เที่ยวจีน Kunming – Yading 9 วัน 8 คืน กิน เที่ยว งบไม่เกิน 15,000 บาท ต่อคน รวมค่ากิน ค่ารถค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากระเช้า และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ แล้ว * ไม่รวมแต่ตั๋วเครื่องบินเท่านั้น แอดเชื่อว่าคงมีหลากหลายคำตอบ เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ และแน่นอนว่าที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป ก็เยอะมากไม่แพ้กัน แต่ถ้าถามแอด แอดจะนึกถึงความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้าง ความเก่าแก่ และความอลังการของธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวในจีนเยอะมาก ที่สวยและยิ่งใหญ่จนทำให้แอดอ้าปากค้างในหลายๆครั้ง อย่างเช่นอุทยานย่าติง หรือที่ได้สมญานามว่า แชงกรีล่าแห่งสุดท้ายของเมืองจีนแอดพูดได้แค่ว่า โอ้วโห้ววววว สวยมาก สวยมากจริงๆ และช่วงที่แอดไปเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีพอดียิ่งสวยมากขึ้นไปอีก ใบไม้สีเหลือง ภูเขาหิมะสีขาว ทะเลสาบสีฟ้าใส ท้องฟ้าสีฟ้าปลอดโปร่ง ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน นอกจากอุทยานย่าติงแล้ว ทริปนี้แอดยังไปสถานที่ว้าวๆ อีกหลายที่ ถ้าอยากรู้ว่าไปไหนบ้าง และแต่ละที่สวยงามจริงอย่างที่แอดว่าไว้หรือไม่ ตามแอดไปเที่ยวกันได้เลย แต่บอกก่อนเลยว่าไปเที่ยวจีนไม่ยากอย่างที่คิด และทุกคนจะมองประเทศจีนในมุมที่ต่างจากเดิม
แต่ก่อนจะไปเที่ยว เราต้องจองตั๋วเครื่องบินกันก่อน ทริปนี้แอดบินไปลงที่เมืองคุนหมิง โดยสายการบิน AirAsia
สายการบิน AirAsia มีเส้นทางบินไปลงที่ประเทศจีนหลายเมืองมากๆ ใครสนใจเมืองไหนก็จองตั๋วกันได้เลย แต่ถ้าอยากตามไปเที่ยวแบบแอด ก็ตามมาอ่านกันก่อนได้เลยยยย ป่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปเที่ยวกัน
วันแรก
อาหารบนเครื่องของ AirAsia มีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งข้าว ทั้งเบอร์เกอร์ หรือแม้แต่ ขนมจากร้านดัง After You ก็มีให้เลือก ใครชอบแบบไหนเลือกสั่งได้เลย (จองล่วงหน้าถูกกว่าซื้อบนเครื่องนะครับ)
กินข้าวกินขนมเพลินๆ แป๊บเดียวถึงคุนหมิงแล้วครับ
จากสนามบิน ให้เดินไปตามทางออก 3 ซื้อตั๋วที่ Airport Express bus Shuttle Ticket ขึ้นรถบัสหมายเลข 2 (ราคาคนละ 25 หยวน)
รถจะไปสุดสายที่โรงแรม หันหน้าเข้าโรงแรมเดินไปทางด้านซ้ายประมาณ 5 นาทีก็จะถึงสถานีรถไฟ
แอดจองตั๋วรถไฟออนไลน์มาจากที่ไทยเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินเข้าไปรับตั๋วได้เลย (ค่ารถไฟคนละ 173.80 หยวน)
หลังจากนั้นแอดก็ฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีรถไฟ (ค่าฝากกระเป๋าใบละ 8 หยวน) ก่อน เพราะว่ากว่าจะถึงเวลารถไฟออก เรายังพอมีเวลาเที่ยวอีกนิดนึง แอดเลยจะพาทุกคนไปดูน้ำตกคุนหมิงกัน
น้ำตกคุนหมิง Kunming Waterfall Park
สวนสาธารณะใจกลางเมืองคุนหมิง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตของชาวเมืองคุนหมิงเลยทีเดียว Kunming Waterfall Park หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Niulan River Waterfall Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 3 ปีด้วยกัน ภายในประกอบไปด้วยน้ำตกและทะเลสาบอีก 2 แห่ง ที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ ไฮไลท์ของสวนอย่างน้ำตกใหญ่ยักษ์นั้น กว้างกว่า 400 เมตรและมีความสูงถึง 12.5 เมตร เบื้องล่างน้ำตกเป็นทะเลสาบที่มีทางเดินพาดอยู่ สามารถเดินชมวิวสวยๆ ได้ ถ้าเดินขึ้นไปบริเวณ Visitor’center จะสามารถชมวิวทะสาบกว้างเหนือน้ำตกได้อีกด้วย นอกจากนี้รอบๆ ทะเลสาบยังมีทางเดินให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ จากสถานีรถไฟคุนหมิง แอดนั่งแท็กซี่จากหน้าสถานีมาเลย ราคาเริ่มต้นที่ 8 หยวน (ค่ารถ 42.2+ชาร์จ 2 หยวน 1 คันนั่งได้ 3 คน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Beijing Rd, Panlong, Kunming, Yunnan, จีน
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/rCEZ8LzR4wGqmeYp9
แล้วก้ไปเดินเที่ยวในตัวเมืองคุนหมิงกันต่อ
หลังจากเดินเล่น และถ่ายรูปอย่างเต็มอิ่มแล้ว แอดก็นั่งรถกลับมาที่สถานีรถไฟคุนหมิง
คืนนี้เราจะนอนกันบนรถไฟเพื่อเดินทางไปลี่เจียง ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง (22.00 – 06.32 น.)
เตียงนอนของเราบนรถไฟ เป็นเตียงนอน 3 ชั้น พอดีสำหรับ 6 คน เตียงนอนบนรถไฟของที่นี่ มีหลายแบบหลายราคา เลือกตามจำนวนคน ตามความสะดวกได้เลย
รถไฟจอดที่สถานีสุดท้ายที่ lijiang
วันที่ 2
หลังจากที่แอดนอนบนรถไฟมาอย่างยาวนาน เราก็มาถึงสถานีลี่เจียงกันแล้ว หลังจากถึงสถานี เราก็เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะวันนี้แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวอย่างเต็มที่ และเต็มวันเลย หลังจากจัดการทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยหมดแล้ว แอดก็เหมารถแท็กซี่จากสถานีลี่เจียง เพื่อไปภูเขาหิมะมังกรหยกกันเลย (ค่าเหมารถ 400 หยวน หาร 6 คน)
ภูเขาหิมะมังกรหยก
ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นยอดเขาสูงมีความยาวราว 35 กิโลเมตรและกว้างราว 20 กิโลเมตร ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 35 กิโลเมตร ของเมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang) แห่งมณฑลหยุนหนาน (ยูนนาน-Yunnan) ยอดเขาที่สูงที่สุดมีชื่อว่า ช่านจึโต่ว จุดท่องเที่ยวบนภูเขาหิมะมังกรหยก นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าขึ้นไปได้ ถึงที่ความสูง 4506 เมตร และ สามารถเดินชมธรรมชาติและหิมะบนภูเขาได้ รวมถึงสามารถเดินชม ธารน้ำแข็งโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่โดยการเดินไปตามทางเดิน ช่วงที่แอดมายังพอมีหิมะหลงเหลืออยู่บ้าง และที่สำคัญแอดได้เจอหิมะตกที่จีนครั้งแรกด้วย อยู่ๆ หิมะก็ตกลงมา อาจเป็นเพราะว่าใกล้เข้าฤดูหนาวแบบเต็มตัวแล้วก็ได้ ขนาดหิมะยังไม่ได้เยอะ แอดยังรู้สึกได้ว่าที่นี่สวยมากๆ ถ้ามาช่วงหน้าหนาว ได้เห็นความขาวโพลนของหิมะคงฟินมากแน่ๆ แต่เนื่องจากที่นี่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลสูงมาก เลยทำให้อากาศค่อนข้างน้อย แอดเลยซื้อออกซิเจนกระป๋องตามร้านขายข้างทางระหว่างไปภูเขาหิมะมังกรหยกติดตัวมาด้วยเลย (กระป๋องใหญ่ กระป๋องละ 60 หยวน) แอดแนะนำให้ทุกคนซื้อมาก่อนนะครับ แอดไปเจอมาว่าที่เมืองเก่าลี่เจียงขายกระป๋องใหญ่ กระป๋องละ 15 – 25 หยวนเท่านั้นเอง ยิ่งสูงยิ่งแพงจริงๆ ส่วนค่าเข้าผ่านด่านแรกของภูเขาหิมะมังกรหยก คนละ 100 หยวน ส่วนค่ากระเช้า คนละ 140 หยวน (กระเช้านั่งได้ 8 คน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ijrbgZft3CwYJAxNA
ออกซิเจนกระป๋อง ตัวช่วนที่ดีที่สุดของบนนี้เลย ข้างบนอากาศน้อยมาก
แล้วอยู่ๆ หิมะก็ตกลงมา ฟ้าปิด
นั่งกระเช้ากลับ เพื่อไปยังจุดต่อไป
จุดต่อแถวขึ้นรถบัส ไปยังจุดต่อไป
Blue Moon Valley หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (- ไป๋สุ่ยเหอ)
หลังจากนั้นแอดนั่งรถบัสจากแถวกระเช้า แล้วไปต่อรถเล็ก (ค่ารถไปน้ำตก คนละ 50 หยวน) เพื่อเข้าไปที่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่เมืองลี่เจียงเมืองมรดกโลก
หุบเขาแห่งนี้มีแม่น้ำสีน้ำเงินไหลผ่านหุบเขาอันเขียวชอุ่มของภูเขาหิมะมังกรหยก ว่ากันว่าเมื่อมองจากระยะไกลหุบเขาจะมีลักษณะคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวสีน้ำเงินที่ฝังอยู่บนเชิงเขาจึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน แม้จะได้ชื่อว่าหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินแต่แม่น้ำของที่นี่นั้นมีสีเขียวครามผสมสีฟ้า และไม่ได้มีเพียงสีเดียวเพราะบางส่วนของแม่น้ำนั้นจะมีสีขาว ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีฝนตกจะทำให้โคลนขาวและเศษหินปูนไหลมาผสมกับแม่น้ำจนเกิดเป็นสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนม จนมีชื่อว่า Baishui River ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณส่วนต่อระหว่างแม่น้ำสีน้ำเงินที่มีชั้นหินเหมือนน้ำตกเรียงซ้อนกันคั่นอยู่ตรงกลาง แอดบอกเลยว่าสวยมากกกกกก สีของน้ำคือสวย ใส สะอาด ภาพเบื้องหลังคือความยิ่งใหญ่ของภูเขาหิมะมังกรหยก รวมๆแล้วเลยทำให้ที่นี่ยิ่งดูสวยอลังการมากขึ้นไปอีก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/CnXuvWVfV2nw4S5v6
Lijiang Old Town เมืองเก่าลี่เจียง
หลังจากชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติอยู่นานพอสมควร แอดก็นั่งรถต่อไปที่ เมืองเก่าลี่เจียง เมืองเก่าลี่เจียง มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า เมืองเก่าต้าเหยียน (Dayan Old Town) ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของลี่เจียงเลยก็ว่าได้ เพียงก้าวเท้าผ่านประตูทางเข้าเมืองเก่าต้าเหยียนก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง คล้ายย้อนเวลากลับไปในอดีต เพราะที่นี่ยังคงรักษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างเข้มแข็งเคียงคู่กับการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนรูปทรงโบราณ จนทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกดกับภาพความงดงามของมรดกโลกล้ำค่าแห่งนี้ นอกจากอาคารบ้านเรือนที่สวย เก่าแก่จนแอดหยุดถ่ายรูปไม่ได้เลย ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกละลานตา สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/RN91jpvABLRtkDUx7
อาหารเย็นวันนี้จัดหนักมาก ชาบูหม่าล่า หม่าล่าเข้มขนมาก ลิ้นชาหน้าชาเลยทีเดียว ร้านนี้อยู่ในเมืองเก่าลี่เจียงเลย ร้านน่ารัก พอรู้ว่าเป็นคนไทย เปิดเพลงไทยให้ฟังด้วยนะ ชาบูมีให้เลือกหลากหลาย หมู เนื้อ ไก่ ผัก ขายเป็นจาน แล้วแต่เราเลือกตามราคาที่แจ้งไว้ได้เลย
Lijiang 26th Courtyard Hotel
หลังจากเดินจนมืดค่ำ แอดก็เดินทางกลับเข้าที่พัก ที่พักของแอดคืนนี้ชื่อว่า Lijiang 26th Courtyard Hotel บอกเลยว่าห้องเกร๋มาก ภายในห้องตกแต่งได้สวยมาก ดูดี ดูหรูสุดๆ (ค่าที่พัก 419 หยวน 3 ห้องหาร 6 คน ตกคนละ 69.83 หยวน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : No.26 Wenhua Alley, Yishang Street, Gucheng District, 674100 ลี่เจียง, จีน
วันที่ 3
เช้าวันนี้แอดติดต่อเหมารถพร้อมคนขับรถ 6 วัน จากที่พักเลย (5600 หยวน หาร 6 คน ตกคนละประมาณ 933.33 หยวน (รวมทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีก ทางด่วน ที่จอดรถ ค่าน้ำมัน ค่าอาหารและที่พักคนขับ) วันนี้แอดจะเดินทางจากลี่เจียงไปแชงกรีล่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชั่วโมง ที่แรกที่แอดจะพาทุกคนไปเที่ยวก็คือ Shika snow mountain
Shika snow mountain ภูเขาหิมะสือข่า
แอดนั่งกระเช้าลอยฟ้า(ค่าเคเบิ้ลคาร์ คนละ 145 หยวน) ขึ้นไปยังภูเขาหิมะสือข่า (Shika Snow Mountain) อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญสำหรับชาวทิเบต ที่นี่ทุกคนสามารถมาชมความงดงามของภูเขาได้ตลอดทั้งปี ช่วงที่แอดมาเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้เห็นภูมิประเทศที่ย้อมไปด้วยสีแดง สีเหลืองของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ทิวทัศน์สวยงามที่ตัดกันกับบ้านทิเบตแบบดั้งเดิม บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาสวยมาก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/z9FRRSZHrmWE33YK6
วัดกุยชาน (Guishan Temple) / วัดต้าฝอ
หลังจากชมความสวยงามของธรรมชาติกันมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แอดจะพาทุกคนไปชมความงามยามค่ำคืนกันที่วัดบ้างดีกว่า วัดที่แอดพูดถึงชื่อว่า วัดกุยชาน (Guishan Temple) / วัดต้าฝอ วัดจะอยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นไป ในยามค่ำคืนวัดจะมีการเปิดไฟ มีแสงสีโดดเด่น และมีหลากหลายสี สวยมาก สวยมากมากกกก ระหว่างเดินขึ้นบันไดเราจะเห็นต้นไม้ประดับแสงสีสวยงาม ด้านบนของวัดกุยชานก็มีหออาคารที่พระประธานองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่และมีกงล้อมนต์สีทอง สูง 23 เมตร ผู้คนนิยมไปหมุนวน เพื่อให้บทสวดนั้นกังวานไปถึงสรวงสวรรค์
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Wg4ZQSwrzH7nn9Le8
การแสดงแสงสีตอนกลางคืน วัดกุยชาน (Guishan Temple) / วัดต้าฝอ
Shangri-la Aged-tree Hotel
ที่พักของแอดคืนนี้ชื่อว่า Shangri-la Aged-tree Hotel ภายในห้องก็มีกลิ่นอายความเก่าแก่อยู่บ้าง แต่นอนสบายนะทุกคน ห้องราคาไม่แพงด้วย (ค่าที่พัก 3 ห้อง คนละ 66.11 หยวน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/iXXGiFzeQN8g4TBD9
วันที่ 4
ระหว่างทางที่แอดเดินทางไป Riwa town (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง) แอดอยากบอกว่าพีคมาก ความสวยงามของธรรมชาติข้างทางอลังการมาก ระหว่างทางแอดจอดรถแวะถ่ายรูปเยอะสุดๆ เลยใช้เวลาเดินทางนานกว่าเดิมเลย แต่จะทำยังไงได้ไม่ถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ แอดได้เห็นลำธารที่สวยมากๆ ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั้งเขา ความเขียวของทะเลสาบ ความใสของลำธาร ความอลังการของภูเขา คือสวยมาก พูดคำอื่นไม่ได้อีกแล้ว นอกจากคำว่าสวยอลังการมากจริงๆ นั่งรถอย่างยาวนาน แอดก็มาถึง Riwa Town กันแล้ว เราเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมกันก่อนเลย
วิวระหว่างทางอลังการสุดๆ
Riwa Town Luoke
ที่พักของแอดในคืนนี้ชื่อว่า Riwa Town Luoke บอกเลยว่าที่พักน่ารักมาก ตกแต่งน่ารัก เหมาะกับน้องๆเด็กๆเหมือนกันนะครับ (ค่าที่พัก 2 ห้อง คนละ 110.80 หยวน) เนื่องจากแอดนั่งรถมานานมาก วันนี้เราเลยเลือกเดินเล่นรอบๆเมือง และเข้านอนกันอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมตัวลุยต่อในเช้าวันต่อไป
วันที่ 5
จุดซื้อตั๋วเข้าอุทยานย่าติง
จุดขึ้นรถบัส เช้าวันนี้แอดนั่งรถบัสเพื่อเดินทางไปย่าติง (ค่ารถบัสเดินทางไปย่าติง คนละ 266 หยวน)
เช้าวันนี้แอดนั่งรถบัสเพื่อเดินทางไปย่าติง (ค่ารถบัสเดินทางไปย่าติง คนละ 266 หยวน) แอดขึ้นรถบัสแล้วลงที่ Bus stop No.3 พอถึงแล้ว แอดเข้าไปเช็คอินและฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน โรงแรมในคืนนี้ของแอดชื่อว่า Fanyinhai Boutique Inn
หลังจากนั้นแอดก็ขึ้นรถบัสจากหน้าที่พักไปที่จุดแรก
ถึงแล้วแอดก็เดินไปขึ้น battery car (รถแบตเตอรี่) (ค่ารถไปกลับ คนละ 80 หยวน *จุดขายตั๋วอยู่ตรงข้ามวัด Chonggu Temple)
เพื่อไปยัง Milk Lake ทะเลสาบน้ำนมกัน
แค่นั่งพักเหนื่อย ก็เป็นวิวแบบนี้
ปล.จริงๆ เหมือนตรงนี้จะเป็นคอกม้าของชาวบ้านเลย อี้น้องเต็มไปหมด
มุมไฮไลท์ที่ทุกคนต้องหยุดถ่าย ด้านบนนั้น มีทะเลสาบ 5 สีอยู่ ทางขึ้นไปยังทะเลสาบ 5 สี บอกเลยว่าชันและโหดมาก แต่พอถึงแล้วหายเหนื่อยเลย
อาหารที่เตรียมไปกินของวันนี้
หุงกันแบบนี้เลย แค่ 10 นาทีกินได้
Milk Lake ทะเลสาบน้ำนม
ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) หรือที่เรียกกันในชื่อภาษาจีนว่า หนิวหน่ายไฮ่ ที่มีหน้าตาโดดเด่นเป็นแอ่งน้ำสีฟ้า มีฉากเบื้องหลังเป็นภูเขาหิมะสูง และยังเป็นหนึ่งในสามทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของย่าติง การเดินมาถึงทะเลสาบน้ำนมไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ใช้ทั้งแรงกายและแรงใจแบบสุดๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้เห็นทำให้หายเหนื่อย เพราะสวยงามอลังการมากจริงๆ ที่นี่แอดได้เห็นภูเขาหิมะที่ชัดเจนแจ่มแจ้งมากๆ และได้เห็นแบบใกล้ชิด อากาศเบาบางแต่ก็ทำให้เราสดชื่นได้แบบไม่รู้ตัว น้ำของทะเลสาบน้ำนมตัดกับสีของภูเขาหิมะได้ภาพที่สวยงามและลงตัวสุดๆ แอดถ่ายรูปไปเยอะมากจริงๆ เพราะมองไปตรงไหนก็อยากเก็บภาพมาให้ได้ทุกช็อต ด้วยระยะทางที่เดินมาไกล แอดเลยเตรียมมื้อกลางวันขึ้นมากินเอง เพราะบนนี้ไม่ได้มีที่ขายอาหารนะครับ ภาพตรงหน้าที่เห็นทำให้ข้าวกล่องธรรมดาๆ กลายเป็นอาหารหรูบนโรงแรมได้ทันทีเลย ฟินมากกกกก
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Vumo8itwMf9dEQoa8
เดินต่อไปยังทะเลสาบ 5 สี หันหลังไปก็จะเห็นวิววนี้ของทะเลสาบน้ำนม
ทางขึ้นไปทะเลสาบ 5 สี จากทะเลสาบน้ำนม
5 Colour Lake ทะเลสาบ 5 สี
พอเดินชมวิวที่ทะเลสาบน้ำนมเสร็จ แอดก็เดินต่อไปยังทะเลสาบห้าสี การเดินจากทะเลสาบน้ำนมไปทะเลสาบห้าสีทางจะสบายกว่าเลือกเดินจากทางแยกไปทะเลสาบห้าสีก่อน ถึงแม้ว่าทางจะเป็นทางขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ Slope มันชันน้อยกว่า ทะเลสาบห้าสีให้อารมณ์แตกต่างจากทะเลสาบน้ำนม
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Vumo8itwMf9dEQoa8
วิวด้านบนตรงทะเลสาบ 5 สี โคตรอลังการ
Yading Fanyinhai Boutique Inn
หลังจากนั้นแอดก็กลับที่พัก ที่ที่เราฝากกระเป๋าไว้ตอนเช้า Yading Fanyinhai Boutique Inn ที่พักภายในห้องตกแต่งได้น่ารัก และสะดวกสบายสุดๆ (ค่าที่พัก 3 ห้อง คนละ 237.79 หยวน)
วันที่ 6
แอดเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม แล้วขึ้นรถบัสจากหน้าที่พักไปที่จุดแรก หลังจากนั้นแอดฝากกระเป๋าที่จุดลงรถบัส (ใบละ 35 หยวน) แล้วเดินต่อไปยัง วัด Chonggu Temple
วัด Chonggu Temple
วัดทิเบตที่ตั้งอยู่ภายใน อุทยานย่าติง ที่เชิงเขา Xian nai ri เพื่อบูชาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามแห่ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเดินทางชมความงามของอุทยานย่าติง วัดนี้สวยมากกกกกกกก เพราะวิวข้างหลังวัดเราจะได้เห็นภูเขาหิมะที่เด่นมากๆ ยิ่งใหญ่มาก อลังการมาก และภายในวัดก็ให้ฟิลเหมือนเราอยู่ทิเบตจริงๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Vumo8itwMf9dEQoa8
ทะเลสาบไข่มุก
แอดจะพาทุกคนไปชมความอลังการของธรรมชาติกันแบบต่อเนื่อง ที่ต่อไปที่แอดจะพาไปคือ ทะเลสาบไข่มุก ทะเลสาบไข่มุก (Pearl Lake) เป็นทะเลสาบที่อยู่ในหุบเขาที่ความสูง 4,000 เมตรเป็นทะเลสาบเล็กๆสีเขียว ใสเหมือนมรกต ถูกเรียกอีกนามว่า เป็นทะเลสาบคู่ภูเขาหิมะศักดิ์สิทธิ์ เพราะโอบล้อมไปด้วยยอดเขาเซียนหน่ายรื่อ ซึ่งยอดเขาแห่งนี้สูงถึงกว่า 5,000 เมตร นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอนุรักษ์ย่าติง สามารถเดินจากวัด Chonggu Temple ไปได้เลย ประมาณ 45นาทีก็ถึง ที่นี่เราจะได้เห็นความสวยงามทั้งทะเลสาบสีฟ้าอมเขียว น้ำตก ความขาวของภูเขาหิมะ และสีของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สวยอีกละ ทุกที่สวยหมดเลย ธรรมชาติสร้างความสวยงามได้อลังการมากจริงๆ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Vumo8itwMf9dEQoa8
Harvest Inn
หลังจากตะลุยเที่ยวมาทั้งวัน แอดก็กลับไปที่ที่พักเลย ที่พักของแอดคืนนี้ชื่อว่า Harvest Inn แต่โรงแรมนี้แอดไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะว่าช่วงที่แอดไปน้ำไม่ไหล ในห้องมีฝุ่นเยอะ พนักงานไม่ค่อยบริการ ให้อารมณ์ที่พักแบบโฮลเทล อาจจะเพราะราคาถูกมาก (ค่าที่พัก 3 ห้อง คนละ 76.50 หยวน) เลยไม่ค่อยสนใจ แอดแนะนำให้ทุกคนหาที่พักที่อื่นนะครับ
วันที่ 7
เช้าวันนี้แอดจะเดินทางกลับไปที่แชงกรีล่า ระหว่างทางแอดได้แวะถ่ายรูปกับจามรีมาด้วย น้องๆดูน่ารักและดูสงบนิ่งสุดๆ แอดก็แอบกลัวและกังวลหน่อยๆนะ กลัวน้องแตกตื่น และด้วยสีของหญ้าและสีของขนจามรี มันทำให้จามรีดูเด่นขึ้นมากว่าเดิมอีก น่ารักกกกกก
Asha’s Inn
จากที่พักของเมื่อคืน มาถึงที่พักของคืนนี้ใช้เวลานานพอสมควร วันนี้แอดเลยไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนั่งรถ และนั่งรถ ที่พักของแอดในคืนนี้ชื่อว่า Asha’s Inn ที่พักน่ารักมาก และสะอาด ห้องน้ำดี แต่ไม่มีประตู มีแค่ผ้าเป็นม่านกั้น รู้สึกเปิดเผยมากๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ นอนหลับสบายสุดๆ (ค่าที่พัก 2 ห้อง คนละ 91.26 หยวน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/S9iYhvpDe4pnhfhb8
เดินเล่นย่าน หาของกิน วัดกุยชาน (Guishan Temple) / วัดต้าฝอ
หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว แอดก็ออกมาเดินเล่นและหาของกินที่ย่านวัดกุยชาน (Guishan Temple) / วัดต้าฝอ ย่านนี้มีร้านขายของกินและร้านอาหารอยู่พอสมควร และรวมถึงมีร้านขายของฝากและที่ระลึกด้วยนะครับ
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Wg4ZQSwrzH7nn9Le8
นมน้องจามรี ไม่ใช่น้ำเต้าหู้นะครับ
วันที่ 8
วันนี้คือวันสุดท้ายของแอดที่จีนแล้ว เพราะคืนนี้เราจะเดินทางกลับประเทศไทยกัน ก่อนกลับขอแวะอีกสักที่ 2ที่ ที่แรกในเช้าวันนี้คือ วัด SONGZANLIN
วัด SONGZANLIN
วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin) อยู่ห่างจากตัวเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร สร้างในสมัยทะไลลามะองค์ที่ 5 ในช่วงศตวรรษที่ 18 ตรงกับสมัยจักรพรรดิ์คังซี แห่งราชวงศ์ชิง สร้างจำลองแบบจากพระราชวังโปตาลา (Potala) ในกรุงลาซา (Lhasa) วัดซงจ้านหลินเป็นวัดนิกายลามะหมวกเหลือง แบบธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน มีความเคร่งในเรื่องพระธรรมวินัย มากกว่า นิกายหมวกแดง อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และในช่วงที่มีเทศกาล ชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีที่จะจัดขึ้นตามวัดสำคัญๆ เหล่านี้ ด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน สวยมาก วัดนี้ก็สวยมากกกก ใหญ่โต และดูขลังสุดๆ (ค่าเข้าชม 450 หยวน หาร 6 คน ตกคนละ 75 หยวน)
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/L5S8QyMmgxenWDf87
ทะเลสาบลาหมู่ยางชั่ว (Lamuyangcuo Lake)
เป็นทะเลสาบที่อยู่ด้านหน้าวัด เป็นจุด Best Photo Spot สำหรับการถ่ายรูปวัดซงจ้านหลินสะท้อนผืนน้ำ รอบทะเลสาบมีทางเดินเป็นวงกลมระยะทางประมาณ 2.1 กิโลเมตร มีสะพานไม้ทอดยาวเข้าไปกลางทะเลสาบ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปวัดสะท้อนผืนน้ำกัน แต่เสียดายตอนแอดไปน้ำน้อย เลยไม่ได้รูปมุมไฮไลท์มาฝากทุกคน
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/mnpYmYUqHMP86vfQ8
ตลาดสดย่าน เมืองเก่าลี่เจียง
หลังจากนั้นคนขับรถก็ไปส่งแอดที่สถานีรถไฟลี่เจียง เพื่อที่แอดจะนั่งรถไฟกลับไปยังคุนหมิง แต่ด้วยเวลาที่ยังพอเหลือ แอดเลยเลือกไปเดินเล่นตลาดสดย่านเมืองเก่าลี่เจียง (ค่าแท็กซี่ ไป – กลับ 100 หยวน หาร 6 คนละ 25 หยวน) บอกเลยว่าตลาดนี้ของกินเยอะมาก มีทั้งของสด ของแห้ง ของคาว ของหวาน มีเต็มไปหมด และที่ตลาดนี้ก็ทำให้แอดได้กินชานมไข่มุกสักที สดชื่น
ร้านนี้เป็ดย่างเกลืออร่อย และถูกมาก ตัวละ 23 หยวน
หลังจากนั้นแอดก็กลับมาที่สถานีรถไฟ รอบนี้แอดนั่งแบบรถไฟด่วน ใช้เวลา 3 ชั่วโมงจาก ลี่เจียงถึงคุนหมิง (ค่ารถไฟ คนละ 242.42 หยวน) พอถึงคุนหมิงแล้ว ก็ได้เวลาโบกมือบ๊ายบายประเทศจีน และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
ทริปนี้เป็นทริปไปจีนอีกครั
้งของแอด แต่ทริปนี้แอดมีครั้งแรกเยอ
ะมาก เห็นหิมะตกที่จีนครั้งแรก นอนบนรถไฟครั้งแรก เป็นทริปที่แอดได้เปิดประสบ
การณ์ใหม่ๆ เยอะมาก การเดินทางที่จีนไม่ได้ยากอ
ย่างที่คิด เพราะที่นี่ก็มี China Metro App, Didi (App เรียกแท็กซี่) Wechat ไว้คุยกับคนขับรถ และ Google translate ช่วยเราไว้ได้ ซื้อของ ถามทาง สั่งอาหารกันสนุกเลย เรื่องอาหาร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของแอดที่มาจีน อาหารขอ
งที่นี่ไม่ค่อยเลี่ยน ไม่ค่อยมีน้ำมัน แอดกินได้และอร่อยด้วย ช่วงที่แอดมาเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีพอดีด้วย ยิ่งทำให้การมาเที่ยวของแอดทริปนี้พิเศษมากขึ้นไปอีก ธรรมชาติของจีนอลังการมากอยู่แล้ว ที่เที่ยวแต่ละที่ที่แอดไปในทริปนี้ ไม่ได้ทำให้แอดผิดหวังเลย เพราะสวย ยิ่งใหญ่ งดงามและอลังการสุดๆ เป็นทริปที่แอดถ่ายรูปกลับมาเยอะมาก โดนความสวยงามดึงให้แอดลั่นชัตเตอร์โดยไม่รู้ตัว เอาเป็นว่าถ้าใครที่ชอบธรรมชาติ ภูเขา ทะเลสาบ ความเก่าแก่ ความโบราณ แอดแนะนำเลยครับ คุนหมิง ลี่เจียง ย่าติง สวยแบบควรมาเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ที่จีนยังมีที่เที่ยวที่สวยๆ และยิ่งใหญ่อีกเยอะมาก และถ้าใครสนใจบินมาเที่ยวที่ประเทศจีน AirAsia เขามีเที่ยวบินมาจีนเยอะมาก หลายเมืองสุดๆ สามารถเข้าไปดูได้ว่ามีบินไปไหนบ้างได้ที่ https://www.airasia.com/
ข้อควรรู้ก่อนไปจีน
1.ไปเมืองจีนต้องขอวีซ่าก่อน(ทำเองได้เตรียมเอกสารให้ครบ รูปถ่ายตามที่กำหนด พร้อมเงิน 1,650 บาท)
2.ค่าเงิน 1 หยวนจีน (CNY) เท่ากับเงินไทย 4.27 บาท (อัตราอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
3.เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
4.ภาษาส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีน (ชาวจีนใช้ภาษาอังกฤษน้อยมาก)
5.รถยนต์ที่จีนเป็นรถแบบพวงมาลัยซ้าย
6.ระดับเสียงของชาวจีนจะดังกว่าเลเวลปกติของคนไทยที่เสียงดัง (เสียงดังเฉยๆแต่จริงๆไม่ได้ดุ)
7.การเดินชนกันเป็นเรื่องปกติ
8.การแซงคิวเป็นเรื่องปกติ
9.การบีบแตรรถเป็นเรื่องปกติ (บีบเก่งมาก)
10.การสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ (ตามสถานที่สาธารณะ และร้านอาหารก็สูบ)
11.ค่าแท็กซี่ มิเตอร์เริ่มต้นที 8 หยวนจีน (CNY) เท่ากับเงินไทย 40 บาท (แนะนำถ้าเจอไม่กดมิเตอร์ไม่ต้องขึ้น)
12.ห้องน้ำมี 3 แบบ ดีที่สุดคือชักโครก โถเหยียบแบบจีน และแบบช่อง โปรดเตรียมใจไว้เสมอก่อนเข้าห้องน้ำ ว่าอาจเจอ…ในห้องที่เปิดเข้าไป ห้องน้ำบางที่โดยเฉพาะชนบท ไม่มีประตู (แนะนำพยายามเข้าจากโรงแรมและร้านอาหารให้เรียบร้อย)
13.ชาวจีนหลายคน เข้าห้องน้ำโดยไม่ปิดประตู
14. สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อไปจีน เจลล้างมือ ทิชชู่ ผ้าเปียกสำคัญมากๆ
✏️ การเตรียมตัวสำหรับ Jadedragon snow mountain และ Yading
– Yading และ Jadedragon snow mountain เป็นที่สูง 4,000-4,600 เมตร ออกซิเจนน้อย ( เตรียมร่างกายให้พร้อม) และควรพก ออกซิเจนกระป๋อง
– ยา แก้ปวดหัว แก้แพ้ แก้เมารถ ปวดท้อง ยาคลายกล้ามเนื้อ แก้ท้องเสีย และอุปกรณ์ทำแผล
– ยา Diamox ยาช่วยปรับระดับความสูง
– เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับการเดินทางไกล ใส่สบาย กันหนาว กันลม รองเท้ากันลื่น อากาศหนาวมาก ลมแรง บางวันด้านบนหิมะตก
รีวิวบนแฟนเพจ : จากคุนหมิง…ถึงย่าติง | ทริป 9 วัน 8 คืน ใบไม้เปลี่ยนสีจีน
#AirAsiaTravels #AirMosphere #Yading #china #ReviewChina #ไปคุนหมิงไปกับแอร์เอเชีย #รู้จีนรู้ใจไปกับแอร์เอเชีย #ใบไม้เปลี่ยนสีที่จีน #ย่าติง #จีน #เที่ยวจีน #รีวิวจีน #ที่เที่ยวจีน #สถานที่ท่องเที่ยวประเทศจีน