OSAKA วันเดียวเที่ยวไม่พอ

?????

“โอซาก้า” เป็นจังหวัดที่เราเลือก ก่อนเดินทางกลับสำหรับทริปนี้ 4 วัน 3 คืน ในญี่ปุ่น นาโกย่า -โอซาก้า


และทริปนี้เราได้แอปใหม่มาลองใช้ คือ dtac call ที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเราในครั้งนี้ไม่พลาดการติดต่อจากสายสำคัญเลยแม้แต่สายเดียว

สำหรับใครมาต่างประเทศหรือมาญี่ปุ่น สามารถโหลด dtac call ใช้งานฟรี เป็นแอปที่จะช่วยให้เราโทรออก รับสายเบอร์ที่เราใช้ในไทยได้ หรือจะรับ SMS/OTP ก็ได้ จะไปที่ไหนก็เสียค่าโทรเหมือนที่เราอยู่ไทยเลย และในคืนสุดท้ายมีเวลาใน “โอซาก้า” นับรวมกันได้เกือบ 1 วัน

มีเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง มาดูว่าเราไปไหนทำอะไรกันมาบ้าง ใน “โอซาก้า”

เริ่มต้นที่แรก

? 1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

หนึ่งสิ่งห้ามพลาดสำหรับการมาโอซาก้า ก็คือต้องมา “ปราสาทโอซาก้า” (Osaka Castle) สักครั้ง เป็นปราสาทสูงตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่มีต้นไม้หลากสีสลับไปมา ล้อมรอบด้วยบ่อน้ำ ความสวยงามดั่งภาพวาด จึงทำให้ “ปราสาทโอซาก้า” เป็นแลนมาร์คที่นักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่นเองต่างก็มานั่งชมความงามของปราสาท วาดรูป ปิคนิค นั่งเรือ เดินเล่นที่สวน กันอย่างไม่ขาดสาย และช่วงนี้ที่ปราสาทใบไม้ยังแดงอยู่ด้วย สวยมากบอกเลย ใครขี้เกียจเดินมีบริการรถรางพาทัวร์ ไปส่งถึงทางเข้าปราสาทด้วยนะ แต่ถ้าสายเบิร์นจะเดินก็ได้ เอาที่สะดวกได้เลย

ปราสาทตัดกับกับสีของใบไม้แดงสวยมากจริงๆ สวยจนอดใจไม่ได้ต้องใช้ dtac call โทรเล่าให้แม่ฟังถึงความสวยงามเลยทีเดียว

เปิด แอปขึ้นมาโทรออกได้เลย ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าโทร เพราะราคาตามโปรโมชั่นที่เราใช้งานปกติเหมือนที่เราอยู่ไทย

รับ SMS/OTP ก็ได้ด้วย สะดวกสบายสุดๆ ส่วนการรับสาย ก็แค่เข้าไปตั้งค่าในแอป แล้วเลือกให้โทรเข้ามาที่แอป dtac call สรุปคือเราก็แค่สลับการใช้งานนั่นแหละ แทนที่จะให้โทรเข้าเบอร์หลัก ก็เลือกโทรผ่านแอป จากนั้นก็จะสามารถใช้งานได้ทันที ที่สำคัญ ถ้าใครมีเบอร์ดีแทคหลายเบอร์ ก็แอดเพิ่มในแอปได้ แต่ได้สูงสุด 5 เบอร์เท่านั้นนะ ทีนี้ ไม่ว่าใครจะโทรเข้าเบอร์ไหน เราก็แค่พกเครื่องที่มี dtac call ไปเครื่องเดียว ทุกคนก็จะติดต่อได้สบายหายห่วง

? การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ สถานี Morinomiya Station แล้วเดินต่อไปยัง Osaka Castle Park Fountain นั่งรถรางคนละ 500 เยน(ไป-กลับ)

? 2. เดินเล่นชิลๆ หาร้านชิคๆ ย่าน “Nakazakicho”

ย่าน Nakazakicho ลักษณะเป็นตรอก เป็นซอย ที่มีคาเฟ่ น่ารักๆ ร้านเสื้อผ้าชิคๆ อยู่เยอะมาก เดินถ่ายรูปกันเพลินเลยทีเดียว

และเราก็เลือกนั่งร้านน่ารักๆ 89 cafe คาเฟ่เล็ก กับงานแฮนด์เมด ที่มีมุมน่ารักเพียบ เป็นคาเฟ่ที่เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเจ้าของร้านทุกอย่างในร้านทำเองเกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่หนังสือเท่านั้น เป็นร้านที่น่ารักมากแฝงไปด้วยความอบอุ่น เมนูมีให้เลือกทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และ ของหวานเลย สายชิลไม่ควรพลาดร้านนี้ น่ารักมากบอกเลย

? การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ สถานี Nakazakicho Station แล้วเดินไปที่ 89 cafe

?3. ตะลุยกิน ซื้อของ หาของฝาก ย่าน Dotonbori และ Shinsaibashi


ย่านช้อปปิ้ง ย่านกินดื่มของโอซาก้า เปิดตั้งแต่กลางวันจนถึงดึกๆ จะคึกคักมากๆ ในยามค่ำคืน หิวก็มาที่นี่ ช้อปปิ้งก็มาที่นี่ หาของฝากก็มาที่นี่ที่เดียวจบ Dotonbori และ Shinsaibashi สามารถเดินถึงกันได้เลย

เนี่ยแค่ร้านค้าที่ใต้ดินของสถานีก็ดีมากแล้ว บอกเลยล้มละลาย

?สิ่งที่ห้ามพลาดย่านนี้ ถ่ายรูปป้ายไฟกูลิโกะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวไทยมาย่านนี้ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินที่จุดนี้กัน แล้วเราจะพลาดได้ยังไง555 จากนั้นตะเวณกินเลย

เริ่มที่ร้าน Isomaru Suisan สาขา Dotonbori กับเมนูมันปู ย่างให้สุกแล้วคลุกกับข้าว เค็มๆ มันๆ อร่อย นอกจากมันปูก็มีอีกหลากหลายเมนู เป็นร้านอาหารสไตล์อาหารทะลสดและปิ้งย่าง

? แล้วต่อด้วย ร้าน Gyukaku Dotonbori Ebisubashi ร้านเนื้อย่างอร่อยมาก มีให้เลือก 2 แบบ แบบบุฟเฟ่ปิ้งย่างกับ แบบ อลาคลาส เป็นจาน เลือกได้เลยอยากกินมากกินน้อย เนื้อดีมาก หอมนุ่มละลายในปาก

? แล้วก็กินขาปูยักษ์อลาสก้า 2 ชิ้น 900 เยน กับทาโกะยากิ 12 ลูก 850 เยน ทาโกะยากิมีให้เลือกหลายร้าน หลายราคาเลย ส่วนร้านปูน่าจะราคาเดียวกันหมด เพราะร้านเดียวกันแต่สาขาเยอะมาก

แล้วจากนั้นเดินย่อยกันต่อ ร้านเยอะมาก ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ สาวๆ น่าจะฟิน ของถูกมากๆ

? การเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ สถานี Namba Station แล้วเดินต่อไป Dotonboriและ Shinsaibashi

? 4.Sheraton Miyako

ที่พักของเราใน โอซาก้า คืนสุดท้ายก่อนกลับ คือดีงามมากอยู่ติดสถานีรถไฟเลยเดินทางสะดวก แถมมีท่ารถบัสขึ้นไปถึงสนามบินได้เลย สะดวกมากๆ


.
เอาจริงๆ “โอซาก้า” จังหวัดเดียวมีครบทั้งเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวเมืองสไตล์คาเฟ่ ตะลุยกิน ตะลุยช้อป และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเยอะมาก ไม่สามารถใช้เวลาวันเดียวเที่ยวจนครบได้ เสียดายมากวันลาพักร้อนแอดมินหมดก่อนไม่งั้นอยู่ต่ออีกซักวัน ช้อปกันกระจายแน่ เอาเป็นว่าหากมีโอกาสต้องมาใหม่แน่นอน และถ้าใครสนใจอยากเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมลิสต์ “โอซาก้า” ไว้ซัก 2-3 วันด้วยนะ จะได้ไม่มานั่งเสียดายแบบแอดมิน

ส่วนใครที่สนใจ แอป dtac call สามารถเข้าไปดาวโหลดและใช้งานได้ฟรีเลยทั้ง app store และ play store จากนั้นลงทะเบียนใช้งานด้วยเบอร์ดีแทค ใช้ได้ทั้งแบบรายเดือน เติมเงิน ก็ได้

เปิดแอป ใส่ซิมและลงทะเบียนด้วยเบอร์ดีแทค ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์ที่เรากรอก รับรหัส OTP ตัวเลขมากรอก จากนั้นตั้งรหัสผ่าน แล้วเข้าใช้งาน การเข้าใช้งานครั้งต่อไป กรอกเบอร์และรหัสผ่านที่ใช้งานได้เลย (จะใส่หรือไม่ใส่ซิมในเครื่องก็ได้ แต่ต้อง add เบอร์ที่จะใช้งานลงในแอปและตั้งค่าการโทรออกรับสายที่แอป) หลังจากที่ add เบอร์เข้าไปในแอปแล้ว ถ้าจะไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ใช้ SIM Go Inter เป็นซิมหลักในเครื่อง เอาไว้ใช้เล่นเน็ต ส่วนถ้าจะโทรออกหรือรับสาย ก็ใช้เบอร์ที่แอดไว้ใน dtac call ได้เลย การใช้งานสามารถเลือกได้ว่าโทรปกติหรือโทรผ่านแอป

ดูวิธีการใช้งาน เพิ่มเติมได้ที่ : www.dtac.co.th/info/dtac-call.html

ทีนี้ไม่ว่าจะไปประเทศอะไร ก็รับสายโทรออกได้ปกติ บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวว่าใครจะโทรหาหรือจะติดต่อไม่ได้ จะโทรเข้า-โทรออก รับสายได้ทันที หรือจะรับ SMS/OTP ก็ได้ จะไปที่ไหนก็เสียค่าโทรเหมือนที่เราอยู่ไทย ราคาตามโปรโมชั่นที่เราใช้งานปกติเลยด้วย สะดวกสบายสุดๆไปเลย เที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ควรมี dtac call แอปดีๆ ติดไว้ในมือถือไว้ ใช้งานง่ายแถมสบายกระเป๋าสตางค์อีกด้วย

…………………………………………

รีวิวบนเพจ : ????? OSAKA วันเดียวเที่ยวไม่พอ

…………………………………………
ใครเคยไปเที่ยวมาแล้ว หรือมีที่เที่ยวที่ไหนมาแนะนำ มาแชร์รูป มาคอมเม้นคุยกันได้นะครับ 🙂
#Japan #Osaka #dtaccall #dtac #OsakaCastle #SheratonMiyako#Dotonbori #Shinsaibashi #ญี่ปุ่น #โอซาก้า #เที่ยวญี่ปุ่นวันเดียว#ปราสาทโอซาก้า #ย่านช้อปปิ้ง
…………………………………………
#ไปคนเดียวด้วยกันมั้ย#ไปคนเดียว #ไปด้วยกัน
#เพจท่องเที่ยว #รีวิวท่องเที่ยว #เพจรีวิว
(อยากให้ทุกคน…กล้าที่จะออกมาเที่ยว)

แฟนเพจ : www.facebook.com/paikondieow

Instagram : www.instagram.com/paikondieow

[supsystic-gallery id=171]

Verified by MonsterInsights