


1.) ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ | Miyajidake Shrine
2.) โรงแรม | ゆふinn (Yufu Inn)
3.) ร้านเนื้อย่าง | Yakiniku Manyouke
4.) ทะเลสาบคินรินเลค | Kinrin Lake
5.) ย่านช้อปปิ้ง | Yufuin Floral Village
6.) ถนนย่านช้อปปิ้ง | Yufuin shopping street
7.) ร้านขายของสตูดิโอจิบลิ | Donguri No Mori
8.) พิพิธภัณฑ์รถเก่า | Yufuin Retro Motor Museum
9.) จุดชมวิวยอดเขาไดคันโบ | Daikanbo View Point
10.) ทุ่งหญ้าคุสะเซนริกะฮามะ | Kusasenri Ga Hama Grassland (草千里ケ浜)
11.) โรงแรม | Imakuni Ryokan
12.) ร้านอิซากายะ | Tentsukutsun
13.) หุบเขาทะคะจิโฮะ | Takachiho Gorge
14.) ร้านโซเมงรางไม้ไผ่ | Nagashi Somen Chiho-no-ie (千穂の家 元祖流しそうめん)
15.) ร้านโซเมงรางไม้ไผ่ | Inakaya田舎屋
16.) ศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ | Amano Iwato Shrine
17.) ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริ | Ukiha Inari Shrine
18.) โรงแรม | Futsukaichi Green Hotel
#Day4
19.) สถานีรถไฟกัปปะ | Tanushimaru Station
20.) สวนลูกพลับ | Shukuba-en 宿葉園
21.) ศาลเจ้าดาไซฟุ | Dazaifu Tenmangu Shrine
22.) เสาโทริอิสีขาวกลางทะเล | Sakurai Futamigaura
23.) โรงแรม | Hakata Green Hotel Tenjin
24.) ราเมงข้อสอบ | Ichiran Ramen
#Day5
25.) สะพานดนตรี | The melody bridge
26.) พระนอนองค์ใหญ่ | Nanzoin Temple
27.) ร้านอิซากายะ | Isomaru Suisan
28.) ย่านช้อปปิ้ง | Canal City Hakata
29.) งานไฟสถานีฮากะตะ | Winter Illumination in Fukuoka 2022
30.) โรงแรม | THE B

- จองตั๋วเครื่องบินกันก่อน
- ทำแพลน วางแผนว่าจะเที่ยวเมืองไหนบ้าง แต่ละเมืองไปสถานที่เที่ยวที่ไหนบ้าง แต่ละที่เปิด – ปิดกี่โมง มีรถอะไรไปถึง แต่ละจุดไกลกันแค่ไหน จากนั้นจองที่พัก ว่าแต่ละคืนเลือกพักที่ไหน ในเมืองไหน
ค่าที่พัก
คืนที่ 1 Yufu Inn ゆふinn เหมาบ้าน 1 หลัง ราคา ¥7,608 (1,993 บาท) (ไม่มีอาหารเช้า)
คืนที่ 2 Imakuni Ryokan เรียวกัง 1 ห้อง ¥17,875 (4,679.675 บาท)(ไม่รวมอาหารเช้า)
คืนที่ 3 Futsukaichi Green Hotel ห้องพัก 2 ห้อง ¥15,288 (4,004.87 บาท) (ไม่มีอาหารเช้า)
คืนที่ 4 Hakata Green Hotel Tenjin ห้องพัก 2 ห้อง ¥21,580 (5,689.95 บาท) ((City Tax ภาษีเข้าพักของเมืองฟุกุโอกะ คนละ ¥200 รวม ¥800) (อาหารเช้า คนละ¥1000 รวม ¥4000 (1,256.64 บาท)))
คืนที่ 5 the b hakata ห้องพัก 2 ห้อง 14,222.46 บาท (City Tax ภาษีเข้าพักของเมืองฟุกุโอกะ คนละ ¥200 รวม ¥800(209.44 บาท)) สำหรับค่าที่พักคืนนี้ค่อนข้างสูงเพราะตอนที่พวกผมไปจองช้าจองวันสุดท้ายก่อนบิน ที่พักเต็มหมด ราคาเลยค่อนข้างสูงจากปกติมากครับ
รวมค่าที่พัก 1993+4,679.675+4,004.87+5,689.95+1,256.64+14,222.46+209.44 = 32,056.035 บาท
หาร 4 คน ตกคนละ 8,014.00875 บาท 5 คืน ตกคืนละ 1,602.80175 บาท ต่อคน

- วางแผนการเดินทางจองรถเช่ารอบนี้ผมมีแพลนจะ Road Trip เที่ยวหลายจังหวัดบวกกับเดินทางทั้งหมด 4 คน การใช้ Pass รถไฟราคาค่อนข้างสูงกว่า บวกกับเรื่องของกระเป๋า การขนกระเป๋า การหาที่ฝากกระเป๋าแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว ค่าใช้จ่ายในการฝากกระเป๋า และสถานที่ท่องเที่ยวในทริปนี้ที่ผมจะไปบางสถานที่ที่รถไฟไปไม่ถึง ผมเลยเลือกทางที่สะดวกที่สุดสำหรับ 4 คนเช่ารถ Nissan Note E-Power GPS ทั้งหมด 4 วัน ฿10,441.97 ซื้อประกันรถเพิ่ม ฿2,453.91 รวม ฿12,895.88
ETC ¥300 (78.54 บาท)(ซื้อเพิ่มตอนรับรถ)
ค่าทางด่วนตลอดทริป ¥7400 (1,937.32บาท)(จ่ายตอนคืนรถ)
ค่าที่จอดรถ ¥1,100 (287.98บาท)
ค่าน้ำมันรถ ¥5046 + ¥1342 = ¥6,388 (1,672.39 บาท)

- เช็คอุณหภูมิแต่ละเมืองที่จะไป เพราะแต่ละเมืองอากาศไม่เท่ากัน อย่างที่ผมเจอคือ ที่ โออิตะ (Oita) อากาศค่อนข้างเย็นกว่า ที่ฟุกุโอกะ (Fukuoka) แต่ทีมเช็คแค่ที่ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เลยไม่ได้เตรียมชุดกันหนาวมา

- เตรียมซิม หรือเปิดโรมมิ่งสำหรับใช้เดินทางในต่างประเทศ
- จากนั้นก่อนเดินทาง ตอนนี้สำหรับการเดินทางเขาประเทศญี่ปุ่น ทุกคนจะต้องทำการลงทะเบียนการเข้าประเทศที่ เว็บไซต์ Visit Japan ก่อน https://vjw-lp.digital.go.jp/en/ (เพื่อความรวดเร็ว ควรลงทะเบียนให้เสร็จจนขึ้นสีน้ำเงิน 6 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนะครับ)
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยทุกครั้งก่อนออกเดินทาง สิ่งที่ผมไม่เคยลืมเลย เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ รองลงมาจากการทำแพลน จองที่พัก จองรถเลย ก็คือ การหาประกันการเดินทางดีๆ ที่ครอบคลุมความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และในทุกๆ ทริป โดยเฉพาะทริปญี่ปุ่น ผมใช้ประกันเดินทางของ SOMPO เพราะค่อนข้างครอบคลุม และมีแผน GO JAPAN ให้เที่ยวเราได้แบบหายห่วงเลย
ข้อดี
– ไม่ต้องสำรองเงินจ่าย ในกรณีที่เข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลในเครือ ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งอุบัติเหตุ และเจ็บป่วย รวมถึงเจ็บป่วยจากการติดเชื้อ COVID-19 ด้วยนะ
– มีบริการให้คำแนะนำทางการแพทย์ทางโทรศัพท์เป็นภาษาไทย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง
– บริการช่วยเหลือในการสื่อสารทางการแพทย์กับแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นทางโทรศัพท์
– การขยายระยะเวลาคุ้มครองโดยอัตโนมัติ กรณีการเดินทางกลับล่าช้า เนื่องจากสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติความผิดพลาดของอุปกรณ์การบิน หรือสายการบิน
– คุ้มครองตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้าน จนกระทั้งกลับมาประเทศไทย และบวกไปอีก 24 ชั่วโมง
– มีหลาย Plan ให้เลือก Plan A , Plan B , Plan B+ , Plan C แถมแต่ละ Plan ราคาแค่หลักร้อยเท่านั้นด้วยนะ
– Plan B+ , Plan C มีการรักษาพยาบาลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ด้วย
– Plan C นอกจาก มีการรักษาพยาบาลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้แล้ว ยังมีชดเชยรายวันสำหรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน 3,000 บาท แถมมีความรับผิดส่วนแรกสำหรับรถเช่า 20,000 บาท แลความสูญเสียหรือความเสียหายของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 30,000 บาท
โดยปกติผมเลือกแผน Plan B+ แต่เอาจริงๆ Plan C คือ คุ้มมาก ๆ ถ้าเกิดเหตุเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างทริปจริงๆ หายห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเลย
ใครมีแพลนเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืม ซื้อประกันการเดินทางติดไว้นะครับ รับลองว่าอุ่นใจ เที่ยวแบบหายห่วง
ซื้อประกันเดินทาง SOMPO https://bit.ly/3USuZ0J
พิเศษ สำหรับสายเที่ยว และแฟนเพจไปคนเดียว+
แจกโค๊ด ส่วนลด 15% (ใช้ได้ถึง 30 เมษายน 2566)
โค๊ด PAIKONDIEOW15
#Day1
ทริปนี้พาทุกคนบินลัดฟ้า กับ “Thai Vietjet Air” พึ่งเปิด Route ใหม่ล่าสุด บินตรง จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปลงสนามบินฟุกุโอกะ ทุกวัน ทั้งไปและกลับ เป็นเครื่อง Airbus A321 มีปลั๊กไฟ มีทีชาร์จที่ให้ด้วย
ขาไป VZ810 บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ 01.50 น. ใช้เวลาบนเครื่องประมาณ 5 h 10 mไปลงที่สนามบินฟุกุโอกะ 09.00 น.
ขากลับ VZ811 ออกจากสนามบินฟุกุโอกะ 10.00 น. ใช้เวลาบนเครื่องประมาณ 6 h 10 m ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 14.10 น.
ทริปนี้เราเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด 5 วัน เดินทาง 4 คน โร้ดทริปเที่ยววงกลม เช่ารถ 4 วัน วันสุดท้ายเที่ยวในฟุกุโอกะด้วยรถไฟ
ผมและทีมไปถึงสนามบินฟุกุโอกะ 09.00 น. พอไปถึงก็เปิดหน้าเว็บ Visit Japan ที่ลงทะเบียนขึ้นสีน้ำเงินให้เจ้าหน้าที่ดูเรื่อยๆ ไปจนถึง ตม. ผ่านออกมาจากตม. ประมาณ 11.30 น. จากนั้นไปรับรถเช่าที่ Hakata Station
.
? การเดินทาง : ขึ้น Shuttle Bus จากป้าย Bus Stop หมายเลข 1 ของอาคารระหว่างประเทศ ไปอาคารภายในประเทศ แล้วต่อ Subway สาย Kuko Line จาก Fukuokakuko Station(Airport) ปลายทาง Meinohama (ตั๋วราคา ¥260)(4 คน ¥1040) นั่งไป 2 สถานี ไปลงที่ Hakata Station ใช้เวลาประมาณ 6 นาที ออกที่ Chikushi Exit
พวกเราเดินหาจุดรับรถเช่านานมาก ยังไม่เจอเลยแวะเติมพลังให้กับพุงน้อยๆ ของพวกเราด้วย Yoshinoya แล้วก็เดินไปที่ร้านรับรถเช่าที่อยู่ตรงข้าม Hakata Station Chikushi Exit เลย
กรอกเอกสารรับรถ จ่ายค่า ETC เพิ่ม ¥300 ETC คือใครไม่ซื้อก็ได้นะครับ แต่ถ้าซื้อก็สามารถเข้าทางด่วนในช่อง ETC หรือช่อง ETC / Cash ได้เลย ไม่ต้องจ่ายเงินทุกครั้งที่เข้าออก จ่ายทีเดียวตอนคืนรถเลย ส่วนตัวผมว่าสะดวกกว่าจ่ายเงินสดเยอะเลยครับ
พอดีช่วงที่ไปรถเต็มหมด จองได้กว้างสุดได้รุ่นนี้ และเข้าใจว่าด้านหลังน่าจะใส่กระเป๋าได้ 3 ใบ ผมและทีม 4 คน มีกระเป๋าไป 4 ใบ 30 นิ้ว 29 นิ้ว 2 ใบและ 26 นิ้ว 1ใบ แต่รถ Nissan Note E-Power GPS ใส่ได้ ด้านหลังสูงสุด 2 ใบ พวกผมเลยรวมกระเป๋า เหลือ 3 ใบ ยัดกระเป๋า 29 นิ้วไว้ในใบใหญ่ ด้านหลังใส่กระเป๋าเดินทาง 30 นิ้วแบบนอน 1 ใบ 29 นิ้วนอนเหมือนกันอีก 1 ใบ กระเป๋าเป้ 2 ใบ ตรงกลางที่วางเท้าที่นั่งด้านหลัง 26 นิ้ว 1 ใบ
แก้ปัญหาเรื่องกระเป๋ากันเสร็จ แล้วพวกเราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายแรกของทริป
1. ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ | Miyajidake Shrine
ศาลเจ้าเก่าแก่ อายุกว่า 1,700 ปี อยู่ในจังหวัดฟุกุโอะกะ คนนิยมมาขอเรื่องกิจการ การค้า เป็นวัดที่ได้ชื่อของความเป็นที่สุด ทั้ง เชือกชิเมะนะวะขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.6 เมตรยาว 11เมตร กลองไดโกะขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.2 เมตร และ ระฆังใหญ่ และไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก ตรงบันไดทางขึ้นศาลเจ้าที่ทอดยาวเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักมุ่งหน้าตรงไปสู่ทะเลเกนไค (Genkai) สวยมากๆ
การเดินทาง : ขับรถขึ้นทางด่วนมาประมาณ 45 นาที จอดที่ลานจอดด้านบน เดินอีกประมาณ 50 เมตร ก็ถึงศาลเจ้าเลย ไม่เสียค่าที่จอดด้วยนะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.miyajidake.or.jp
+ ที่ตั้ง : 7-1 Miyaji Motomachi, Fukutsu, Fukuoka 811-3309 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/mDQBxFBTmiBSLphb7
+ เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
เราใช้เวลาขับรถขึ้นทางด่วนมาประมาณ 45 นาที พวกเรามาถึงศาลเจ้าประมาณ 15.20 น. ร้านค้าด้านล่างเหมือนจะปิดกันไปแล้ว เราเลยขับขึ้นรถขึ้นมาจอดที่ลานจอดด้านบน เดินอีกประมาณ 50 เมตร ก็ถึงศาลเจ้าเลย สะดวกมากๆ ไม่เสียค่าที่จอดด้วย ไหว้พระขอพร ถ่ายรูปมุมไฮไลท์เสร็จ เราก็รีบออกเดินทางไปยูฟุอิน (Yufuin) กันต่อ เพราะต้องขับรถไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึง Yufu Inn (ゆふinn) ที่พักของเราในยูฟุอิน (Yufuin)
2. โรงแรม | ゆふinn (Yufu Inn)
ขับรถไปถึงก็ Yufuin ประมาณ 17.30 น. ซึ่งช่วงนี้ที่ญี่ปุ่น คือฟ้ามืดแล้ว เราเลยเข้าเช็คอินบ้านพักกันก่อน
บ้านพักที่พวกเรานอนคืนนี้ คือ “Yufu Inn (ゆふinn)” ราคาที่พักที่ผมจองได้คือ ¥7,608 (1,993 บาท) (ไม่มีอาหารเช้า) จากราคา ¥8,360 เข้าพัก 4 คน ตกคนละไม่ถึง 500 บาท ซึ่งจริงแล้วที่นี่สามารถพักสูงสุดได้ ถึง 7 คนเลยทีเดียว หารออกมาตกคนละ 284.71 บาทเท่านั้น ราคาดีงามมากๆ ที่นี่เป็นบ้านเป็นหลังในหมู่บ้าน มีเพื่อนบ้านซ้ายขวา สไตล์บ้านพักตากอากาศ เหมือนเราได้ลองปลอมตัวไปใช้ชีวิตที่นี่เลย ภายในบ้านมี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ให้ครบ มีห้องซักผ้า ลานตากผ้า ลานจอดรถ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และออนเซ็นส่วนตัว บรรยากาศดีมากๆ ราคาดีงาม มีให้ครบเหมือนเป็นบ้านของตัวเองเลย ในห้องนั่งเล่นมีโซฟา ทีวี และโต๊ะโคทัตสึให้ด้วย ห้องนอนแรกด้านในสุดเป็นเตียง ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโต๊ะโคทัตสึอยู่ตรงกลาง ห้องถัดมาเป็นห้องนอนฟูกแบบเรียวกัง ถัดมาเป็นครัวห้องน้ำและห้องอาบน้ำ คือถ้าใครกำลังมองหาที่พักใน Yufuin ที่ได้ฟีลแบบส่วนตัวๆ มีออนเซ็นส่วนตัว แถมราคาไม่แพง แนะนำที่นี่เลย มันดีมากจริงๆ ครับ
การเดินทาง : ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าจากศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine) ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 1188-18 Yufuinchō Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/TDvXrmwNmDLgp6UL9
3. ร้านเนื้อย่าง | Yakiniku Manyouke
พอเช็คอินเสร็จ พวกเราก็ออกไปหามื้อเย็นกัน ขับไปแถวสถานีรถไฟ ตอนที่ไปถึงมีร้านเปิดค่อนข้างน้อยมากๆ แล้ว หรือไม่ก็เต็ม พวกเราเลยลองเดินหาจนไปเจอร้านลับร้านหนึ่ง อยู่บนชั้น 2 ของตึก ชื่อว่าร้าน “Yakiniku Manyouken (焼肉万養軒)” เป็นร้านYakiniku ปิ้งย่างที่สายเนื้อต้องห้ามพลาดเลย เนื้อดีงามมากๆ มีให้เลือก 2 แบบคือ เป็นเซต กับแบบบุฟเฟ่ต์
เซตมีให้เลือก 2 แบบ
เซตสำหรับ 2 คน พร้อมน้ำ ¥6,600
เซตสำหรับ 4 คน พร้อมน้ำ ¥13,200
บุฟเฟ่ต์ 100 นาที มีให้เลือก 4 แบบ
ผู้ชาย ¥3,850 ผู้หญิง ¥3,300
บุฟเฟ่ต์ + เครื่องดื่ม Sofdring ผู้ชาย ¥4,400 ผู้หญิง ¥3,850
บุฟเฟ่ต์ + เครื่องดื่ม Sofdring + โชจู ผู้ชาย ¥4,950 ผู้หญิง ¥4,400
บุฟเฟ่ต์ + เครื่องดื่ม Sofdring + โชจู + เบียร์สด + เหล้าบ๊วย ผู้ชาย ¥5,500 ผู้หญิง ¥4,950
?การเดินทาง : ขับรถ 5 นาที จากที่พัก Yufu Inn (ゆふinn) ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒879-5102 Oita, Yufu, Yufuincho Kawakami, 川上3048-10
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/WeBd8HEsW8EDx3ELA
+ เวลาเปิด – ปิด : 18.00 – 21.00 น.
สรุปค่าใช้จ่าย Day 1
- ค่าเดินทาง ¥1040 (272.27)
- ค่ากิน ¥5,000 + ¥1880 + ¥13,200 + ¥3617 = ¥23,697 (6,203.87 บาท)
#Day2
เช้าวันต่อมา เราขับรถจากที่พัก มาที่ Kinrin Lake ใช้เวลาประมาณ 4 นาที จอดรถที่ลานจอดด้านในสุดติดกับสวนเลยไม่เสียค่าที่จอด จอดรถเสร็จก็เดินเข้าไปในสวนเลย
4. ทะเลสาบคินรินเลค | Kinrin Lake
Kinrin Lake เป็นทะเลสาบที่ใครไป Yufuin แล้วต้องห้าพลาด บอกเลยว่าสวยมากๆ ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี เป็นสีเหลือง สีแดง บวกกับไอที่ระเหยขึ้นมาจากผืนน้ำ ทั้งที่เป็นเวลาประมาณ 08.30 น. แล้วด้วยนะ สวยจนอยากให้ทุกคนได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองเลย จากนั้นพวกเราก็เดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆ ทะเลสาบ เดินไปไหว้พระและถ่ายรูปที่ ศาลเจ้า Tenso shrine (next to Kirin lake ) ที่อยู่ด้านข้างทะเลสาบ ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ไอระเหยของน้ำในทะเลสาบก็ยังไม่หมดเลย
การเดินทาง : ขับรถ 4 นาที จากที่พักYufu Inn (ゆふinn) ระยะทางประมาณ 1.1 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
ที่ตั้ง : 1561-1 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/AhMwTXUuu7mrtPZ97
+ แผนที่ Gpsลานจอด : https://goo.gl/maps/UdJHC6VFWVPkNC8m8
จากนั้นเราเดินจากทะเลสาบมาที่ “Yufuin floral village” ใช้เวลาเดินประมาณ 6 นาที 450 เมตร
5. ย่านช้อปปิ้ง | Yufuin Floral Village
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมือง Yufuin เลยก็ว่าได้ เป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่จำลองออกมามีกลิ่นอายความเป็นยุโรปโบราณ ฟีล Harry Potter บ้านอิฐโทนเหลืองครีมแสนคลาสสิคเรียงรายอยู่บนถนนสายเล็กๆ ประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้นานาชนิด มีร้านของเล่น ของที่ระลึก ของฝาก และคาเฟ่ โดยเฉพาะตัวการ์ตูนสุกน่ารัก Totoro และ อนิเมะ เรื่องอื่นๆ ของ Studio Ghibli เพียบ สาวก Studio Ghibli แบบผมโดนตกไม่ใช่น้อย เป็นเมืองที่มีความน่ารักมาก มุมถ่ายรูปเยอะ เหมาะกับการมาเดินชิลๆ ดูของน่ารักๆ ถ่ายรูปเล่นมากๆ เลย
การเดินทาง : เดินจาก Kinrin Lake 2 นาที ระยะทางประมาณ 300 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : www.facebook.com/floralvillage/?fref=ts
+ เว็บไซต์ : http://floral-village.com/
+ ที่ตั้ง : 1503-3 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/xoPuL8sUVDzxMPzF8
+ เวลาเปิด – ปิด : 09.30 – 17.00 น.
6. ถนนย่านช้อปปิ้ง | Yufuin shopping street
Yufuin shopping street อยู่บน Yunotsubo Street ถัดมาจาก Yufuin floral village เลย เป็นถนนสายเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขนม ซอฟต์ครีม ร้านขายของเล่น ของที่ระลึก เพียบ ถนนสายนี้ทอดยาวไปถึง Yufuin Station ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินเล่น ถ่ายรูป ชิมขนม หาของฝาก เดินเพลินๆ ฟินๆ เลยทีเดียว มีแวะกินขนม (¥2,560)
.การเดินทาง : เดินจาก Yufuin floral village 1 นาที ระยะทางประมาณ 70 เมตร
. รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Yufuinchō Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/F6udoLantYsaN8oQ9
7. ร้านขายของสตูดิโอจิบลิ | Donguri No Mori
อีกหนึ่งพิกัดห้ามพลาดของสาวก Totoro และ สาวก Studio Ghibli อีกหนึ่งร้านสุดน่ารักบนถนนสาย Yunotsubo Street หรือ Yufuin shopping street ร้านอยู่ต้นๆ จากฝั่ง Yufuin Station เลย ที่นี่เป็นเหมือน Totoro’ Ghibli House เลย มีสินค้าเกี่ยวกับ Totoro เยอะมากๆ เลย มองไปทางไหนก็น่ารักไปหมด
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.folkart.co.jp/shop_info/20140601000020_816.html
+ ที่ตั้ง : 3019-1 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/aTHvDa2vKcbq1vyAA
+ เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 17.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 09.30 – 17.30 น.
8. พิพิธภัณฑ์รถเก่า | Yufuin Retro Motor Museum
ก่อนกลับไปเอารถเราแวะไปดู Yufuin Retro Motor Museum (九州自動車歴史館) เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรถเก่า รถคลาสสิค ใครชอบรถคลาสสิคต้องห้ามพลาดเลย เข้าไปด้านใน มีค่าเข้าชมคนละ ¥800
การเดินทาง : เดินYufuin floral village 1 นาที ระยะทางประมาณ 140 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://ret.car.coocan.jp/
+ ที่ตั้ง : 1539-1 Yufuincho Kawakami, Yufu, Oita 879-5102 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/RWLTYUawkoJw9FTA6
+ เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – ศุกร์ 09.30 – 16.30 น. เสาร์ – อาทิตย์ 09.30 – 17.00 น. (ปิดวันพฤหัสบดี)
+ ค่าเข้าชม : คนละ ¥800
ช่วงเที่ยงๆ ที่ Yufuin ร้านอาหารคนเยอะทุกร้านเลย ตอนแรกกะกินข้าวหน้าเนื้อกันเล็งไว้ตอนเดินผ่านพอกลับไปคิวยาวมากๆ สุดท้ายจบที่ร้านราเม็ง
จากนั้นออกเดินทางต่อไปพิกัดต่อไป คืนนี้เราจะไปนอนกันที่มิยาซากิ (Miyasaki) ซึ่งระหว่างทางจะต้องผ่าน อะโซะ(Aso) ทั้งขาไป และขากลับ เราเลยปรับแพลน แวะที่ Daikanbo View Point และ ทุ่งหญ้าคุสะเซนริ (草千里ケ浜) ในวันนี้แทน จริงๆ แพลนเอาไว้ว่าจะแวะขากลับในวันพรุ่งนี้
9. จุดชมวิวยอดเขาไดคันโบ | Daikanbo View Point
แล้วเราก็มาถึง Daikanbo View Point เป็นจุดชมวิวที่บอกเลยว่าใครมีโอกาสมาจังหวัดคุมาโมโต้ (Kumamoto) ต้องห้ามพลาดเลย มาชมความสวยงามของที่นี่ เป็นจุดชมวิวที่แต่ละฤดูจะมีความสวยงามแตกต่างกัน ผมเคยมาที่นี่ในฤดูฝน ทุ่งหญ้าทั้งหมดจะเป็นสีเขียวชอุ่ม แต่ครั้งนี้ฤดูใบไม้ร่วงทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีเป็นสีทองอร่ามสวยไม่แพ้กันเลย จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นเมืองอะโสะ (Aso) จากมุมสูง และมองเห็นวิวรอบๆ ได้แบบ 360 องศาเลย แล้วยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟอะโสะ (Mt.Aso) และคูจู(Kuju) ที่เรียกว่า Nehanzo ที่ลักษณะคล้ายกับพระนอน เป็นจุดชมวิวที่คนเยอะมากๆ แต่พื้นที่ก็ค่อนข้างกว้างเลย จากลานจอดรถสามารถเดินไปถึงจุดชมวิวแบบชิลๆ ได้ นอกจากมาชมวิวแล้วยังเป็นจุดที่คนญี่ปุ่นนิยมมาดูดาวด้วยนะ และใครมาที่โซนนี้คือห้ามพลาดชิมซอฟต์ครีมจากนมของน้องวัวเจอร์ซี่กันนะครับ
การเดินทาง : ขับรถประมาณ 1.12 ชั่วโมงจาก Yufuin ระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kumamoto.guide/spots/detail/211
+ ที่ตั้ง : Yamada, Aso, Kumamoto 869-2306 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/vLnRUn1AzSvE3gc37
+ แผนที่ Gps Parking : https://goo.gl/maps/GiDsBVaKLfBiz9P37
บรรยากาศระหว่างทางที่ขับรถมาคือสวยมากๆ มองไปทางไหนก็สวย ทางหลายช่วงเป็นถนน 2 เลน สวน ทางค่อนข้างแคบ ทางขึ้นเขาลงเขา
10. ทุ่งหญ้าคุสะเซนริกะฮามะ | Kusasenri Ga Hama Grassland (草千里ケ浜)
ขับรถออกมาประมาณ 45 นาที เรามาดูพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งหญ้าคุสะเซนริกะฮามะ (Kusasenri Ga Hama Grassland) (草千里ケ浜) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวของภูเขาไฟอะโสะ (Mt.Aso) ที่อยู่ใกล้ปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ เป็นทุ่งหญ้าที่อยู่ในหุบเขา ทุ่งหญ้าในฤดูฝนจะมีบึงน้ำขนาดใหญ่ 2 บึง แต่ตอนที่เราไปน้ำในบึงแห้งจนเห็นแต่เนินดิน บวกกับช่วงเวลาที่เราไปถึงพระอาทิตย์กำลังจะตกลับขอบฟ้า ทำให้ไม่มีกิจกรรมที่โดยปกติจะเห็นได้ที่นี่คือ ขี้ม้า และเลี้ยงวัว แต่สามารถเดินลงไปในทุ่งหญ้าได้ จุดชมวิวที่เราถ่ายรูปจะอยู่ด้านบนก่อนถึงลานจอดตรงทุ่งหญ้าเลย ที่นี่เป็นอีกจุดที่สวย บรรยากาศดีมากๆ อยากให้ทุกคนได้ลองมาเที่ยวกันนะครับ
การเดินทาง : ขับรถประมาณ 45 นาที จาก Daikanbo View Point ระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kumamoto.guide/spots/detail/210
+ ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒869-1404 Kumamoto, Aso, 草千里ヶ浜
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ndZGo7gN5edC5zGW7
+ แผนที่ Gps จุดถ่ายรูป Kusasenri จากมุมสูง : https://goo.gl/maps/fPa4PskBniDrvcTU9
11. โรงแรม | Imakuni Ryokan
จากนั้นเราเดินทางกันต่อเข้ามาเช็คอินที่พักคืนนี้ Imakuni Ryokan (イマクニリョカン (今國旅館)) เป็นที่พักที่อยู่ที่ทาคาจิโฮะ (Takachiho) ในจังหวัดมิยาซากิ (Miyasaki) เป็นที่พักสไตล์เรียวกัง เราจอง 1 ห้อง พัก 4 คนราคา ¥17,875 (4,679.675 บาท)(ไม่รวมอาหารเช้า) ภายในห้องพัก แบ่งเป็น 3 โซน เปิดเข้ามาเป็นโซนห้องน้ำห้องแต่ตัว ถัดมาเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ และถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นริมระเบียง มีบ่ออนเซ็นรวมอยู่ที่ชั้น 7 ให้ด้วย เราเลือกพักที่นี่เพราะว่าใกล้กับหุบเขาทะคะจิโฮะ Takachiho Gorge เลย
?การเดินทาง : ขับรถประมาณ 1 .05 ชั่วโมง จาก ทุ่งหญ้าคุสะเซนริ (Kusasenri) ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://imakuniryokan.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 803-4 Mitai, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1101 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/dSaZjVVM9XesPKmV8
เช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้วเราเดินทางร้านอาหารใกล้ๆ ที่พัก มีร้านให้เลือกเยอะส่วนใหญ่เป็นอิซากายะ (Izakaya) ส่วนใหญ่ถ้าร้านไม่ปิด ก็เต็ม เราเจออยู่ร้านหนึ่งเปิดอยู่ และไม่เต็ม เป็นอิซากายะ (Izakaya) ที่มีราเม็ง กินราเม็งกันไป 1 รอบ แล้วไปต่ออีกร้านที่เล็งเอาไว้ตอนขามา แต่เต็ม
12. ร้านอิซากายะ | Tentsukutsun
เป็นร้านสไตล์อิซากายะ (Izakaya) อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ส่วนใหญ่ที่ผมชอบร้านอิซากายะ (Izakaya) เพราะมีเมนูให้เลือกเยอะ และหาง่าย ร้านนี้ก็เหมือนกัน ภายในร้านมีที่นั่งแบบ โต๊ะนั่งพื้น โต๊ะ และบาร์ บรรยากาศดี ไม่แออัดเหมือนสไตล์อิซากายะ (Izakaya) ร้านอื่นๆ แต่ตอนขามาคนเยอะมากๆ เลยกลับมาแวะอีกครั้งตอนขากลับจากกินราเม็งแล้ว แวะดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วกลับไปนอนเก็บไรไว้เที่ยวต่อพรุ่งนี้
การเดินทาง : เดินYufuin floral village 1 นาที ระยะทางประมาณ 67 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://instagram.com/izakaya_tentsukuten…
+ ที่ตั้ง : 805 Mitai, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1101 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/vUcpCDChDAZG4EVc7
+ เวลาเปิด – ปิด : 17.30 – 23.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
สรุปค่าใช้จ่าย Day 2
- ค่ากิน 2,560 + 3120 + 1200 + 7380 + 6490 = ¥20,750 (5,432.35 บาท)
#Day3
13. หุบเขาทะคะจิโฮะ | Takachiho Gorge
ภาพน้ำตกที่ตกลงไปในหุบเขาลึก แล้วมีแม่น้ำสีฟ้าไหลผ่านกลางหุบเขา มีเรือล่องอยู่กลางแม่น้ำ เป็นภาพที่สวยมาก จนเราอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ความสวยงามที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ เป็นหุบเขาที่เกิดจากการปะทุของลาวาบนภูเขาไฟอะโซะที่เย็นตัวลง แล้วถูกน้ำจากแม่น้ำโกคาเสะกัดเซาะจนกลายเป็นหุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน เส้นทางคดเคี้ยวยาว 7 กิโลเมตร มุมไฮไลท์คือน้ำตกไหลจากหินผาด้านบนลงมาที่แม่น้ำด้านล่าง กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่มี 2 กิจกรรมคือการเดินชมตามเส้นทาง กับการล่องเรือชมความสวยงามของน้ำตก ในแม่น้ำโกคาเสะ ค่าล่องเรือ 1 ลำ ¥4100 นั่งได้ 3 คน ถ้าเด็กนั่งได้ 4 คน 30 นาที บอกเลยว่าดีงามและสวยมากๆ ใครมาคิวชูต้องหาโอกาสมาที่นี่นะครับ แถมที่นี่ติดหนึ่งในร้อยน้ำตกที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ
การเดินทาง : ขับรถ 6 นาที จากที่พัก Imakuni Ryokan ระยะทางประมาณ 2.1 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://takachiho-kanko.info/sightseeing/taka_boat.php
+ ที่ตั้ง : Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1103 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/5K2mHxCfyWqLPTjk6
+ แผนที่ Gps Parking : https://goo.gl/maps/LxqE9eZArbnFPnmT7
+ เวลาเปิด – ปิด : 08.30 – 17.00 น. (*รอบสุดท้าย 16.30 น.)
+ ค่าเรือ : เรือ 1 ลำ ¥4100 นั่งได้ 3 คน ถ้าเด็กนั่งได้ 4 คน 30 นาที
+ ค่าที่จอดรถ : ¥500
เราขับไปถึงโดนโบกให้ไปจอดที่จอดแรกราคา ¥300 ซึ่งต้องเดินไกลพอสมควรกว่าจะถึงจุดไฮไลท์ เราขับไปจอดอีกที่ ใกล้กับจุดลงเรือตามพิกัดที่ให้ไว้เลย ค่าจอดรถ ¥500 สรุปเราโดนค่าที่จอดไป ¥800
ล่องเรือชมความสวยงามของน้ำตก ในแม่น้ำโกคาเสะ ค่าล่องเรือ 1 ลำ ¥4100 นั่งได้ 3 คน ถ้าเด็กนั่งได้ 4 คน 30 นาที
14. ร้านโซเมงรางไม้ไผ่ | Nagashi Somen Chiho-no-ie (千穂の家 元祖流しそうめん)
อีกหนึ่งไฮไลท์ของหุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) คือการชิม Nagashi Somen หรือโซเม็งรางไม้ไผ่ จริงๆ ตรงนี้มี 2 ร้านพวกผมเลยชิมทั้ง 2 ร้านเลยว่าต่างกันอย่างไรบ้าง ร้านนี้คือ Nagashi Somen Chiho-no-ie เคลมว่าเป็นต้นตำหรับ ร้านนี้มีให้เลือกทั้งแบบเดียว และแบบเซต แบบเซตมีให้เลือกเซตเดียว ในเซตมีข้าวปั้น ปลาย่าง และโซเม็งที่ไหลมาตามน้ำในรางไม้ไผ่ ราคา ¥1500 เราเลยเลือกแบบเป็นเซตกัน (¥6,000) ที่นี่รับเฉพาะเงินสดนะครับใครจะไปเตรียมเงินสดไว้ก่อนเลยครับ นอกจากโซเม็งร้านนี้มีโมจิย่างเสียบไม้ด้วยนะ ไม้ละ ¥400
การเดินทาง : เดินจากลานจอดรถ 1 นาที ระยะทางประมาณ 71 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://chihonoie.jp/
+ ที่ตั้ง : 62-1 Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1103 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/bonNq7qrMCxr3GgL9
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 16.00 น.
พอเราสั่งเรียบร้อยแล้ว จะมีตะเกียบกับซอสมาเสิร์ฟก่อน แล้วคุณลุงจะเปิดน้ำไหลออกมาตามรางไม้ไผ่ จากนั้นลุงจะส่งสัญญาณ ว่าจะปล่อยเส้นโซเม็งมาแล้วนะ แล้วก็ปล่อยมาเรื่อยๆ จบครบตามเซต พวกผมค่อนข้างชอบเส้น และซอสของร้านนี้ถ้าเทียบกันทั้ง 2 ร้าน เส้นมีความเหนียวนุ่ม ซอสมีความกลมกล่อมหอมกลิ่มวาซาบิและขิง
15. ร้านโซเมงรางไม้ไผ่ | Inakaya田舎屋
ร้านอยู่ถัดจากร้านต้นตำหรับเลย มีรางไม้ไผ่เหมือนกัน ความแตกต่างคือร้านนี้มีเมนูให้เลือกค่อนข้างหลากหลายส่วนใหญ่เป็นเมนูแบบเซตข้าวเนื้อย่าง ข้าวปลาย่าง ข้าวไก่ทอด หรือเซตโซเม็งที่เป็นเซตแยกไปเลย เราเลยลองสั่งโซเม็งมาชิม ส่วนตัวพวกเราคิดว่าซอสของร้านต้นตำหรับมีความเข้มข้น กลมกล่อมกว่า แต่ถ้าเอาความหลากหลาย และการบริการ ร้านนี้ค่อนข้างดีกว่า แต่ที่นี่ก็รับเฉพาะเงินสดเหมือนกันครับ นอกจากที่พัก และ จุดซื้อตั๋วลงเรือแล้ว ใน Takachiho ส่วนใหญ่การชำระเงินที่นี่รับเฉพาะเงินสดเลยครับ แนะนำให้เตรียมเงินสดไว้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 965-2 Mitai, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1101 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/7gJ7ntQGgJgxctaA7
+ เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
16. ศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ | Amano Iwato Shrine
ก่อนออกจาก Takachiho เพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่ฟุกุโอกะ เราแวะไปไหว้พระขอพรกับเทพเเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ Amaterasu กันที่ Amano Iwato Shrine กันก่อน
Amano Iwato Shrine อยู่ห่างจาก หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ประมาณ 17 นาที ศาลเจ้ามี 2 โซน โซนแรกเป็นศาลเจ้าหลัก ตอนที่เราไปต้นแปะก๊วยกำลังเหลืองอร่ามทั้งต้นสวยมากๆ และโซนในถ้ำ เป็นจุดที่คนนิยมไปตั้งหินบูชาเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ Amaterasu ซึ่งไกลออกจากตัวศาลเจ้าพอประมาณ ทางเดินไปที่ถ้ำ เป็นทางปูนเรียบไปตามภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน สวย บรรยากาศดีมากๆ แต่ก่อนหน้าที่เราไปมีพายุ น้ำได้ซัดเข้าไปทำลายกองหิน และเสาโทริอิภายในถ้ำเสียหาย กำลังบูรณะ แต่ก็ยังสามารถไปเที่ยวชมกันได้
การเดินทาง : ขับรถ 17 นาที จากหุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ระยะทางประมาณ 9.2 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://amanoiwato-jinja.jp/
+ ที่ตั้ง : 1073-1 Iwato, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1621 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/SmjfgJ8nWUPWo6Pr7
จากศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ (Amano Iwato Shrine) เราออกเดินทางเพื่อกลับเข้าเมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka)
ไล่มาทางเมืองอะโสะ (Aso) ผ่านฮิตะ (Hita) เพื่อกลับเข้าเมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka)
17. ศาลเจ้าอุกิฮะอินาริ | Ukiha Inari Shrine
และเราก็มาถึงจุดหมายของเราในหนึ่งในศาลเจ้ายอดนิยมที่ใครมาฟุกุโอกะ แล้วต้องห้ามพลาด เป็นศาลเจ้าบนเขา ที่มีเสาโทริอิสีแดงทอดยาวจากศาลเจ้าลงมายังเมืองอุกิฮะ(Ukiha) นิยมไปขอพรเรื่องความร่ำรวยเงินทอง กิจการรุ่งเรือง โชคดี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เราไปถึงประมาณ 15 นาทีก่อนพระอาทิตย์ตก ฟ้าสวย มองเห็นเมืองอุกิฮะที่มีแสงไประยิบระยับจากมุมสูงในยามค่ำคืน บรรยากาศดีมากๆ
การเดินทาง : ขับรถ 2.41 ชั่วโมง จากศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ (Amano Iwato Shrine)
ระยะทางประมาณ 125 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://ukiha-inari.jp/
+ ที่ตั้ง : 1513-9 Ukihamachi Nagarekawa, Ukiha, Fukuoka 839-1411 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/XqvWAaT5xYNjP76D8
18. โรงแรม | Futsukaichi Green Hotel
เป็นที่พักเล็กๆ ใกล้กับ Futsukaichi Station ตัวอาคารเป็นตึกเก่า ไม่มีลิฟท์ ฟีลเหมือนหอพักนักศึกษา เราจองเป็นห้องพักเตียงคู่ 2 ห้องราคา ¥15,288 (4,004.87 บาท) (ไม่มีอาหารเช้า) ที่จอดรถอยู่คนละจุดกับที่พัก เช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็ไปหาข้าวกิน (¥17,864) ซื้อของนิดหน่อยแล้วก็กลับมาพักเก็บแรงไว้เดินทางต่อ
?การเดินทาง : ขับรถ 52 นาที จากศาลเจ้าอุกิฮะอินาริ (Ukiha Inari Shrine) ระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 2-chōme-7-25 Futsukaichichūō, Chikushino, Fukuoka 818-0072 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/HAMF5RDR53mzxiZf6
สรุปค่าใช้จ่าย Day 3
- ค่าที่จอดรถ ¥800 (209.44 บาท)
- ค่าเรือ ¥4100 (1073.38 บาท)
- ค่ากิน ¥800 + ¥6,000 + ¥6,300 + ¥8,140 + ¥17,864 + ¥239 = ¥39,343(10,299.997 บาท)
#Day4
เช้าวันที่ 4 เราออกเดินทางจากที่พักเพื่อไปหาน้องกัปปะที่สถานีรถไฟกัปปะ Tanushimaru Station เราแวะเติมน้ำมันก่อนถึงสถานี
19. สถานีรถไฟกัปปะ | Tanushimaru Station
เป็นสถานีที่คนรักกัปปะต้องห้ามพลาด ด้วยตัวอาคารที่ออกแบบเป็นเอกลักษณ์ มีความคล้าย “กัปปะ” ภูติแห่งสายน้ำ ซึ่งเป็นมาสคอตประจำเมืองคุรุเมะ ตรงชานชลามีรูปปั้นกัปปะตัวใหญ่เหมือนรอรถไฟเป็นเพื่อนผู้คนที่เดินทางไปมาด้วยรถไฟ JR น่ารักมากๆ
นอกจากนี้ภายในสถานียังมี Kapateria Cafe เป็นคาเฟ่เล็กๆ ให้เรานั่งกิน นั่งดื่มรองท้องระหว่างรอรถไฟ ภายในคาเฟ่ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกัปปะทั้งหมด ทั้งเมนู กัปปะราเมน ของที่ระลึก ฟิกเกอร์กัปปะ และเมนูไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลย คือ กัปปะมาการอง เป็นเมนูที่เป็นรูปหน้ากัปปะ น่ารักมากๆ เลย เป็นอีกหนึ่งพิกัดเที่ยว #ฟุกุโอกะ สำหรับสาวกกัปปะต้องห้ามพลาด แวะไปถ่ายรูป แวะไปชิมมาการองกันได้
การเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที จาก ที่พัก Futsukaichi Green Hotel ระยะทางประมาณ 33.6 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kapateria.com/
+ ที่ตั้ง : 1015-2 Tanushimarumachi Tanushimaru, Kurume, Fukuoka 839-1233 ญี่ปุ่น
+ พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/pzSGF6Ewf3SsjhKp6
+ คาเฟ่เปิด – ปิด : 10.00 – 17.00 น.
20. สวนลูกพลับ | Shukuba-en 宿葉園
อีกหนึ่งพิกัด ที่ใครมา #ฟุกุโอกะ มา #คิวชู ช่วงนี้ต้องห้ามพลาด มาเก็บลูกพลับ มาชิมลูกพลับสดๆ ที่สวน
สำหรับช่วงนี้ที่ฟุกุโอกะ จะเป็นฤดูกาลของลูกพลับ ที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คาคิ (Kaki) ซึ่งเราจะเห็นได้ตามร้านผลไม้ ซุปเปอร์ จุดพักรถ และร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านเล็ก ร้านใหญ่ ยิ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปแถวเมืองอาซากุระ(Asakura) เมืองอูกิฮะ (Ukiha) จะได้เจอกับสวนลูกพลับเยอะมากๆ
แต่สวนที่ผมอยากให้ทุกคนได้ไปลองชิม คือสวน Shukuba-en 宿葉園 สวนนี้จะอยู่ที่เมืองอาซากุระ(Asakura) ในจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นสวนที่มีลูกพลับพันธุ์ไทชู อร่อยที่สุดสำหรับผมเลย มันดีงามมากๆ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ลองชิม เนื้อสัมผัสมีความต่างจากลูกพลับสายพันธุ์อื่นๆ ที่ผมเคยลองชิมมา พันธุ์ไทชูจะมีความหวาน กรุบกรอบ บวกกับขนาดของลูกที่ใหญ่มากๆ (บอกเลยว่า พันธุ์ไทชูของสวนนี้อร่อยที่สุดที่เคยชิมพันธุ์ไทชูมา)
Shukuba-en 宿葉園 เป็นสวนที่มีคุณลุงกับคุณป้าเจ้าของสวนสุดน่ารัก และใจดีมากๆ พอเราไปถึง คุณป้าปอกลูกพลับทุกพันธุ์ของสวนให้เราชิมกันก่อนเลย จะมีพันธุ์ไทชู (Taishu) พันธุ์ฟูยุ (Fuyu) และพันธุ์นิชิมุระวาเสะ แต่ละสายพันธุ์ รสชาติ ระดับความหวาน ขนาดของลูกพลับ และความกรอบไม่เท่ากัน ใครชอบแบบไหนก็เลือกได้เลย และถ้าจำไม่ผิด คุณลุงเป็นคนคิดพันธุ์ไทชูด้วยนะ ฟีลมากินจากต้นตำหรับอ่ะ บอกเลย
พอชิมกันเรียบร้อยแล้วก็สามารถซื้อกลับไปกินกันต่อที่ที่พักได้ คุณลุงจะมีตัดไว้แล้วบางส่วน หรือถ้าใครอยากลองไปตัดสดๆ จากต้น คุณลุงจะพาเดินไปตัดสดๆ ที่ต้นเลย พร้อมแนะนำวิธีการตัด และช่วยเราเลือกลูกที่แก่พอสำหรับตัดได้เลย ราคาเท่ากันทั้งตัดสด และที่ตัดเอาไว้ คือคิดเป็นกิโลกรัม ไม่ได้คิดค่าเข้าชมสวน (ตอนที่เราไป กิโลกรัมละ 870 เยน) พันธุ์ไทชูเป็นลูกพลับที่ตอนนี้ยังไม่ส่งออกต่างประเทศนะครับ เพราะฉะนั้นใครอยากชิมต้องไปชิมที่ญี่ปุ่นเท่านั้นครับ สำหรับใครที่อยากตามมาที่สวนคุณลุง ขับรถตามพิกัด GPS ที่ให้ไว้ได้เลย จอดรถริมถนน แล้วเดินขึ้นไปในซอยจะเจอบ้านคุณลุงคุณป้าเลยครับ
การเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 19 นาที จาก Tanushimaru Station ระยะทางประมาณ 11.9 กิโลเมตร
. รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : 4513-1 Hakishiwa, Asakura, Fukuoka 838-1521 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/sUKuU7uegCt
21. ศาลเจ้าดาไซฟุ | Dazaifu Tenmangu Shrine
อีกหนึ่งพิกัดห้ามพลาดของเมืองฟุกุโอกะ ศาลเจ้าดาไซฟุ เทนมันกุ (Dazaifu Tenmangu Shrine) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้าแห่งการศึกษา นักเรียนนิยมมาขอพรเรื่องการเรียน การสอบ ไฮไลท์หลักๆ ของการขอพรที่นี่ มี 3 จุด รูปปั้นวัว ลูบเขาวัวให้ฉลาดหลักแหลม ข้ามสะพานสีแดง ข้ามสะพาน ชำระล้างกายและใจให้บริสุทธิ์ และการขอพรบริเวณ ศาลเจ้าหลัก ไม่ไกลจากศาลเจ้ามีวัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji Temple) ด้วยนะ แต่ว่าช่วงที่เราไปวัดปิดปรับปรุง และอีกไฮไลท์ของ Dazaifu คือถนนทางเชื่อมจากสถานีรถไฟ Dazaifu ไปสู่ศาลเจ้า สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร (¥4512) โมจิย่างไส้ต่างๆ และร้าน Starbucks ดีไซน์ด้วยงานไม้สุดอลังการก็อยู่ที่ย่านนี้ด้วย สามารถแวะไปเดินเล่น ถ่ายรูป แล้วไปไหว้พระกันได้
การเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 48 นาที จาก Shukuba-en 宿葉園 ระยะทางประมาณ 48.9 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.dazaifutenmangu.or.jp/
+ ที่ตั้ง : 4 Chome-7-1 Saifu, Dazaifu, Fukuoka 818-0117 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps ศาลเจ้า : https://goo.gl/maps/UimVBCGjhdcHYEe19
+ แผนที่ Gps วัด : https://goo.gl/maps/7V6jAHiHuQytmbUU8
+ แผนที่ Gps Divine Bull Statue : https://goo.gl/maps/1NgtCxKzd49VXQr17
+ เวลาเปิด – ปิด : 06.30 – 18.30 น.
+ ค่าที่จอดรถ : ¥300
22. เสาโทริอิสีขาวกลางทะเล | Sakurai Futamigaura
สถานที่สุดท้ายก่อนที่เราจะคืนรถกันในวันนี้ ซากุไร ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura) เสาโทริอิ สีขาวริมทะเล และหินคู่ ที่คนมักมาถ่ายรูปและขอพร เรื่องความรักกัน เป็นอีกจุดที่บรรยากาศดี วิวดีมากๆ มีคาเฟ่ เล็กๆ หลายร้านให้เลือกเลือกนั่งชิล มีร้านจักรยานให้เช่า ด้วยนะ พวกเราไปถึงเป็นช่วงเย็นพอดี พระอาทิตย์กำลังจะตก บวกกับบรรยากาศริมทะเล ฟีลดีมากๆ เลย นักท่องเที่ยวและคู่รัก พากันมาถ่ายรูป และขอพรเยอะเลย
การเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 53 นาที จาก Dazaifu Tenmangu Shrine ระยะทางประมาณ 44.5 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://sakuraijinja.com/futamigaura/
+ ที่ตั้ง : Shimasakurai, Itoshima, Fukuoka 819-1304 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/J6FXQcqQDM5teCCh7
23. โรงแรม | Hakata Green Hotel Tenjin
ก่อนไปคืนรถ เราเอากระเป๋า และสัมภาระทั้งหมดของเราไปเก็บที่ที่พักคืนนี้กัน ที่พักในคืนนี้ของเราอยู่ย่าน Tenjin ใกล้กับ Subway Akasaka Station ประมาณ 250 เมตร เราจองได้ 2 ห้อง ¥21,580 (5,689.95 บาท) ((City Tax ภาษีเข้าพักของเมืองฟุกุโอกะ คนละ ¥200 รวม ¥800) (อาหารเช้า คนละ¥1000 รวม ¥4000 (1,256.64 บาท))) อาหารเช้ากินที่คาเฟ่ที่อยู่ที่ด้านหน้าที่พักเลย เป็นที่พักที่ราคาดี ใหม่ เดินทางสะดวก และสะอาดมาก
?การเดินทาง : ใช้เวลาเดินทาง 42 นาที จาก ซากุไร ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura) ระยะทางประมาณ 29.6 กิโลเมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://www.hakata-green.co.jp/tenjin/
+ ที่ตั้ง :2-chōme-9-11 Daimyō, Chuo Ward, Fukuoka, 810-0041 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/T2SdvhznsAysWpbM9
พอเช็คอินเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็ขับรถไปคืนที่จุดรับรถ ตรง Hakata Station ใช้เวลาเดินทาง 12 นาที ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนคืนรถ แวะเติมน้ำมัน(¥1342)
เจ้าหน้าที่จะขอดูสลิปการเติมน้ำมันก่อนคืนรถด้วยนะครับ แล้วก็จะมีให้จ่ายค่าทางด่วน (¥7400) จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปหาอะไรกินที่ย่าน Tenjin
24. ราเมงข้อสอบ | Ichiran Ramen
อีกหนึ่งไฮไลท์ของฟุกุโอกะที่ห้ามพลาด คือการมากิน Ichiran Ramen ที่เมืองต้นกำเนิด ซึ่งจริงๆ เราอยากไปกินที่โรงงานแต่ช่วงนี้โรงงานงดเปิดร้านชั่วคราว เราเลยเลือกกินสาขาที่ใกล้ที่พักที่สุด Ichiran Ramen หรือ ราเม็งข้อสอบ เป็นร้านราเม็งที่มีสาขาเยอะมากๆ ในญี่ปุ่น เป็นราเม็งที่เราสามารถเลือกท้อปปิ้ง เลือกความเผ็ด เลือกน้ำซุป เลือกปริมาณเส้นราเม็งได้ตามความชอบของเราเลย เข้าไปในร้านจะมีตู้ให้กดว่าเราต้องการเซ็ตไหน ท้อปปิ้งอะไร แล้วจ่ายเงิน พอจ่ายเสร็จ เข้าไปนั่งที่โต๊ะ ทำข้อสอบ แล้วยื่นตั๋วกับข้อสอบให้พนักงาน ไม่นานก็ได้ราเม็งตามแบบฉบับที่เราเลือกทำในข้อสอบเลย บอกเลยว่าดีงามมาก ใครมาถึงฟุกุโอกะแล้วไม่ได้มาลองถือว่ามาไม่ถึงนะครับ 🙂
? การเดินทาง : ขึ้น Subway สาย Kuko Line ปลายทาง Meinohama ชานชาลาที่ 2 จาก Hakata Station นั่งมา 2 สถานี ลงที่ Nakasukawabata Station ตั๋วราคา ¥210 (¥840)แล้วออกทาง 1 เดินต่ออีก 240 เมตร
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://ichiran.com/shop/kyushu/sohonten/
+ ที่ตั้ง : 5 Chome-3-2 Nakasu, Hakata Ward, Fukuoka, 810-0801 ญี่ปุ่น
สรุปค่าใช้จ่าย Day 4
- ค่าเดินทาง ¥840(219.91 บาท)
- ค่ากิน ¥458 + ¥1,200 + ¥550 + ¥1,150 + ¥5,200 + ¥4,512 + ¥520 + ¥122 + ¥5,500 = ¥19,212 (5,029.70 บาท)
#Day5
25. สะพานดนตรี | The melody bridge
The melody bridge หรือ สะพานดนตรี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ Tatara อยู่ตรง Kidonanzoin-Mae Station เลย ความพิเศษ ของสะพานนี้คือ ที่ราวสะพาน จะมีแผ่นเหล็กที่เป็นตัวโน๊ตเสียงต่างๆ เราสามารถใช้ไม้ตีแผ่นเหล็ก ฟีลเหมือนการตีระนาด แล้วก็จะเกิดเป็นเสียงดนตรี ใครที่จะผ่านไป – กลับ ระหว่าสถานี กับNanzoin Temple แวะไปทดสอบกันได้เลยครับ
การเดินทาง : เดินจากที่พัก 250 เมตรไปขึ้น Subway สาย Kuko Line ปลายทาง Fukuoka Airport ชานชาลาที่ 1 จาก Akasaka Station นั่งมา 4 สถานี ลงที่ Hakata Station ตั๋วราคา ¥260 (¥1,040)
แล้วออกมาขึ้น รถไฟ JR สาย Fukuhokuyutaka Line ปลายทาง Nogata ชานชาลาที่ 7 จาก Hakata Station นั่งมา 5 สถานี ลงที่ Kidonanzoin-Mae Station ตั๋วราคา ¥380 (¥1,520) แล้วเดินออกมาหน้าสถานี
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Sasaguri, Kasuya District, Fukuoka 811-2405 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/if3erTj9AMJSyQ7s6
จากสะพานเราสามารถเดินตามทางไปที่วัด Nanzoin Temple ได้เลย บรรยากาศรอบๆ ดีมากๆ
เดินได้ชิลๆ เลย
26. พระนอนองค์ใหญ่ | Nanzoin Temple
วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) หรือ วัดพระนอน เป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา ในเมืองซาซะกูริ (Sasaguri) จังหวัดฟูกุโอกะ มีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ คนมักมาขอ โชคลาภ มีเสาโทริอิสีแดง เป็นทางบันไดสูงขึ้นไปบนภูเขา มีเส้นทางธรรมชาติให้ไปสักการเทพเจ้า และวัดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญที่ชื่อเสียงของเกาะคิวชูอีกด้วย เป็นอีกวัดที่สวยมาก สามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟได้เลย
การเดินทาง : เดิน จาก The melody bridge ประมาณ 300 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://nanzoin.net/
+ ที่ตั้ง : 392 Sasaguri, Kasuya District, Fukuoka 811-2405 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/rEqFAj8umkTadif3A
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 16.30 น.
ซอฟต์ครีมที่นี่อร่อย ห้ามพลาดเลยนะครับ
ไหว้พระ ขอพรกันเรียบร้อยแล้วเราเดินทางกลับ ไปหาของอร่อยๆ ร้านเด็ดเจ้าประจำกัน
เป็นอีกสถานีที่บรรยากาศดีมากๆ เลย
27. ร้านอิซากายะ | Isomaru Suisan
เป็นร้านสไตล์อิซากายะ (Izakaya) มีสาขาทั่วญี่ปุ่น เป็นร้านที่ถ้าเราไปญี่ปุ่นทุกครั้งต้องจัดที่นี่ อย่างน้อย 1 มื้อในทริป เมนูแนะนำของร้านที่ ผมชอบมากที่สุด คือ มันปู ดีงามมากๆ อาหารทะเล สดมาก แล้วราคาก็ไม่สูงเกินไปอีกด้วย ใครยังไม่เคยลองแนะนำไปลองชิมมันปูของร้านนี้กันเลย กินกับข้าวสวยร้อนๆ ฟิน สุดๆ
การเดินทาง : เดินจากวัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) ประมาณ 200 เมตรไปที่ Kidonanzoin-Mae Station ขึ้นรถไฟสาย Fukuhokuyutaka Line ปลายทาง Hakata ลงที่ Hakata Station ตั๋วราคา ¥380 (¥1,520)
เปลี่ยนมาขึ้น Subway สาย Kuko Line ปลายทาง Meinohama ชานชาลาที่ 2 นั่งไป 2 สถานี ลงที่ Nakasukawabata Station ตั๋วราคา ¥210 (¥840) ออกทาง 5 เดินต่อ อีก 100 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.sfpdining.jp/brand/isomaru/
+ ที่ตั้ง : 1F 11-277 Kamikawabatamachi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0026 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/cGEvEiLYeThi8s2d6
+ เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 23.00 น.
28. ย่านช้อปปิ้ง | Canal City Hakata
ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นแหล่งช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์ต่างๆ โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงแรม ร้านตู้เกมส์ ตู้กาซาปองเยอะมากๆ ร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้ามีให้เลือกเยอะมากๆ ใครกำลังหาที่ช้อปมาที่นี่ที่เดียวจบ
การเดินทาง : เดินจากร้าน Isomaru suisan ประมาณ 600 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://canalcity.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-2 Sumiyoshi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0018 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/aVGcbGV5zjayuyzs5
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 21.00 น.
29. งานไฟสถานีฮากะตะ | Winter Illumination in Fukuoka 2022
เทศกาลงานไฟคริสต์มาสที่สถานีฮากาตะ ฟุกุโอกะ ปีนี้เป็นปีครบรอบ 12 ปี ของเทศกาลฤดูหนาวในฮากาตะ มีการจัดไฟระยิบระยับ กว่า 800,000 ดวงเลย สวยงามมากๆ นอกจากไฟแล้ว ยังมีโซนร้านค้าสไตล์ยุโรป ที่ขายสินค้าคริสต์มาส อาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่มีแพลนไปเที่ยวฟุกุโอกะช่วงนี้ แนะนำว่าไปเดินเล่น ถ่ายรูปกันได้
. งานนี้จัดตั้งแต่ 11 พ.ย. ถึง 25 ธ.ค. 2022 เวลาเปิดไฟ 17.00 – 24.00 น.
. รายละเอียดเพิ่มเติม
+ พิกัด : 1-1 Hakataeki-chuogai, Hakata-ku, Fukuoka
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/2EgpafKBLuPpWAgV6
30. โรงแรม | THE B
ที่พักคืนสุดท้ายของเราในทริปนี้ ได้มาในราคาที่บอกเลยว่าน้ำตาไหลมาก 2 ห้อง 14,222.46 บาท (City Tax ภาษีเข้าพักของเมืองฟุกุโอกะ คนละ ¥200 รวม ¥800(209.44 บาท)) รวมแล้ว 14431.9 บาท สำหรับค่าที่พักคืนนี้ค่อนข้างสูงเพราะตอนที่พวกผมไปจองช้าจองวันสุดท้ายก่อนบิน ที่พักเต็มหมด ราคาเลยค่อนข้างสูงจากปกติมากครับ แต่ที่เลือกที่นี่เพราะถูกที่สุดในตอนนั้น และใกล้ Hakata Station ใกล้สนามบินที่สุด ตื่นเช้ามาขึ้นแท็กซี่ไปสนามบิน ¥1170
? รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.theb-hotels.com/theb/hakata/
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-3-9 Hakataekiminami, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0016 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/XVybJFeXzdhq2c7NA
สรุปค่าใช้จ่าย Day 5
- ค่าเดินทาง รถไฟ ¥1,040 + ¥1,520 + ¥1,520 + ¥840 = ¥4920 (1,288.06 บาท)
- ค่า Taxi ¥750 + ¥1,590 + ¥800 + ¥1,110 +1,400 + ¥1,170 = ¥6.820 (1,785.48 บาท)
- ค่ากิน ¥1,200 + ¥14,331 + ¥299 + ¥108 = ¥15,938 (4,172.57 บาท)
รวมค่าใช้จ่าย
(เรทแลกเงินตอนที่แลกไป 0.2618)
– ค่าที่พัก 32,056.035 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 8,014.00875 บาท 5 คืน ตกคืนละ 1,602.80175 ต่อคน
– ค่าเช่ารถ 16,872.11 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 4,218.03 บาท
– ค่าเดินทาง + ค่า Taxi 1560.33 + 1,785.48 = 3,345.81บาท หาร 4 คน ตกคนละ 836.45 บาท
– ค่ากิน 6,203.87 + 5,432.35 + 10,299.997+ 5,029.70+4,172.57 = 31,138.49 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 7,784.62 บาท
– ค่าซิม 1996 บาท คนละ 499 บาท
– ค่าประกันการเดินทาง SOMPO 2,188.12 บาท คนละ 547.03 บาท (จาก 643.00 บาท)
รวมค่าใช้จ่าย คนละประมาณ 21,899.14 บาท
**ไม่รวมค่าช้อปปิ้งของแต่ละบุคคล **
**ไม่รวมราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับ **
รีวิวบนแฟนเพจ : 30 พิกัดขับรถเที่ยวคิวชู
#ฟุกุโอกะ #คิวชู #ซมโปะประกันภัย #ดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น #ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #ที่เที่ยวคิวชู #รีวิวญี่ปุ่น2022 #SOMPO #SompoThailand #TravelJoy #GOJAPAN #VietjetAir #ThaiVietjetAir #Yufuin #Oita #Miyasaki #Kumamoto #Fukuoka #kyushu