DAY1
– คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
– Sento Otani Hotel (ที่พัก)
DAY2
– หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine Funaya)
– Maizuru Grand Hotel (ที่พัก)
DAY3
– หมู่บ้านคายาบุกิ (Kayabuki no Sato)
– ศาลเจ้าคิฟุเนะ(Kifune Shrine)
– Meguliメグリ(ที่พัก)
DAY4
– วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
– ป่าไผ่ Arashiyama (Arashiyama Bamboo Forest)
– ศาลเจ้าเทพอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
– ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama)
– Meguliメグリ(ที่พัก)
DAY5
– ถนนชาเขียว (Byodoin Omotesando)
– วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
– ย่าน Dotonbori และ ย่าน Shinsaibashi
– Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก)
DAY6
– ศาลเจ้านัมแบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine)
– ตลาดคุโระมง (Kuromon Ichiba Market)
– พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN)
– Nipponbashi Denden Town
– Donguri Republic – Shinsaibashi PARCO
– Dotonbori
– Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก)
DAY7
– Universal Studios Japan
– Dotonbori
– Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก)
(เรทแลกเงินตอนที่แลกไป 0.256)
– ค่าที่พัก 27 752.47 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 6,938.12 บาท 7 คืน ตกคืนละ 991.16 บาท ต่อคน
– ค่าเช่ารถ 11,630.08 บาท ค่าทางด่วน 3,279.36บาท ค่าที่จอด 2086.4 บาท ค่าน้ำมัน 2,770.18 บาท รวม 19,766.02 หาร 4 คน 5 วัน ตกคนละ 4,941.51 บาท คิดเป็นวัน 988.30 บาท ต่อคน
– ค่าเดินทาง + ค่า Taxi คนละ 961.28 บาท
– ค่ากิน 41,330.43 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 10,332.60 บาท
– ค่าเข้าสถานที่ คนละ 3,229 บาท
– ค่าซิม 1,497บาท คนละ 499 บาท
– ค่าประกันการเดินทาง SOMPO 2,793.08บาท คนละ 698.27 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 6,938.12 + 4,941.51 + 961.28 + 10,332.60 + 3,229 + 499 + 698.27 คนละประมาณ 27,599.78 บาท
**ไม่รวมค่าช้อปปิ้งของแต่ละบุคคล **
**ไม่รวมราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับ **
.
ขาไป บินทุกวัน อังคาร พฤหัส เสาร์
CNX 23.00 – OSAKA 06.20 เช้าวันถัดไป
ขากลับ บินทุกวัน พุธ ศุกร์ อาทิตย์
KIX 08.30 – CNX13.20
.
ทริปนี้เราเช่ารถกับ TOYOTA Renta car เป็นการเช่าตรงกับTOYOTA Renta car ครั้งแรกเลย มันดีมากๆ เลย มีจุดบริการรับรถและคืนรถให้เลือกเยอะมากๆ เรารับรถนอกสนามบิน แล้วคืนรถแถวไซบาชิ ที่เราจะกลับมานอนในโอซาก้าวันที่คืนรถ การจองก็ไม่ยาก เลือกสถานที่รับรถ สถานที่คืนรถ เลือกรถ เลือกราคา ซื้อประกัน และ ETC กดจอง แล้วไปจ่ายเงินตอนรับรถ พอมาถึงก็เปิดอีเมลที่ได้รับตอนยืนยันการจอง ซึ่งในอีเมลจะมีทั้งข้อมูลภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่นเลย เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารต่างๆ มาให้กรอก กรอกเอกสารต่างๆ ก็มีภาษาไทยให้ด้วย แล้วก็ตรวจเช็ค รับรถ แนะนำการใช้งานรถ การเติมน้ำมัน ข้อปฏิบัติ และข้อห้ามต่างๆ
สำหรับทริปนี้ ผมใช้กระเป๋าเดินทางของ “American Tourister“ รุ่น “MAXIVO” รุ่นนี้สีสวย มีพื้นที่ใช้งานเยอะมาก ขนาดที่ใหญ่พิเศษ 82 cm (31 นิ้ว) และมีระบบห้ามล้อที่ป้องกันการลื่นไหลอีกด้วย ดีงามมาก
1. คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
บ่อออนเซ็นจะอยู่กระจายออกไป รอบๆ เมือง แต่สามารถเดินถึงกันได้
1. KONO-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 23.00 น. ปิดวันอังคาร
2. MANDARA-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 15.00 – 23.00 น. ปิดวันพุธ
3. GOSHONO-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 23.00 น. ปิดวันพฤหัสบดี
4. ICHINO-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 23.00 น. ปิดวันพุธ
5. YANAGI-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 15.00 – 23.00 น. ปิดวันพฤหัสบดี
6. JIZO-YU (ราคาคนละ 700 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 23.00 น. ปิดวันศุกร์
7. SATONO-YU (ราคาคนละ 800 เยน) เวลาเปิด – ปิด : 13.00 – 21.00 น. ปิดวันจันทร์
การเดินทาง : ขับรถจากสนามบินคันไซ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 211 กิโลเมตร
รถไฟ : Kansai-Airport Station – ขึ้น HARUKAHaruka Limited ExpressKyoto ลงที่ Osaka Station เปลี่ยนสาย ขึ้น KounotoriKounotori 5Limited ExpressKinosakionsen ชานชาลาที่ 4 ลงที่ Kinosakionsen Station ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 43 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://visitkinosaki.com/
+ ที่ตั้ง : Kinosaki Onsen จังหวัดเฮียวโงะ 669-6101 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ioMqSjprWHDB3oKp9
…………………………………………
ที่พักของเราในคืนแรก Sento Otani Hotel อยู่ในคิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) อยู่บริเวณปากอ่าว จากห้องพัก มองเห็นแม่น้ำ Maruyama เลย เราจองไป 2 ห้อง 1 คืน ราคา 5,046.56 บาท เป็นห้องแบบเตียงคู่ ไม่มีอาหารเช้า และที่พักไม่มีออนเซ็น
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://sento-otani.sakura.ne.jp/
+ ที่ตั้ง : 888 Kinosakicho Yushima, Toyooka, Hyogo 669-6101 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/upu5cMMZf945gcPS9
+ บริการจอดรถ : ฟรี
2. หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine Funaya)
.
การเดินทาง : ขับรถจากที่พักใน คิโนซากิ ออนเซ็น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ระยะทางประมาณ 65.4 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติมและวิธีการเดินทางด้วยรถไฟ : https://paikondieow.com/ine-kyoto/
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.ine-kankou.jp/en
+ ที่ตั้ง : Ine Tourist Information. Hitara,Yosa-gun Ine-cho,Kyoto ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/eNSfmEL5isgRpF4A8
3. หมู่บ้านคายาบุกิ (Kayabuki no Sato)
.
รีวิวเต็ม : https://paikondieow.com/kayabukinosato/
.
การเดินทาง : จากที่พัก Maizuru Grand Hotel ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 57.3 กิโลเมตร
: จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ขึ้นรถไฟJR สาย San-In Line ปลายทาง Sonobe ชานชาลาที่ 32 ลงที่สถานีโซโนเบะ (Sonobe Station) เปลี่ยนสายไปขึ้น รถไฟJR สาย
San-In Line ปลายทาง Toyo-Oka หรือ ปลายทาง Fukuchiyama หรือ ปลายทาง Goma ได้เหมือนกัน ลงที่สถานีฮิโยชิ (Hiyoshi Station) ราคา 770 เยน ใช้เวลาเดินทางบนรถไฟประมาณ 54 นาทีแล้วออกจากรถไฟ JR มาขึ้นรถบัส สาย Nantan City Bus จาก Hiyoshi Station ไปลงที่ป้าย Kita (Kayabuki-no Sato) ราคา 600 เยน ใช้เวลาเดินทางบนรถบัส ประมาณ 48 นาที
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://kayabukinosato.jp/
+ ที่ตั้ง : Kayabuki No Sato Miyamachokita, Nantan, Kyoto 601-0712, Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/TcmLvvJ4WPm69wHu7
+ ค่าที่จอดรถ : รถยนต์คันละ 500 เยน
…………………………………………
เนื่องจากที่พักที่ Ine Funaya เต็ม เราเลยเลือกที่นี่ Maizuru Grand Hotel เป็นที่พักที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Ine Funaya กับ Kayabuki no Sato ที่เราจะไปในวันที่ 3 ของทริป ราคาที่พัก ¥20,070 สำหรับ 2 ห้อง 1 คืน ไม่รวมอาหารเช้า ที่พักดี สะอาด ใกล้สถานี Nishi-Maizuru Station แถมมีบ่อออนเซ็นให้แช่ด้วย
.
การเดินทาง : ขับรถจาก Ine Funaya ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 56.6 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.mghotel.co.jp/
+ ที่ตั้ง : 124 Enmanji, Maizuru, Kyoto 624-0854 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/6nt3MBUJ9zADCE8BA
+ บริการจอดรถ : 300 เยน
4. ศาลเจ้าคิฟุเนะ(Kifune Shrine)
.
การเดินทาง : จาก Kayabuki no Sato มี 2 เส้นทางแนะนำให้ใช้เส้นที่เวลาเดินทางประมาณ1 ชม. 16 นาที ระยะทางประมาณ 55.7 กิโลเมตร (เส้นที่เร็วกว่าต้องวิ่งเลาะริมภูเขา ในป่า เป็นเส้นทางแบบเลนเดียว สวนทางค่อนข้างยาก)
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://kifunejinja.jp/
+ ที่ตั้ง : 180 Kuramakibunecho, Sakyo Ward, Kyoto, 601-1112 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Xw97xbybXUSp3UfVA
+ เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.
5. วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
.
การเดินทาง : จากที่พักMeguliメグリ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ระยะทางประมาณ 10.3 กิโลเมตร
รายละเอียดการเดินทางด้วยรถสาธารณะ : https://paikondieow.com/7days-kansai/
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://www.shokoku-ji.jp/kinkakuji/
+ ที่ตั้ง : 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, 603-8361 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/3vcVQFnppoSnh4gk9
+ เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
+ ค่าเข้าชม : คนละ 400 เยน
+ ค่าที่จอดรถ : 450 เยน
6. ป่าไผ่ Arashiyama (Arashiyama Bamboo Forest)
.
การเดินทาง : จากวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที ระยะทางประมาณ 7.2 กิโลเมตร
รายละเอียดการเดินทางด้วยรถสาธารณะ : https://paikondieow.com/7days-kansai/
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Arashiyama Bamboo Forest Sagaogurayama Tabuchiyamacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8394 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/v3FCEVGQfAmBHs837
+ แผนที่ Gps จุดจอดรถ (ชั่วโมงละ 500 เยน) : https://goo.gl/maps/ZRobPM91kyGw6PRg9
.
ร้านเปิด 11.00 – 16.00 น. บอกไว้ก่อนช่วงเที่ยงคนเยอะมาก
7. ศาลเจ้าเทพอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
.
การเดินทาง : จากป่าไผ่ Arashiyama ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที ระยะทางประมาณ 13.9 กิโลเมตร
รายละเอียดการเดินทางด้วยรถสาธารณะ : https://paikondieow.com/7days-kansai/
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : http://inari.jp/
+ ที่ตั้ง : 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/j9VZNr3ix8oSSFoS8
8. ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama)
.
การเดินทาง : จากศาลเจ้าเทพอินาริ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
รายละเอียดการเดินทางด้วยรถสาธารณะ : https://paikondieow.com/7days-kansai/
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Higashiyama Ward, Kyoto,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/tRphNMe5NyCfurad9
…………………………………………
ที่พักเป็นสไตล์บ้านทาวโฮม ด้านใน มี 2 ชั้น เปิดเข้าไปซ้ายมือเป็นห้องนั่งเล่น โถงตรงกลางเป็นห้องครัว ถัดจากห้องครัวเป็นโซนแยก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว มีเครื่องซักผ้า อุปกรณ์ห้องครัวให้ครบเลย ชั้นบนเป็นห้องนอนมี 3 ห้อง เราพักที่นี่ 2 คืน ราคา 20,800 เยน บ้านอยู่ในซอยย่อย ไม่มีที่จอดรถ แต่มีที่จอดรถใกล้ๆ ประมาณ 50 เมตร ค่าที่จอด 20.00 – 08.00 น. ราคา 300 เยน ถ้าใครมากันเป็นกลุ่ม ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ ที่พักสะอาด ราคาดีงาม
.
การเดินทาง : จากศาลเจ้าคิฟุเนะ(Kifune Shrine) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ระยะทางประมาณ 17.5 กิโลเมตร
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://meguli.jphotel.site/
+ ที่ตั้ง : 40-6 Higashikujo Ukabecho, Minami Ward, Kyoto, 601-8021 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/3BewE3MiTLGbGBPy6
+ บริการจอดรถ : ไม่มี
9. ถนนชาเขียว (Byodoin Omotesando)
เมืองอุจิ (Uji) เป็นแหล่งผลิตชาเขียวชื่อดังของญี่ปุ่น และถ้าใครอยากหาชาเขียวของเมืองกลับไปเป็นของฝาก หรืออยากลิ้มรสชาติของชาเขียวชื่อดัง ที่ถนนชาเขียว (Byodoin Omotesando) มีให้เลือกเยอะมากๆ แถมยังมีเมนูที่ชาเขียวแบบใหม่ๆให้ได้ลองชิมอีกด้วย ทั้งทาโกะยากิชาเขียว เกี๊ยวซ่าชสเขียว ราเมนชาเขียวของร้าน Rokujoan แต่ถ้าใครชอบสตล์หวานเย็นเครื่องแน่ๆ ต้องร้านนี้ Todouan และสำหรับคนชอบกินซอฟต์ครีม แบบผมต้องห้ามพลาดซอฟต์ครีมชาเขียวของร้านนี้เลย Masuda Chaho นุ่ม ละมุนมาก และสุดท้าย เมนูเครี่องดื่มที่ใช้ชาเขียวเป็นส่วนผมสม Akamon-chaya เป็นร้านที่ใช้ชาเขียวเกรดพรีเมียม ราคาก็จะค่อนข้างสูงนิดนึงครับ ถนนสายนี้จะอยู่ตรงทางเข้าวัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) เลย ใครมาวัดห้ามพลาดเลย
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : Uji, Kyoto 611-0021 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/B4oy2AjdJF4tbmCw5
+ เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
เมนูชาเขียวที่ต้องห้ามพลาดเลย
– เกี๊ยวชาเขียว
– ทาโกะยากิชาเขียว
– ไอติมชาเขียว
– เบียร์ชาเขียว
– ดังโงะชาเขียว
– หวานเย็นชาเขียว
ร้านนี้คือน่ารักสุดในย่านชาเขียวเลย ใครไปต้องแวะ
อีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาด ร้านนี้มีเบียร์ชาเขียวด้วย
10. วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) อีกหนึ่งพิกัดเที่ยวห้ามพลาดของเมืองอุจิ (Uji) หนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี ไฮไลท์ของที่นี่วิหารไม้สีแดงสดกลางน้ำ ซึ่งตัววิหารไม้เป็นต้นแบบเของวัดที่อยู่ในเหรียญ 10 เยนนั่นเอง แล้วยังมี Hoshokan Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของโบราณที่มีอายุกว่า 1,000 ปี
.
การเดินทาง : จากที่พัก Meguliメグリ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที ระยะทางประมาณ 16.7 กิโลเมตร
รายละเอียดการเดินทางด้วยรถสาธารณะ : https://paikondieow.com/7days-kansai/
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/byodoin.official/
+ เว็บไซต์ : https://www.byodoin.or.jp/around/watch/
+ ที่ตั้ง : Renge-115 Uji, Kyoto 611-0021 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/mGdMeXygRffSjx9Y9
+ เวลาเปิด – ปิด : 08.30 – 17.30 น.
+ ค่าเข้าชม : คนละ 600 เยน
+ ค่าที่จอดรถ : วันละ 700 เยน
จากนั้นเราเดินทางกลับเข้าเมืองโอซาก้า เราจะพักที่โอซาก้า ทั้งหมด 3 คืน แล้วเดินทางด้วยรถไฟ เพราะที่พักที่โอซาก้าไม่มีที่จอดรถ ค่าที่จอดราคาค่อนข้างสูง บวกกับแต่ละที่ที่เราไปสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ และเราพักที่เดียวไม่ต้องขนกระเป๋า ฝากกระเป๋า เราเลยไปเช็คอินแล้วเก็บกระเป๋า ที่ Dotonbori Shinsaibashi Hotel ก่อน แล้วไปเติมน้ำมันแล้วไปคืนรถ
.
การเดินทาง : จากที่จอดรถ Byodoin Parking Lot เดินทางมาที่ Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 52 นาที ระยะทางประมาณ 50.3 กิโลเมตร
11. ย่าน Dotonbori และ ย่าน Shinsaibashi
ต้องยกให้ที่นี่เป็นหนึ่งใน ย่านช้อปปิ้ง ย่านกินดื่มยอดนิยมของเมืองโอซาก้าเลย เพราะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เยอะมากๆ ทั้งราเมงข้อสอบ ราเมงมังกร ร้านทาโกะยากิ ร้านซูชิ ร้านปูชื่อดัง และร้าน Isomaru Suisan Dotonbori ร้านนั่งดื่ม มีอาหารทะเลปิ้งย่างแบบตามสั่ง เปิด 24 ชม. แล้วยังมี ร้านดองกิโฮเต้ที่เปิด ให้ช้อป 24 ชม.อีกด้วย แถมยังใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) แบบเดินตัดกันเลย คือมาที่นี่ที่เดียวจบ ของกิน ของฝาก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ วิตามินต่างๆ ครบมาก รวมถึงมุมถ่ายรูปยอดฮิตกับป้ายกูริโก๊ะ (Glico Running Man) ก็อยู่ที่นี่ด้วย ที่เดียวคือจบมาก เรานอนที่ Dotonbori Shinsaibashi Hotel 3 คืน ตะลุยกิน ตะลอนช้อปทุกคืน ฟินสุดๆ
.
การเดินทาง : เดินจาก TOYOTA Renta car สาขาชินไซบาชิ เซ็มบะ ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : www.city.osaka.lg.jp
+ ที่ตั้ง : Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071, Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/kaMeXMUo2r67S3VT9
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.30 – 21.00 น.
ของกินย่านนี้เยอะมาก อยากให้ทุกคนมาลองกัน ทริปนี้กินได้ประมาณนี้ ราเมงมังกร ฟรีข้าวเปล่าและเครื่องเคียงต่างๆ ซุปเข้มข้นอยากให้มาลอง
ว่างๆ ก็มาเล่นยิงเป้าได้นะครับ มีหลายร้านเลย
Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก)
…………………………………………
ที่พักสไตล์เรียลกัง ที่นอนแบบฟู ห้องปูด้วยเสื่อทาทามิ มีห้องน้ำในตัว ห้องใหม่ สะอาดมาก แต่ไม่มีพนักงานต้อนรับ เช็คอิน เช็คเอาท์ ด้วยตัวเอง แต่ที่ดีที่สุดคือ ใกล้ ย่าน Dotonbori แค่ข้ามถนน ข้างที่พักมี Lawson และ Parking ทำเลดี ราคาก็ดี 2 ห้อง 3 คืน ราคา 12,243.19 บาท ใกล้สถานีรถไฟMetro Nippombashi Station และตลาดคุโระมงอีกด้วย
.
การเดินทาง : เดินจาก Dotonbori 140 เมตร
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://dotonbori-s-hotel.com/
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-17-7 Shimanouchi, Chuo Ward, Osaka, 542-0082 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/ZnvmGBqThwsSGhWc8
+ บริการจอดรถ : ไม่มี
12. ศาลเจ้านัมแบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine)
หนึ่งในพิกัดเที่ยวโอซาก้า ที่สายมูห้ามพลาด! ศาลเจ้านัมแบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) หรือศาลเจ้าหัวสิงโตยักษ์ ที่จะมามูก็ได้ มาถ่ายรูปก็ปัง สำหรับสายมู เชื่อกันว่ามาไหว้ที่นี่ช่วยกลืนกินสิ่งไม่ดี ให้หายไปจากตัวเรา และเอาสิ่งดีๆ เข้ามาแทน ที่นี่คนนิยมมาขอพร เรื่องการเรียน ด้านการงาน และด้านธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งพิกัดใครที่ไปเที่ยวโอซาก้า เที่ยวโซนนัมบะ ต้องห้ามพลาด
.
การเดินทาง : ขึ้น Taxi จาก Dotonbori Shinsaibashi Hotel (ที่พัก) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ราคา 1,000 เยน (มิเตอร์เริ่มต้นจาก 680 เยน)
รถไฟ : เดินจาก Dotombori Shinsaibashi Hotel 350 เมตร ไปที่ Nippombashi Station ขึ้นรถไฟMetro สาย Sennichimae Line ปลายทาง Nodahanshin จากชานชาลาที่ 2 ลงที่ Namba Station ราคาคนละ 180 เยน แล้วออกทาง 6 เดินต่ออีก 800 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : https://nambayasaka.jp/
+ ที่ตั้ง :2 Chome-9-19 Motomachi, Naniwa Ward, Osaka, 556-0016 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/HFp5P5XgLncMczp87
+ เวลาเปิด – ปิด : 06:30 – 17:00 น.
13. ตลาดคุโระมง (Kuromon Ichiba Market)
ตลาดคุโรมง Kuromon Ichiba Market ยังคงเป็นตลาดในดวงใจของผม ที่ไม่ว่าจะมาโอซาก้ากี่ครั้งต่อก็ครั้งก็ยังต้องมาที่นี่ซ้ำๆ เพราะมีร้านให้เลือกเยอะ เป็นแหล่งรวมของกิน ของฝาก ผลไม้สด อาหารทะเลสดมาก แถมเดินทางง่ายใครพักย่าน Dotonbori เดินไปได้เลย ตลาดเปิดประมาณ 10.00 -17.00 น. หรือบางร้านอาจเปิดเช้ากว่า และบางร้านอาจปิดช้ากว่า อย่างรอบนี้ไปกินเนื้อย่าง อูนิ แล้วก็ทูน่า แนะนำร้านนี้เลย Kurogin Tuna Store https://goo.gl/maps/mUcfMwiAHeU4LAHw5 เราสามารถเลือกเนื้อแต่ละส่วน แต่ละชิ้นราคาไม่เท่ากัน พอจ่ายเงินเสร็จก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้เชฟแร่เป็นซาชิมิ หรือซูชิ ทูน่าสด อร่อย ไม่คาวเลย ดีงามมาก ใครไปต้องลอง ห้ามพลาดเลยครับ
.
การเดินทาง : ขึ้น Taxi จาก ศาลเจ้านัมแบะ ยาซากะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 นาที ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ราคา 780 เยน (มิเตอร์เริ่มต้นจาก 600 เยน)
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : 黒門市場商店街振興組合
+ เว็บไซต์ : https://kuromon.com/jp/
+ ที่ตั้ง : 2 Chome Nipponbashi, Chuo Ward, Osaka, 542-0073 , Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/F3ovkSahsj3Bf3T2A
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 16.00 น.
ไข่หอยเม่น
ทูน่า ร้าน Kurogin Tuna Store https://goo.gl/maps/mUcfMwiAHeU4LAHw5 เราสามารถเลือกเนื้อแต่ละส่วน แต่ละชิ้นราคาไม่เท่ากัน พอจ่ายเงินเสร็จก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้เชฟแร่เป็นซาชิมิ หรือซูชิ ทูน่าสด อร่อย ไม่คาวเลย ดีงามมาก ใครไปต้องลอง ห้ามพลาดเลยครับ
มาตลาดนี้ไม่ผิดหวัง ของกินสดๆ เยอะมาก
14. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง 海遊館 OSAKA AQUARIUM KAIYUKAN (JAPAN) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดปังกลางโอซาก้า บอกเลยว่ายิ่งใหญ่และดีงามมากๆ เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปที่นี่ ดีมากจนอยากเลื่อนตั๋วกลับไทยแล้วอยู่ที่นี่ต่อทั้งวัน ด้านในอควาเรียมจะลักษณะเป็นวงกลม เดินลงมาเรื่อยๆ แต่ตอนแรกเราจะขึ้นบันไดเลื่อนยาวมาก เพื่อขึ้นไปที่ด้านบนสุดของอควาเรียม และเริ่มต้นที่อุโมงค์ใต้น้ำ แล้วก็จะไปเจอกับน้องนาคดุ๊กดิ๊ก น่ารักมาก แล้วก็เดินลงไปเรื่อยๆ เจอน้องปลา น้องเป็ด เจ้าอุ๋ง น้องสิงโตทะเล น้องเพนกวิ้น น้องโลมา และไฮไลท์ของที่นี่ น้องปลาฉลามวาฬ 2 ตัว จากทะเลแปซิฟิก เป็นการจำลองท้องทะเลแปซิฟิกมาไว้ให้เราดูได้อย่างใกล้ชิด ถ้าใครอยากมาดูโชว์ให้ฉลามวาฬ จะมี 2 รอบ เวลา 10.30 น. และ 15.00 น. เลยครับ
.
การเดินทาง : จากที่พักย่าน Dotonbori เดินขึ้นรถไฟเมโทรที่ Nippombashi Station ตั๋วรถไฟ ราคาคนละ 280 เยน ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji Line ปลายทาง Kita – Senri ชานชาลาที่ 2 ขึ้นไป 2 สถานี ลงที่ Sakaisuji Hommachi Station เปลี่ยนสายเป็น Chuo Line ปลายทาง Cosmo Square ชานชาลาที่ 2 ขึ้นไป 6 สถานี ลงที่ Osakako Station แล้วออกที่ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีก 650 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : www.kaiyukan.com
+ ที่ตั้ง : 1 Chome-1-10 Kaigandori, Minato Ward, Osaka, 552-0022 ญี่ปุ่น
+ พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/BoSNUvMsUyt5CJWA6
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 20.00 น.
+ ค่าเข้าชม : คนละ 2700 เยน
เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จ ก็อย่าลืมกินซอฟครีมปลาวาฬน้อยด้วยนะครับ
15. ย่าน Nipponbashi Denden Town
แดนสวรรค์ของคนรักการ์ตูน ดินแดนของเล่นของสะสมแห่งโอซาก้า เป็นศูนย์รวมร้านเกม ร้านขายโมเดล ฟิกเกอร์ และร้านเช่า การ์ตูนและอนิเมะ ของเล่น ของสะสม ตู้กาซาปอง รวมถึง Big Camera และห้างสรรพสินค้าที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่ที่สุดในโอซาก้าเลยทีเดียว
.
การเดินทาง : จาก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง เดิน 650 ไปที่ Osakako Station ขึ้นรถไฟ สาย Chuo Line ปลายทาง Morinomiya ชานชาลาที่ 1 ลงที่ Sakaisuji Hommachi Station เปลี่ยนสาย ไป Sakaisuji Line ปลายทาง Tengachaya ชานชาลาที่ 1 ลงที่ Ebisucho Station ราคา คนละ 280 เยน ออกทางออก 1-A เดินต่อ 500 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ แฟนเพจ : 日本橋まちづくり振興
+ เว็บไซต์ : https://www.nippombashi.jp/
+ ที่ตั้ง : Japan 〒556-0005 Osaka, Naniwa Ward, Nipponbashi, 3 Chome, 〜5丁目
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/Wh9o1FUH5gfm8KER8
+ เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 19.00 น.
มีของเล่นเยอะมากใครสายสะสมบอกเลยว่ามาย่านนี้ ล้มละลายแน่ๆ โซนกาชาปอง ตู้คีบตุ๊กตา มีให้เล่นเพียบ
16. Donguri Republic – Shinsaibashi PARCO
เหล่าสาวก Studio Ghibli ต้องห้ามพลาดเลย Donguri Republic ชั้น 6 ห้าง PARCO สาขาShinsaibashi แหล่งรวม ของเหล่าสาวก โทโทโร่ และ Studio Ghibli พร้อมมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เพียบ สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ฟรี
.
การเดินทาง : เดินจาก Nipponbashi Denden Town 400 เมตร ไปขึ้นรถไฟที่ Ebisucho Station ขึ้นสาย Sakaisuji Line ปลายทาง Kita-Senri ชานชาลาที่ 2 ลงที่ Nagahoribashi Station ราคาคนละ 190 เยน ออกทางออก 7 แล้วเดินต่อ 700 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ ที่ตั้ง : ห้าง PARCO Shinsaibashi ชั้น 6 ,Japan
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/89tqqNhxKacN6s6X7
+ เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 20.00 น.
17. Universal Studios Japan
เปิดประสบการณ์สุดประทับใจสวนสนุกสุดอลังการ มีโซนใหม่เอาใจคนรักมาริโอ้และโดราเอมอน ใครที่ใฝ่ฝันอยากหลุดเข้าไปในเกมมาริโอ้แล้วล่ะก็ สวนสนุกแห่งนี้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กของเราสุด ๆ สำหรับคนที่อยากออกแรง ที่นี่ก็มีกิจกรรมและภารกิจต่าง ๆ ให้เราได้ร่วมสนุกมากมาย รวมทั้งมีคาเฟ่ไว้เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว แล้วยังมี Minion Park , Doraemon ,The Wizarding World of Harry Potter ,Universal Wonderland กับเครื่องเล่น และเหล่าตัวการ์ตูนสุดน่ารักอีกเพียบ
.
การเดินทาง : เดินจาก Dotombori Shinsaibashi Hotel ที่พัก 450 เมตร ไปที่ Kintetsu-Nippombashi Station ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu-Nara Line Sub Semi-ExpressAmagasaki ชานชาลาที่ 2 ไปลงที่ Nishikujō Station ราคา คนละ 370 เยน ออกไปขึ้นรถไฟ JR สาย Yumesaki Line ปลายทาง Sakurajima นั่งไป 2 สถานี ลงที่ Universal-City Station ราคา คนละ 160 เยน
.
รายละเอียดเพิ่มเติม
+ เว็บไซต์ : www.usj.co.jp
+ ที่ตั้ง : 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031 ญี่ปุ่น
+ แผนที่ Gps : https://goo.gl/maps/wED85RKdCsqcRbnV9
+ การเดินทาง : มีทั้งรถบัส และรถไฟ ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน ให้หาพิกัด GPS มาที่ Universal-City Station เป็นอันว่าถึงแน่นอน
+ เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 21.30 น. เวลาเปิด – ปิด แต่ละวันไม่เท่ากัน
+ ค่าเข้าชม : คนละ 2,205 บาท
*จองบัตรล่วงหน้าก่อนไปผ่าน Klook ไม่ต้องแลกบัตร ใช้คิวอาร์โค้ดในมือถือสแกนเข้าสวนสนุกได้เลย
.
USJ https://klook.onelink.me/1436524434/PKDUSJ
Campaign https://klook.onelink.me/1436524434/TTKOL
.
สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth bit.ly/klookthoa
.
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย
https://klook.onelink.me/1436524434/CEG
โซนที่พลาดไม่ได้เลย มาทุกครั้ง ก็มินเนี่ยนนี่แหละครับ ต่อมาก็โซนยอดฮิตที่ทุกคนต้องมา SUPER NINTENDO WORLD™ หรือโซน Mario นั่นเอง ขนาดมาที่นี่ 2 รอบแล้ว ก็ยังตื่นเต้นกับความสวยงาม และความอลังการของที่นี่ สำหรับโซน Mario คือของสะสมเยอะมาก น่าซื้อเต็มไปหมด มาถึงอีกโซนที่คนเยอะไม่แพ้กันคือ THE WIZARDING WORLD OF HARRY POTTER™ หรือโซนแฮรี่พอตเตอร์ ที่บอกเลยว่ามากี่ครั้งคนก็เยอะตลอด
ญี่ปุ่นทริปนี้ เป็นการบินไปเที่ยวจากเชียงใหม่เป็นครั้งแรก กับ “Thai Vietjet Air” เป็นเส้นทางเปิดใหม่ บินตรง เชียงใหม่ -โอซาก้า เรียกว่าเอาใจ คนที่อยู่ทางภาคเหนือเลย หรือถ้าใครจะไปจากกรุงเทพฯ ราคาตั๋วก็ดีงามนะ นอกจากราคาแล้ว เครื่องที่นั่งไปก็ใหญ่นั่งสบาย
ใครกำลังแพลนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากๆ และก็สามารถตามรอยแพลนเที่ยวของผมได้เลยนะครับ
ขอให้มีความสุขกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ
รีวิวบนแฟนเพจ : แจกแพลน 17 พิกัดเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า เกียวโต เฮียวโงะ 7 วัน 7 คืน (ช่วงหน้าหนาว)
#ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #ที่เที่ยวเกียวโต #ที่เที่ยวโอซาก้า #ที่เที่ยวคันไซ #รีวิวญี่ปุ่น2023 #VietjetAir #ThaiVietjetAir #Kyoto #Osaka #Kansai #Japan #VisitJapan