฟในแต่ละเวอร์ชั่น มีให้ดูเยอะมากๆ
มาที่นี่ เราจะได้เจอกับชินคันเซ็นคันแรกของญี่ปุ่น ได้ลองขึ้นไปนั่งสัมผัสบรรยากาศอีกด้วย
ด้านในที่นั่งของชินคันเซ็นคันแรกของญี่ปุ่น
และยังมีกิจกรรมน่ารักๆ อย่างให้ทดลองขับรถไฟจิ๋วอีกด้วย น่ารักมาก
8. พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ The Omiya Bonsai Art Museum
อีกพิกัดที่ผมปักหมุดว่าต้องมาให้ได้ “The Omiya Bonsai Art Museum หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ” ส่วนตัวผมชอบต้นไม้อยู่แล้วมาที่นี่ก็คือฟินมาก ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบอนไซ ซึ่งที่นี่มีบอนไซมากกว่า 120 ต้น อายุหลักร้อยปีไปจนถึงพันปีเลย หาชมได้ยากมาก ๆ
.
ความพิเศษของที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะคือพิพิธภัณฑ์สาธารณะแห่งแรกของโลกที่จัดแสดงบอนไซแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บอกเลยว่าเดินเพลินมาก
.
ที่นี่จะมีค่าเข้าชม 310 เยน จะมีแบ่งให้ชม 2 โซน คือ โซนด้านในห้องแอร์ จะเหล่าเรื่องราวความเป็นมาของบอนไซว่ามีจุดเริ่มต้นยังไง แต่น่าเสียดายที่เป็นโซนห้ามถ่ายรูป ส่วนโซนที่ถ่ายรูปได้จะเป็นด้านนอกซึ่งจัดแสดงบอนไซหลายรูปแบบ แต่ละต้นคือสวยมาก เรายังได้เห็นการทำบอนไซดีไซน์แปลก ๆ รวมไปถึงต้นที่มีอายุเป็นร้อย ๆ ปี
.
บริเวณพิพิธภัณฑ์ก็จะมีร้านขายบอนไซ ให้ได้ซื้อมาเลี้ยง มาทำต่อกันด้วย มีให้เลือกหลายแบบเลย ตั้งแต่ต้นเล็กไปจนถึงต้นใหญ่ อย่างที่บอกว่าเป็นหมู่บ้านบอนไซ ก็จะมีให้เลือกหลายร้านเลย
.#รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/OmiyaBonsaiArtMuseum/
+ ที่ตั้ง : Omiya Bonsai Art Museum 〒331-0804 Saitama, Kita Ward, Torocho, 2 Chome−24−3
+ พิกัด Gps : https://maps.app.goo.gl/qB7xQp7bPYHyKCV76
+ เวลาทำการ : 9:00–16:30 น. (ปิดวันพฤหัสบดี)
+ ค่าเข้าชม : คนละ 310 เยน
+ การเดินทาง : นั่งรถไฟสายไซเคียวหรือโชนันชินจูกุ จากสถานีชินจูกุ เดินทางมาที่สถานีโอมิยะ เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโทบุเออร์เบินพาร์ค และนั่งรถไฟไปสองสถานี มาลงที่สถานีโอมิยะโคเอ็ง จากนั้นเดินประมาณ 10 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ หรือถ้าขับรถมาที่พิพิธภัณฑ์ ก็จะมีลานจอดรถให้จอดฟรีเลย
บรรยากาศโซนจัดแสดงด้านในพิพิธภัณฑ์ แค่เห็นไม่กี่ต้นก็ว้าวแล้ว
คือแต่ละต้นอายุหลายร้อยปีมากๆ
ทริปไซตามะนี้เราพักกันที่ The Celecton Kitamotoekimae ซึ่งอยู่ในย่าย Kitamoto ผมกดจองมาได้ในราคาคืนละ 2,500 กว่าบาท พักได้ 2 คน ซึ่งผมพักที่นี่ 2 คืน ก็ถือว่าราคาโอเคเลยนะในช่วงซากุระแบบนี้
.
สำหรับโลเคชันของโรงแรมก็คือสะดวกมากเพราะว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Kitamoto มาก เดินออกจากสถานีรถไฟก็คือเข้าโรงแรมได้เลย ขาดเหลืออะไรก็หาซื้อได้ง่ายเพราะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ ส่วนถ้าใครขับรถมาเองแบบผม ที่นี่ก็จะมีลานจอดรถให้บริการ มีหลายราคาเลย ตั้งแต่ 700-1,000 เยน/24 ชั่วโมง
.
ส่วนห้องที่ผมเลือกพักก็จะเป็นห้องแบบ 2 เตียงแยก เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม มีชุดชากาแฟเตรียมไว้ให้ด้วย ขนาดของห้องถึงจะไม่ใหญ่แต่ก็มีพื้นที่พอให้กางกระเป๋าเดินทางจัดของได้แบบสบาย ๆ
.
ถือว่าเป็นอีกโรงแรมที่สะดวกและราคาสบายกระเป๋าด้วย ใครมาไซตามะก็ลองแวะมาพักที่นี่ดูนะ
#ไซตามะ #บ้านของโทโทโร่ #บ้านเกิดชินจัง #พิพิธภัณฑ์รถไฟ #พิพิธภัณฑ์บอนไซ #บอนไซ #เที่ยวญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น #ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #รถเช่าญี่ปุ่น #Tocoo #VisitJapan #TotoroFundKurosukeHouse #Saitama #ShingashiRiverbank #CrayonShinchan #Kawagoe #TheRailwayMuseum #BonsaiArtMu